- 02 ธ.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมาย ได้ที่ http://www.tnews.co.th
ศาลพระภูมิ
มาจากการผสมผสานกันระหว่างศาสตร์ด้าน ศาสนา พิธีกรรม และความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ ฮินดู ซึ่งมุ่งเน้นไปทางด้านการนับถือเทพเจ้า แม้ประเทศไทยเราจะนับถือศาสนาพุทธ แต่อิทธิพลของศาสนาพราหมณ์ ฮินดู ก็มีเข้ามาอย่างแพร่หลาย แต่ก่อนอื่นท่านที่อยากจะตั้งศาลพระภูมิไว้ในบ้านควรรู้ถึง ขั้นตอนและวิธีการตั้งศาลให้ถูกต้องเสียก่อน เพื่อจะได้นำวิธีเหล่านี้ไปใช้ได้อย่างถูกต้องและส่งผลให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่ในศาลพระภูมิปกป้องรักษาคุ้มภัยคนที่อยู่ในบ้านได้เป็นอย่างดี
ศาลพระภูมิเป็นแท่นบูชาอย่างหนึ่ง สำหรับให้วิญญาณ พระภูมิเจ้าที่ หรือเทวดา ได้อยู่อาศัย พบได้ทั่วไปในประเทศไทย ประเทศลาว และประเทศกัมพูชา มีลักษณะเป็นบ้านหรือวิหารหลังเล็กตั้งอยู่บนเสาเดี่ยวหรือปะรำทำจากปูนหรือ ไม้เป็นต้น ตั้งไว้ในจุดที่เป็นมงคลตามความเชื่อ จุดที่เป็นมงคลนี้ถูกกำหนดโดยพราหมณ์ ซึ่งมักจะอยู่ริมรั้วหรือมุมหนึ่งนอกบ้าน และบ้านหนึ่งก็อาจมีศาลพระภูมิมากกว่าหนึ่งหลัง ศาลพระภูมิมีเสาเดียว มีการตั้งเชิญที่ถูกต้อง ในความเชื่อเรื่องพระภูมิถือว่าจะต้องบวงสรวงท้าวมหาราชทั้งสี่ซึ่งมีหน้าที่ดูแลพื้นที่บนโลกและจะส่งพระภูมิเทวามาอยู่ที่ศาลพระภูมิ ก็จะคุ้มครองดูแลผู้พักอาศัยในบ้าน (ท้าวมหาราชทั้งสี่คือ "ท้าวธตรฐ" มีพวกคนธรรพ์ เป็นบริวาร, ท้าววิรุฬหกะ มีกุมภัณฑเทวดาเป็นบริวาร, "ท้าววิรูปักษ์" มีพวกนาคเป็นบริวาร, "ท้าวเวสวัณหรือท้าวเวสสุวัณ" มีพวกยักษ์ เป็นบริวาร)
วิธีสังเกตศาลทั้งสองชนิดคือ ศาลพระภูมิจะมีความสูงกว่าและมีเสาเดียวขนาดใหญ่ ส่วนศาลเจ้าที่หรือศาลตา-ยายนั้น จะมีสี่เสาขนาดเล็กและมีความสูงที่ต่ำกว่าศาลพระภูมิ และเมื่อเราหันหน้าเข้าหาศาล ศาลพระภูมิต้องอยู่ซ้ายมือและศาลเจ้าที่นั้นจะอยู่ขวามือ ส่วนใครจะตั้งทั้งสองศาลก็ได้ หรือเลือกตั้งเพียงศาลใดศาลหนึ่ง เช่นตั้งเพียงศาลพระภูมิหรือศาลเจ้าที่ เพราะจริงๆแล้วทั้งสองศาลก็ล้วนเป็นเหมือนเจ้าที่ ซึ่งคอยดูแลพื้นที่และผู้อาศัยในบ้าน แต่พระภูมินั้นมาจากเทพ จึงมีพลังมากกว่า สังเกตในการจุดธูป ศาลพระภูมิจะจุดธูปห้าดอก ส่วนศาลเจ้าที่เพียงดอกเดียวหรือสามดอกเท่านั้น
