- 10 ต.ค. 2559
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://panyayan.tnews.co.th
ความลี้ลับมหัศจรรย์ในพระพุทธศาสนานั้นเป็นสิ่งที่ยังคงปรากฏอยู่ทุกยุคทุกสมัย ท้าทายความเชื่อตามหลักวิทยาศาสตร์ของคนยุคปัจจุบัน หากแต่ปาฏิหาริย์ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาตินั้นมักปรากฏเป็นเหตุการณ์เฉพาะตัว บุคคล ที่ทางพระเรียกว่า “ปัจจัตตัง” เท่านั้น และหนึ่งในเรื่องราวหลากร้อยหลายพันเรื่องปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นภายใต้ร่มเงาแห่งพระพุทธศาสนานั้น เรื่องของ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” นับเป็นเรื่องหนึ่งที่อยู่ในกระแสแห่งความสนใจของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงนักปฏิบัติกรรมฐาน
เรื่อง ราวของหลวงปู่โลกอุดรเป็นเรื่องที่เล่าลือเป็นเวลานานกว่า ๖๐ ปีที่ผ่านมา มีเรื่องราวประสบการณ์ของผู้ที่ได้พบเจอ อาทิเช่นได้ใส่บาตร ได้พบในนิมิต ได้ฟังหลวงปู่เทศนาสั่งสอน อย่างใดอย่างหนึ่งมาโดยตลอด โดยระบุว่า หลวงปู่โลกอุดร เป็นพระภิกษุลี้ลับไปมาไร้ร่องรอย ปรากฏกายได้ทุกรูปแบบ ทรงซึ่งอภิญญาสูงสุด มีอายุยืนนานหลายร้อยหลายพันปีมาแล้ว ไม่อาจคำนวนนับได้แม้แต่ชื่อเรียกท่านเองก็เป็นเพียงชื่อสมมุติเท่านั้น ไม่มีใครรู้จักนามท่านจริงๆ ว่าคือใคร
มีข้อสันณิฐานเกี่ยวกับหลวงปู่โลกอุดรไว้มากมายหลายข้อมูล บ้างก็ว่าท่านคือพระภิกษุรูปสุดท้ายที่พระพุทธองค์ทรงประทานเอหิภิกขุอุปปสัมปทาให้โดยตรง และมีพระพุทธบัญชาให้รักษาพระพุทธศาสนาครบถ้วน ๕,๐๐๐ ปี บ้างกล่าวว่าหลวงปู่โลกอุดรอาจเป็นพระอุปคุตเถระ ผู้ทรง อภิญญาสมาบัติสูงสุดองค์หนึ่ง ได้รับพุทธบัญชาให้ดุแลพระพุทธศาสนาจนครบ ๕,๐๐๐ ปีจึงเข้านิพพาน ปัจจุบันทางเหนือของไทย รวมไปถึงไทยใหญ่ พม่า มอญก็ยังเชื่อว่าพระอุปคุตยังมีชีวิตอยู่ และจะมาโปรดในวันที่พระจันทร์เต็มดวงตรงกับวันพุธ โดยทางเหนือจะเรียกวันนี้ว่า “วันเพ็งพุธ” จะมีการใส่บาตรเที่ยงคืนในวันนี้ด้วย
บ้างก็เชื่อว่าหลวงปู่โลกอุดร คือ “พระอุตตระเถระ” ผู้มาพร้อมกับพระโสณะเถระ เป็นสมณะทูตที่พระเจ้าอโศกมหาราชส่งมาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ เชื่อกันว่าพระอุตตระนั้นยังดำรงสังขารขันธ์อยู่เพื่อดูแลพระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ
ในทุกๆ ข้อมูลจะมีความเชื่อร่วมกันอย่างน้อยหนึ่งข้อคือ หลวงปู่โลกอุดรนั้นมิใช่เป็นเพียงวิญญาณของพระทรงอภิญญา หากแต่เป็นพระภิกษุที่บรรลุธรรมขั้นสูงสุดและยังมีชีวิตอยู่ตราบมาจนถึงปัจจุบันนี้ อาจมีอายุเป็นร้อยหรือเป็นพันปีมาแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่าทำหน้าที่รักษาดูแลพระพุทธศาสนาให้ครบ ๕ พันปีนั่นเอง
ธรรมะบางข้อของบรมครูพระเทพโลกอุดร
1. ธรรมะของท่านต้องเกิดจากการปฏิบัติเท่านั้น
2. ต้องมีสติอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก
3. อยากรู้ธรรมะ หรือคำสอนของท่านให้ดูจิตตนเอง
4. ให้รักผู้อื่นเหมือนที่รักตนเอง
5. ให้ทำตัวเหมือนน้ำ
- น้ำไปได้ทุกสถานที่ อยู่ในน้ำ ในอากาศ ในดิน
- น้ำอยู่ใต้ทุกสภาวะ เป็นไอน้ำ เป็นน้ำ เป็นน้ำแข็ง
- น้ำให้ความชุ่มชื้น สดชื่น แก้กระหาย น้ำให้ชีวิต และทำลายชีวิต
- น้ำให้ความเย็น ให้ความร้อน
- น้ำมีรูปร่างต่างๆ กันตามรูปร่างของภาชนะ
- น้ำใช้ล้างความสกปรกให้สะอาด....
