- 15 เม.ย. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
ในสมัยพระทีปังกรพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ของเราทรงถือกำเนิดในตระกูลพราหมณ์ มีชื่อว่า สุเมธ เป็นผู้คงแก่เรียนเชี่ยวชาญในศาสตร์ทั้งหลายที่มีอยู่ในศาสนาพราหมณ์ เมื่อบิดามารดาละโลกไปแล้ว เบื่อหน่ายในการเวียนว่ายตายเกิด จึงสละทรัพย์ถวายพระราชาใช้บำรุงบ้านเมือง แล้วออกบวชเป็นดาบสอยู่ในป่าหิมพานต์ ทำความเพียรอยู่ ๗ วัน บรรลุฌาน อภิญญา ๕ สมาบัติ ๘ มีความสุขในการเข้าฌาน
วันหนึ่งท่านสุเมธดาบสออกจากฌานสมาบัติ เหาะไปในอากาศ เห็นชาวเมืองช่วยกันแผ้วถางหนทาง และปรับพื้นที่ให้เป็นทางเดินกันอยู่มากมาย จึงลงจากอากาศไปสอบถาม ได้รับคำตอบว่าเตรียมหนทางให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมด้วยเหล่าภิกษุสงฆ์อรหันตสาวก ๔ แสนรูป เสด็จบิณฑบาตตามที่ชาวเมืองทูลอาราธนาไว้
เมื่อสุเมธดาบสได้ยินคำว่า พุทธะ ก็มีความปีติตื่นเต้นยินดีเป็นที่ยิ่ง จึงขอมีส่วนร่วมในการทำทางบ้าง ชาวเมืองแบ่งส่วนที่เป็นโคลนตมให้ เพราะเห็นว่าเป็นผู้มีฤทธิ์เหาะได้ แต่สุเมธดาบสต้องการให้ได้บุญกุศลมาก จึงกระทำด้วยเรี่ยวแรงของตนเองไม่ยอมใช้ฤทธิ์ พยายามขนดินมาถมทาง ในขณะทำงานก็เปล่งคำว่า "พุทโธ พุทโธ" ด้วยความปีติตลอดเวลา
จนกระทั่งถึงเวลาพระบรมศาสดาเสด็จมา หนทางส่วนที่เป็นของสุเมธดาบสยังทำไม่เสร็จ เป็นที่โคลนตมเฉอะแฉะอยู่เท่าช่วงตัว สุเมธดาบสตัดสินใจใช้ร่างกายของตนเองนอนบนเลนทอดร่างต่างสะพาน มองดูพระพุทธลักษณะมหาบุรุษ ๓๒ ประการ พร้อมด้วยอนุพยัญชนะ(ส่วนปลีกย่อย) ๘๐ พระบรมศาสดามีพระรูปโฉมงดงามยิ่งนัก พระสรีระล้อมรอบด้วยพระรัศมีแปลบปลาบประดุจสายฟ้า
เหล่ามนุษย์และเทพยดาต่างพากันแซ่ซ้องสาธุการ ตามเสด็จพระองค์มามากมายเหลือคณานับ ดาบสเห็นแล้วพลันปรารถนาจะเป็นเช่นองค์พระบรมศาสดานั้น ไม่ต้องการเป็นพระอรหันต์ซึ่งสามารถเป็นได้ในชาตินั้น จึงอธิษฐานจิตขออำนาจบุญกุศลที่ตนใช้ร่างกายต่างสะพานให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จผ่านพร้อมพระขีณาสพอีก ๔ แสนรูป บันดาลให้ได้บรรลุพระสัพพัญญุตญาณ เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต
พระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาถึง ประทับยืนอยู่ชิดศีรษะสุเมธดาบส ทรงทราบว่า ดาบสโพธิสัตว์กำลังกระทำอธิการอยู่ พร้อมทั้งเปล่งวาจาปรารถนาพุทธภูมิ พระองค์ทรงตรวจไปในอนาคตตังสญาณว่า ดาบสผู้นี้จะสมปรารถนา จึงตรัสพยากรณ์ว่า
"นับแต่นี้ต่อไปเป็นเวลา ๔ อสงไขแสนกัป สุเมธดาบสผู้นี้จะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่า พระโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า"
นับแต่เวียนว่ายตายเกิดสร้างบารมีมานับชาติไม่ถ้วน ชาตินี้เป็นชาติแรกที่พระโพธิสัตว์ของเรา ได้รับพุทธพยากรณ์ สุเมธดาบสดีใจเป็นล้นพ้น เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า พระพุทธเจ้าตรัสคำใดต้องเป็นไปตามนั้น เหล่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายได้ยินพระพุทธพยากรณ์นั้น ก็พากันดีใจถ้วนหน้า ว่าถ้าหากพวกตนยังไม่สามารถบรรลุมรรคผลนิพพานในชาตินี้ ก็จะไม่ท้อถอย จะเร่งสร้างบารมีเรื่อยไปทุกภพทุกชาติ แล้วจะได้ไปบรรลุธรรมในชาติที่สุเมธดาบสบังเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า