น่าศรัทธายิ่ง "พระพุทธรักขิตะ" ภิกษุจากยูกันดา  ผู้ไม่เคยย่อท้อ เคยศึกษาพุทธศาสนาในประเทศไทย..วันนี้ขอเดินหน้าเผยแผ่พุทธศาสนาในแอฟริกาต่อไป

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

             จากเรื่องของ นายจูเลียน ดีซิเลต หรือ "พระจูเลี่ยน" ชาวแคนาดาที่เข้ามาบวช ใต้ร่มพระพุทธศาสนาในประเทศไทยไปนั้น แสดงให้พวกเราศาสนิกชนเห็นว่า ว่าหากเรามุมานะที่จะศึกษาหาความรู้ในสิ่งใดแล้ว ย่อมไม่มีพรมแดนใดที่ขวางกั้นเราได้ ซึ่ง “พระจูเลี่ยน” เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ประจักษ์ชัด แต่นอกจากพระจูเลี่ยนแล้ว ทางเราอยากพาท่านไปรู้จักกับ “พระพุทธรักขิตะ” ในภาษาบาลีมีความหมายว่า “ผู้ปกปักษ์รักษาพระพุทธเจ้า” ซึ่งเป็นภิกษุผิวสี จากประเทศยูกันดา ผู้เลือกเดินทางตามรอยพุทธศาสนาและเผยแผ่ธรรมในทวีปแอฟริกาสืบต่อไป

 

น่าศรัทธายิ่ง \"พระพุทธรักขิตะ\" ภิกษุจากยูกันดา  ผู้ไม่เคยย่อท้อ เคยศึกษาพุทธศาสนาในประเทศไทย..วันนี้ขอเดินหน้าเผยแผ่พุทธศาสนาในแอฟริกาต่อไป

 

พระพุทธรักขิตะภิกขุ เดิมมีชื่อว่า สตีเว่น คาบอคโกซา (Steven Kaboggoza) เกิดเมื่อปีค.ศ.1966 ในครอบครัวชาวคริสต์ ณ กรุง กัมปาลา ประเทศยูกันดา ทางตะวันออกของทวีปแอฟริกา ตั้งแต่วัยเด็กแล้ว เด็กชายสตีเว่น คาบอคโกซา มักใช้เวลาว่างไปกับการนั่งคิดพิจารณาอยู่เสมอ โดยที่ท่านไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่า สิ่งนี้จะกลายเป็นตัวช่วยในการนั่งสมาธิของเขาในอนาคต

 

            ท่านเล่าให้ฟังว่า ในทวีปแอฟริกา ศาสนาพุทธไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ผู้คนส่วนใหญ่จะรู้จักผ่านหนังสือเรียนเท่านั้น และทราบกันอย่างผิวเผินเพียงว่า มีศาสนาพุทธอยู่ แต่เมื่อท่านโตขึ้นเขาได้ศึกษาต่อด้านบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัย ณ ประเทศอินเดีย เหมือนว่าโชคชะตานำพาท่านไปให้รู้จักกับพุทธศาสนา เพราะจากการศึกษาครั้งนั้น ท่านมีเพื่อนร่วมชั้นเป็น พระสงฆ์สองรูปจากประเทศไทยของเราเอง นั่นทำให้ท่านได้ทำความรู้จักกับพระพุทธศาสนาไปทีละเล็กละน้อย

หลังจากนั้นเป็นต้นมา ท่านไม่เคยละความพยายามที่จะศึกษาพุทธศาสนา ท่านเดินทางไปธิเบตอยู่บ่อยครั้ง เพื่อไปฟังเทศน์จากองค์ดาไลลามะ

 

"อาตมาจึงออกแสวงบุญจากอินเดียไปยังเนปาล ทิเบต และสุดท้ายมาจบที่ที่ประเทศไทย เคยได้ยินเรื่องหนึ่งพันความสุขหนึ่งพันความเศร้าไหม อาตมาเรียนรู้เรื่องนี้ระหว่างการเดินทาง..."

น่าศรัทธายิ่ง \"พระพุทธรักขิตะ\" ภิกษุจากยูกันดา  ผู้ไม่เคยย่อท้อ เคยศึกษาพุทธศาสนาในประเทศไทย..วันนี้ขอเดินหน้าเผยแผ่พุทธศาสนาในแอฟริกาต่อไป

จากนั้นท่านได้ตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย.. ท่านมาอาศัยอยู่ที่เกาะเต่า ในฐานะ นายสตีเว่น ครูสอนดำน้ำพร้อมทั้งศึกษาธรรมะไปด้วย ท่านเล่าว่า ช่วงเวลานั้น ท่านคิดว่าตนเองเป็นคนที่มีความสุขมาก เพราะท่านมีรายได้ดีจากอาชีพนี้ อีกทั้งยังได้พบปะผู้คนมามากมายจากทั่วโลก แต่แล้ววันหนึ่งความสุขที่เคยได้รับกลับกลายเป็นความเบื่อหน่าย ท่านพบว่าท่านไม่อาจหาความสุขได้จากเงินทองได้อีกต่อไป

ท่านจึงตัดสินใจกลับบ้าน หลังจากออกจากบ้านมานานกว่า 7 ปี ภาพของนักธุรกิจอย่างที่คนในครอบครัวคาดหวัง ไม่ได้ปรากฏ กลับเป็นภาพของชายหนุ่มผู้กลับบ้านไปพร้อมเครื่องมือดำน้ำ และหนังสือธรรมะอีกหลายเล่ม ญาติๆของท่านรับไม่ได้กับภาพดังกล่าว พวกเขาถึงขั้นพูดคุยกันว่า จะเผาหนังสือธรรมะที่ท่านนำกลับไป เพื่อให้ท่านกลับมานับถือศาสนาคริสต์อีกครั้ง

