เดนนรกแท้ๆ!! รวบไอ้หื่นหลอกข่มขืนเด็กหญิงออทิสติก แล้วมาทิ้งไว้หน้าร้านเกมส์ แฉ..ลั่นไม่เคยกลัวใคร แถมขู่ถ้าแจ้งตร.จะฆ่าตายให้หมด (มีคลิป)

วันที่ 29 มิ.ย. 2560  นางพร (นามสมมุติ) อายุ 54 ปี พร้อมด้วย น.ส.เอม (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี เด็กพิเศษ เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.จักรพล ใจเชื่อม พนักงานสอบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี โดยอ้างว่าเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน  ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 10.00 น.ส.เอม ซึ่งเป็นลูกสาวที่มีอาการป่วยทางจิต หรือเด็กพิเศษ ได้หายออกจากห้องเช่าไม่มีชื่อ บริเวณบ้านวังทะลุ ตำบลกรอกสมบูรณ์ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี และเกรงว่าจะเกิดอันตรายได้จึงแจ้งความร้องทุกข์คนหายไว้

ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น.ของวันเดียวกัน น.ส.เอม ก็นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของเพื่อนบ้านที่รู้จักกันกลับมาบ้าน ในสภาพมอมแมม บริเวณลำคอมีรอยผื่นแดงคล้ายถูกดูด เนื้อตัว ผม เสื้อผ้ามีแต่เศษหญ้า จึงสอบถามความจริง แต่ลูกสาวอยู่ในสภาพหวาดกลัว หลังจากที่ถูกผู้ต้องหาขู่ว่าถ้าไปบอกกับใครจะฆ่าให้ตาย จนกระทั่งผู้เป็นแม่ได้เกลี้ยกล่อมก่อนที่จะเปิดเผยความจริงออกมาว่า ได้หนีออกจากบ้านโดยโบกรถจักรยานยนต์ให้ไปส่งที่ร้านเกมส์แห่งหนึ่งในเขตอุตสาหกรรม 304 และได้ซื้อชั่วโมงนั่งเล่นเกมส์อยู่ในร้าน จากนั้นก็มีชายหนุ่มที่เล่นเกมส์อยู่ในร้านมาตีสนิท และบอกว่าจะไปส่งบ้านจึงได้หลงเชื่อจึงได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปกับเขา แต่ชายหนุ่มได้ขับรถจักรยานยนต์แวะเข้าไปในป่ามันสำปะหลัง และได้ลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง ก่อนที่จะขับรถจักรยานยนต์มาปล่อยทิ้งไว้ที่ร้านเกมส์อีกครั้ง

ส่วนผู้ต้องหาทราบชื่อต่อมาคือ นายชยานันท์ หรือเอก จันทร์หอมกุล อายุ 26 ปี เป็นพนักงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ในนิคมอุตสาหกรรม 304 และถูกจับกุมตัวได้ขณะที่มาขอรับผิดและจะขอเคลียร์ชดใช้ค่าเสียให้ จนถึงหน้าห้องเช่าของผู้เสียหาย จนกระทั่งผู้เสียหายโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนมารวบตัวได้ในที่สุด จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวน พบว่าจากการตรวจร่างกาย และตรวจปัสสาวะของนายชยานันท์ พบว่าฉี่เป็นสีม่วง หลังจากเสพยาเสพติด (ยาบ้า)จึงแจ้งข้อหาเสพอีก 1 ข้อหา ส่วนคดีข่มขืนนั้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นจึงได้นำตัว น.ส.เอม ส่งโรงพยาบาลศรีมหาโพธิ เพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกายอย่างละเอียดเพื่อหาร่องรอย การถูกข่มขืนหรือกระทำชำเรา เพื่อประกอบคดีและจะได้ดำเนินการขอหมายศาลจังหวัดปราจีนบุรีเพื่อจับกุมดำเนินคดี ในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้” ด้านนางพร ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า ทุกวันนี้ต้องทนทุกข์ทรมาน ต้องออกจากงานที่ทำอยู่เพื่อมาเลี้ยงลูกพิการ โดยไม่มีเวลาจะพักผ่อน ก่อนเกิดเหตุลูกสาวได้ขอไปดูขบวนแห่ต้านภัยยาเสพติด จากนั้นก็หายตัวไป จึงไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ ส่วนผู้ต้องหาหลังจากที่มาขอเคลียร์แล้วและยังมาข่มขู่อีกว่าถ้าไม่ยอมความและถอนแจ้งความจะกลับมาฆ่าทิ้งให้หมด และอ้างว่าเคยเป็นทหารเก่า ไม่กลัวใคร และเคยติดคุกมาแล้วในคดีพรากผู้เยาว์  ส่วนผู้เป็นแม่ไม่ยอมเคลียร์เด็ดขาด และขอเอาเรื่องกับเดนสังคมให้ถึงที่สุด ถ้าปล่อยไว้บ้านเมืองจะเต็มไปด้วยคนพวกนี้ โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ทำได้แม้กระทั่งคนพิการ 

ภาพ/ข่าว ณัฐวัฒน์  กุลเศรษฐ์สุวภา   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค   สำนักข่าวทีนิวส์   จ.ปราจีนบุรี