ศาลเจ้าที่ ที่มามักจะเป็นวิญญาณที่ปกปักษ์รักษาบ้านเรือนต่าง ๆ เช่น บรรพบุรุษ เจ้าของที่ดิน เจ้าที่เจ้าทาง ลักษณะส่วนใหญ่จะเป็นเรือนไทยจำลองแบบบ้าน มี เสา ๔ เสา หรือ๖ เสา การสักการะศาลพระภูมิ ศาลตา-ยาย เป็นการสักการะด้วย พวงมาลัย ดอกไม้ ธูปเทียน และเครื่องสังเวย ให้พระชัยมงคล ในศาลพระภูมิ กับวิญญาณที่สถิตอยู่ในศาลตา-ยาย ซึ่งมักจะทำก่อนพิธีกรรมหรือตามความเชื่อศรัทธาของบ้านนั้นๆ ศาลพระภูมิและศาลเจ้าที่ เปรียบเหมือนบ้านที่อยู่อาศัย ไม่ควรปล่อยให้ชำรุดแตกหัก เก่านาน รวมทั้งตุ๊กตาตัวแทนพระชัยมงคล ตา-ยาย คนรับใช้ นางรำ ช้างม้า ควรดูแลทำความสะอาดให้สวยงาม จัดหามาเปลี่ยนใหม่ บูชาด้วยธูปเทียนดอกไม้ พวงมาลัย และเครื่องสังเวยตามโอกาสที่ควร
พระคาถาขอขมาพระภูมิ
อิติสุขะโต อะระหังพุทโธ นะโม พุทธายะ ปฐวีคงคา พระภูมิเทวา ขะมามิหัง.
สวด นะโม ๓จบ แล้วสวดคาถาขอขมาพระภูมิ เพื่อขอทำความสะอาดศาลหรือเปลี่ยนสิ่งของที่ชำรุด แตกหัก
คาถาบูชาพระภูมิ
ยัสสามุสสะระเณนาปิ อันตะลิกเขปิปาณิโน ปะติฎฐะมะธิคัจฉันติ ภูมิยังวิยะ สัพพะทา สัพพูปัททะวะชาลัมหา ยักขะโจราทิสัมภะวา คะณะนาณะจะ มุตตานัง ปะริตตันตัม ภะณามะเหฯ
คาถาบูชาพระภูมิ (อีกบทหนึ่ง)
ยัสสานุภาวะโต ยักขา เนวะ ทัสเสนติ ภิงสะนัง ยัมหิ เจวานุยุญชันโต รัตตินทิวะ มะตันทิโต สุขัง สุปะติ สุตโต จะ ปาปัง กิญจิ นะ ปัสสะติ เอวะมาทิ คุณูปเปตัง ปะริตตันตัม ภะณามะเหฯ
ถ้าท่านมีศาลพระภูมิตั้งอยู่ประจำบ้านใช้คาถาบูชาทุกๆวัน จะเกิดสิริมงคลและบันดาลโชคลาภ หากบูชาให้ครบตามกำลังวันได้ก็จะเป็นการดียิ่งขึ้นไปอีก (หากมีเวลาน้อยสวดวันละ๑ จบ หรือครั้งละ ๑จบก็ได้) พร้อมดอกไม้หรือพวงมาลัยสดและธูปเทียนเป็นประจำก็จะทำให้บังเกิดผลดี มีความสุขความเจริญตลอดไป
วันอาทิตย์ สวด ๖ จบ
วันจันทร์ สวด ๑๕ จบ
วันอังคาร สวด๘ จบ
วันพุธ สวด ๑๗ จบ
วันพฤหัสบดี สวด๑๙ จบ
วันศุกร์ สวด๒๑ จบ
วันเสาร์ สวด ๑๐ จบ
คำถวายเครื่องสังเวยพระภูมิ
นะโม เม ชะยะมังคะลัง ภูมิเทวานัง สักการะวันทะนัง สูปะพะยัญชะนะสัมปันนัง โภชะนานัง สาลีนัง สะปะริวารัง อุทะกัง วะรัง อาคัจฉันตุ ปะริภุญชันตุ สัพพะทา หิตายะ สุขายะ สันติเทวา มะหิทธิกา เตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเขนะ จะ .