(คุณสิริพันธุ์ สีทองดี เป็นผู้สื่อจิตรับกระแสธรรมะจากหลวงปู่เทพโลกอุดร)
ท่านจะสอนลูกศิษย์เสมอว่า อดีต เป็นเรื่องที่ผ่านพ้นไปแล้ว ไม่ต้องนำมาคิด อนาคต เป็นเรื่องที่ยังมาไม่ถึง ไม่ควรไปสนใจให้เสียเวลา ปัจจุบัน สำคัญที่สุดให้เร่งศึกษา เร่งปฏิบัติ
เมื่อถามถึงชื่อท่าน ท่านก็จะไม่ตอบ แต่จะบอกว่าอย่ามัวไปเสียเวลากับชื่อ ให้เร่งปฏิบัติ เป็นการตอกย้ำว่า ช่วงเวลาของชีวิตนี้น้อยนักไม่เพียงพอแก่การปฏิบัติอยู่แล้วอย่ามัวไปเสีย เวลากับการไม่ปฏิบัติอยู่เลย
ท้ายสุดนี้บางท่านเชื่อว่าบรมครูหลวงปู่เทพโลกอุดรคือ “พระมหาโพธิศรีอุดม” ซึ่งชื่อนี้พระมหากัสสปะ เป็นผู้ตั้งให้ บิดาท่านเป็นชาวเนปาล มารดาท่านเป็นชาวทิเบต เรื่องราวของหลวงปู่โลกอุดรนั้นเป็นที่สนใจ เป็นมนต์เสน่ห์อย่างหนึ่งของผู้ปฏิบัติกรรมฐาน แม้ว่าหลายคนไม่เคยเห็นหลวงปู่โลกอุดรแต่ก็พยายามตั้งความหวังที่จะได้เห็น ท่านสักครั้งในชีวิต แรงบันดาลใจจากเรื่องราวของหลวงปู่โลกอุดร ก่อให้เกิดแรงใจในการปฏิบัติกรรมฐานของพุทธศาสนาชนขึ้นมาจำนวนมาก
ดังนั้นเรื่องราวของหลวงปู่โลกอุดรจึงเป็นเรื่องราวที่น่าสืบค้น และอย่างน้อยที่สุดเราก็เชื่อได้ว่า การแสวงหาหลวงปู่โลกอุดรนั้นแม้ว่าเราอาจไม่พบตัวตนจริงๆ ของท่าน แต่หากมีความเพียรในการปฏิบัติธรรมเราย่อมอาจพบ “โลกอุดร” ภายในใจของเราเอง ซึ่งเป็นโลกอุดรแท้อันทรงคุณค่าเป็นรางวัลแห่งการปฏิบัติอย่างแท้จริงและผู้ที่พบความเป็นโลกอุดรภายในใจตนย่อมเสมือนว่าได้พบหลวงปู่ใหญ่ บรมครูโลกอุดรแล้ว ดั่งคำที่ว่า “ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นตถาคต....” นั่นแล
คาถาพระไตรรัตน์ฌานโลกอุดร ๑๙ บท (โลกุตระธรรม ๑๙)
โลกุตตะรัง ชานัง โลกุตตะรังมัคคัง ชานัง โลกุตตะรัง ปัฏฐานัง ชานัง โลกุตตะรัง สัมมะปัฏฐานัง ชานัง โลกุตตะรัง อิทธิปาทัง ชานัง โลกุตตะรัง อินทรียัง ชานัง โลกุตตรัง พะลัง ชานัง