น่าศรัทธายิ่ง \"พระพุทธรักขิตะ\" ภิกษุจากยูกันดา  ผู้ไม่เคยย่อท้อ เคยศึกษาพุทธศาสนาในประเทศไทย..วันนี้ขอเดินหน้าเผยแผ่พุทธศาสนาในแอฟริกาต่อไป

และการตัดสินใจครั้งใหญ่ ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง เมื่อท่านได้ออกเดินทางไปยังอเมริกา เพื่อไปศึกษาธรรมะในศูนย์ปฏิบัติธรรม ท่านศึกษาอยู่หลายต่อหลายปี จนกระทั้งในปี ค.ศ. 2001 ท่านเดินทางไปยังศูนย์ปฏิบัติวิปัสสนาตถาคต (Tathagata) ทีเอ็มซี - TMC - Tathagata Meditation Centre ในเมืองซาน โฮเซ่ (San Jose) รัฐแคลิฟอร์เนีย (California) ถึงแม้ว่าที่แห่งนี้จะเป็นเพียงศูนย์ปฏิบัติธรรมเล็กๆ ก็ตาม เพื่อพบกับท่านปัณณาธิภา (Pannadipa) และขอบวชกับท่านในทันที ทั้งๆที่ไม่เคยทราบถึงพิธีการขอบวชมาก่อน ท่านปัณณาธิภา (Pannadipa) ซึ่งในที่สุดได้นำไปสู่การ บวชเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทที่ทีเอ็มซี ซาน โฮเซ่ แคลิฟอเนียร์ ในปี ค.ศ.2002 โดยอาจารย์ของท่านคือ ท่านซายาดอว์ ยู สิละนันทะ (Sayadaw U. Silananda)

น่าศรัทธายิ่ง \"พระพุทธรักขิตะ\" ภิกษุจากยูกันดา  ผู้ไม่เคยย่อท้อ เคยศึกษาพุทธศาสนาในประเทศไทย..วันนี้ขอเดินหน้าเผยแผ่พุทธศาสนาในแอฟริกาต่อไป

 

เมื่อท่านศึกษาธรรมะจนถึงระดับหนึ่ง ท่านได้ตั้งปณิธานอันแน่วแน่ว่า จะต้องกลับไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ยูกันดาให้จงได้ และเรื่องราวแห่งความยากลำบากก็เริ่มต้นขึ้น ..

 

น่าศรัทธายิ่ง \"พระพุทธรักขิตะ\" ภิกษุจากยูกันดา  ผู้ไม่เคยย่อท้อ เคยศึกษาพุทธศาสนาในประเทศไทย..วันนี้ขอเดินหน้าเผยแผ่พุทธศาสนาในแอฟริกาต่อไป

 

            ผู้คนในละแวกต่างมองท่านด้วยความคลางแคลงใจ บ้างก็ว่าท่านถูกมนต์ดำ บ้างก็ว่าท่านวิกลจริต บางครั้งเด็กๆ ก็ร้องไห้จ้า ด้วยความตกใจ บ้างก็เห็นบาตรของท่านเป็นเครื่องดนตรี เดินมาตีบ้าง จนเป็นที่ตลกขบขัน แต่ด้วยวัตรปฏิบัติของท่านที่เรียบง่าย และงดงาม ไม่เคยถือโทษโกรธผู้ใด แต่ไขข้อสงสัยให้แก่ผู้ที่เข้ามาตั้งคำถามอย่างใจเย็น จนเป็นที่น่าประทับใจ ทำให้ผู้คนที่นั่นเปิดใจให้กับท่านมากขึ้น อีกทั้งยังพอมีร้านอาหารไทยในละแวก ท่านจึงมีผู้นำภัตราหารมาถวาย ได้โดยไม่ติดขัด

มาวันนี้ศูนย์พระพุทธศาสนาในยูกันดาได้รับการสถาปนา ในนาม Uganda Buddhist Centre - UBC ได้รับการสถาปนาตั้งแต่ปี 2005

 

ซึ่ง “ภิกษุพุทธรักขิตะ” ได้กล่าว ว่า

 

“เมล็ดพันธุ์แห่งพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทได้ถูกปลูกฝังลงในยูกันดาเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาแห่งการดูแลให้เติบใหญ่ หวังว่าเมล็ดพันธุ์ที่มีประโยชน์นี้จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและเติบโตอย่างแข็งแรง แผ่ขยายไพศาลเป็นผลไม้แห่งประโยชน์ของสัตว์โลกทั้งปวง”

 

 

 

ติดตาม กิจกรรมดีๆ จาก ศูนย์กลางพุทธศาสนาในยูกันดา ต่อได้ที่ : https://www.facebook.com/ubc.ug.org

น่าศรัทธายิ่ง \"พระพุทธรักขิตะ\" ภิกษุจากยูกันดา  ผู้ไม่เคยย่อท้อ เคยศึกษาพุทธศาสนาในประเทศไทย..วันนี้ขอเดินหน้าเผยแผ่พุทธศาสนาในแอฟริกาต่อไป

 

 

 

 

จินต์จุฑา รายงาน

 

อ้างอิงข้อมูลจาก : พุทธรักขิตาภิกขุ กับการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในแอฟริกา โดย คุณ สุภาศิริ อมาตยกุล