การสักการบูชาพระภูมิ ไม่ควรใช้เครื่องสักการบูชาเดิมๆซ้ำกันตลอดไป ควรจัดหมุนเวียนเปลี่ยนไปในแต่ละเดือนตามกำหนด ถูกต้องตามประสงค์จะเสริมสิริมงคลเกิดลาภผลพ้นภัยพิบัติ มีแต่โชคลาภนานาประการ
เดือนอ้าย เดือนยี่
เจ้ากรุงพาลี กลายเพศเป็นนาคราช ของคาวทั้งหลายให้นำมาใช้สักการบูชา จะมีเกียรติยศและชื่อเสียงเลื่องลือไกล
เดือน ๓เดือน ๔
เจ้ากรุงพาลี กลายเพศเป็นครุฑ ของสดของคาว กุ้งพล่า ปลายำ เป็นสิ่งสังเวยสักการบูชา บันดาลโชคลาภ โทษภัยจะหนีไกลห่าง มีแต่ความสุขสำราญ
เดือน ๕เดือน ๖
เจ้ากรุงพาลี กลายเพศเป็นยักษ์ มีความดุร้าย ควรมีภักษาหารของสดของคาว กุ้งพล่า ปลายำ เนื้อหมู เนื้อวัวหรืออื่นๆที่เป็นของสดของคาว ก็จะเป็นที่พอใจของท่านใช้ผ้าแดงปูศาล
เดือน ๗ เดือน ๘
เจ้ากรุงพาลี กลายเพศเป็นพราหมณ์ร่างงาม งดเนื้อสัตว์และของคาวสารพัด ใช้ผ้าขาวปูศาล เครื่องสังเวยมังสวิรัติ
เดือน ๙ เดือน๑๐
เจ้ากรุงพาลี กลายเพศเป็นราชสีห์ ชอบของสดของคาว เครื่องสังเวยคล้ายเดือน ๕ เดือน๖ ใช้ผ้าเหลืองปูศาล จะเกิดลาภผลเหลือประมาณตามความต้องการทุกอย่าง
เดือน ๑๑ เดือน ๑๒
เจ้ากรุงพาลี กลายเพศเป็นช้าง ต้องมีหญ้าแพรก หญ้าปล้องอย่างละ ๗ ใช้ผ้าดำปูศาล จะเกิดลาภผลสวัสดี ห้ามของคาว
(ดูเดือนจากปฏิทินของแต่ละปี)
คาถาลาเครื่องสังเวยพระภูมิ
อายันตุ โภนโต อิธะ ทานะสีละ เนกขัมมะปัญญา สะหะ
วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐานะ เมตตุเปกขายุทธายะโว ทิสสา วินะติ อะเสสะโต.
คาถาขอพรพระภูมิ
สิโรเม ขอเดชะพระภูมิเทวารักษาที่รับพระพรจากเจ้ากรุงพาลีมา ให้วัฒนาถาวรสิ่งสุข แด่(ระบุชื่อผู้ขอ) ให้มั่งมีเงินทองและทรัพย์พัสดุข้าวของเนื่องนอง ทั้งพร้อมพงศ์เผ่าบริวาร บุตรหลานเหลนลื้อบันลือ สาธุชนซร้องสรรเสริญ โสตถิ ชัยยะ ภะวันตุเม
ศาลพระภูมิและศาลเจ้าที่ ที่ถอนแล้ว หรือที่ชำรุดแตกหัก เก่านาน รวมทั้งตุ๊กตาตัวแทนพระชัยมงคล ตา-ยาย คนรับใช้ นางรำ ช้างม้า มักจะนำไปไว้ที่วัด หรือทิ้งไว้ตามข้างทางแยก
การบูชาศาลพระภูมิและศาลเจ้าที่
การไหว้ศาลพระภูมิ.......ใช้ธูป ๙ ดอก เทียน ดอกไม้ พวงมาลัย เครื่องสังเวย
การไหว้ศาลเจ้าที่............ใช้ธูป ๗ดอก เทียน ดอกไม้ พวงมาลัย เครื่องเซ่นสังเวยอย่างน้อยปีละครั้ง
หมายเหตุ : การตั้งศาลพระภูมิ ศาลเจ้าที่ เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล ควรศึกษาเพิ่ม หรือต้องปรึกษาผู้รู้ พราหมณ์ ผู้ประกอบพิธี เพื่อให้ครอบครัวอยู่ดีมีสุข มีโชคลาภเงินทอง เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานอาชีพ หากคิดตั้งศาลพระภูมิ ศาลเจ้าที่ หรือมีแล้ว...การดูแลและสักการะด้วยธูปเทียน ดอกไม้ พวงมาลัยและเครื่องสังเวย อีกมุมมองหนึ่งบนความเชื่อและศรัทธาที่น่านำไปใช้
ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้
http://horoscope.sanook.com
เพื่อเผยแผ่เ็นธรรมทาน