โลกุตตะรัง โพชังคัง ชานัง โลกุตตะรัง สัจจัง ชานัง โลกุตตะรัง สัมมัฐถัง ชานัง โลกุตตะรัง ธัมมัง ชานัง
โลกุตตะรัง ขันธัง ชานัง โลกุตตะรัง อายะตะนัง ชานัง โลกุตตะรัง ธาตุง ชานัง โลกุตตะรัง อาภารัง ชานัง
โลกุตตะรัง ผาสัง ชานัง โลกุตตะรัง เวทะนะ ชานัง โลกุตตะรัง สุญญัง ชานัง โลกุตตะรัง เจตะนัง ชานัง
โลกุตตะรัง จิตตัง ชานัง
โลกุตตะรัง ฌานัง โลกุตตะรัง สติปัฏฐานัง โลกุตตะรัง สัมมัปปธานัง ฌานัง โลกุตตะรัง อิทธิปาทัง ฌานัง โลกุตตะรัง อินทริยัง ฌานัง โลกุตตะรัง พลัง ฌานัง โลกุตตะรัง โพชฌังคัง ฌานัง
โลกุตตะรัง มัคคัง ฌานัง โลกุตตะรัง สัจจัง ฌานัง โลกุตตะรัง สมถัง ฌานัง
โลกุตตะรัง ธัมมัง ฌานัง โลกุตตะรัง ขันธัง ฌานัง โลกุตตะรัง อายะตะนัง ฌานัง โลกุตตะรัง ธาตัง ฌานัง โลกุตตะรัง อาหารัง ฌานัง โลกุตตะรัง ผัสสัง ฌานัง โลกุตตะรัง เวทนัง ฌานัง โลกุตตะรัง สุญญัง ฌานัง โลกุตตะรัง เจตนัง ฌานัง
อานิสงค์การภาวนาพระคาถาฌานโลกอุดร
พระคาถาโลกุตตระฌานัง ๑๙ นี้ท่านอาจารย์ผู้เฒ่าท่านว่า สามารถทำหายตัวโดยเสก ๗ ที อธิษฐานว่า ตัวกูจงหายไป อย่าให้คนเห็นกูเลย ถ้าจะให้เห็นตัวเอามือซ้ายตบอก ๗ ที ท่านให้เอาใบมะขาม ใบมะยม ๑๙๗ ใบ เสกจนจบเท่าใบไม้ อธิษฐานว่าใบไม้จงเป็นตัวต่อแตน เอามือซ้ายตบลงไปบนใบมะขาม มะยม ๗ ทีเป็นต่อแตน แลเอามือขวาตบก็เป็นใบไม้แล เสดาะประแจ ภวนารูดอธิษฐานหลุดออกหมดแล
คาถาสวดย่อบูชาหลวงปู่โลกอุดรนะโม ๓ จบ
โลกุตตะโร จะ มะหาเถโร อะหัง วันทามิ ตัง สะทา เมตตาลาโภ นะโสมิยะ อะหะพุทโธฯ ภาวนา ๓ จบ ๗ จบ หรือ ๙ จบ เช้า-เย็น ตื่นนอน และก่อนนอน
อ่านบทความเรื่อง "หลวงปู่เทพโลกอุดร" อื่นอีกได้ที่
-ตำนาน"พระปิณโฑละวัชชะ"ผู้ทรงพระชนม์ชีพอยู่ดูแลพุทธศาสนาด้วยฤทธิ์อภิญญา ต้นเค้าตำนาน"พระโลกอุดร"
-เปิดตำนาน"พระโลกอุดร" กลุ่มแรก...พระโสณะและพระอุตระสมณทูตสู่สุวรรณภูมิ
-"หลวงปู่ดู่" ยืนยัน! "หลวงปู่เทพโลกอุดร" มีจริง! ในสมัยอยุธยา จำพรรษาที่ "วัดกุฎีดาว"