ขอเตือน!!! "ยิ่งลักษณ์"  อย่าให้ซ้ำรอยพี่ชายสุดที่รัก ดูเป็นเยี่ยง อย่าเอาเป็นอย่าง!! บริหารงานพลาดก็ต้องยอมรับผิด  (เจอดี - มีคลิป)

ขอเตือน!!! "ยิ่งลักษณ์" อย่าให้ซ้ำรอยพี่ชายสุดที่รัก ดูเป็นเยี่ยง อย่าเอาเป็นอย่าง!! บริหารงานพลาดก็ต้องยอมรับผิด

       ติดตามกันต่ออย่าได้คาดสายตา กับกรณีร้อนๆอย่างประเด็นของนางสาวยิ่ลักษณ์ ที่เรียกได้ว่าอาจจะคุกรุ่นขึ้นมาได้ทุกเมื่อ กรณีปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ภายหลังจากการที่นายวัฒนา เมืองสุข  ก็ได้ออกมาออกมาปลุกระดมมวลชนไปแล้ว  และเมื่อวานนี้(25 ก.ค.) ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ได้ออกมาขยี้ซ้ำอีกรอบ
โดยการโพสต์ปลุกระดมมวลชนผ่านโลกโซเชียลโดยการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค ระบุว่า..

           ดิฉันอยากจะสะท้อนถึงความพยายามต่างๆ ในการกระทำที่เสมือนสร้างเป็นเงื่อนไขเพื่อชี้นำคดี ก่อนที่จะมีผลตัดสินของศาลฎีกาฯ ในคดีโครงการรับจำนำข้าว
แต่ในที่สุดรัฐบาลก็เลือกที่จะทำเพราะคิดว่าตนมีอำนาจจะใช้อำนาจอย่างไรก็ได้ รวมทั้งไม่รอคำสั่งศาลปกครองที่ดิฉันได้ขอให้ทุเลาการบังคับคดีไว้
  

         แม้วันนี้ ดิฉันจะถูกอายัดบัญชีธนาคาร และกำลังจะถูกยึดทรัพย์สินทั้งหมด จนต้องร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอทุเลา คงได้แต่บอกว่าดิฉันยังเข้มแข็ง และพร้อมยืนหยัดต่อสู้ในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจว่า "ดิฉันไม่ได้ทำอะไรผิด" ผ่านการแถลงการณ์ปิดคดีด้วยวาจาต่อศาลอย่างหมดใจ ในวันที่ 1 ส.ค. นี้ค่ะ ซึ่งดิฉันก็จะทำอย่างดีที่สุด

 
   ดิฉันขอเปลี่ยนกำลังใจจากแฟนเพจและพี่น้องประชาชน มาเป็นพลังให้ดิฉันได้มีความเข้มแข็งและอดทนค่ะ


         

 ทั้งนี้ก็เป็นที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่า  หลังจากนี้จะมีการระดมพล เพื่อมากดดังทางศาลฏีกาในวัน 25 ส.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันพิจารณาคดีของศาลฯ หรือตามที่ทางฝั่งของทางพลพรรค "เพื่อไทย"  เรียกว่า "เข้ามาเป็นกำลังใจ" ให้แก่นางสาว ยิ่งลักษณ์  นั้น  จะก่อให้เกิดการจราจล โกลหลบ้านเมืองดังเช่นในคราของพี่ชายสุดที่รัก ที่กระเจิงไปอยู่ต่างแดนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างนาย ทักษิณ  ชินวัตร หรือไม่   อันนี้ยังคงที่เป็นที่น่าจับตามองไม่น้อย   

 

       ซึ่งในกรณีนี้ทางด้านผู้เชี่ยวชาญ และคร่ำหวอดทางเมืองอย่าง ท่าน นันทิวัฒน์ สามารถ   อดีตรองผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ  ก็ได้ให้ความเห็นถึงความเคลื่อนไหวต่อจากนี้ทางการเอาไว้อย่างน่าสนใจ ผ่านทางรายการ สด ลึก จริงวันนี้ (25 ก.ค. 60) โดยตัวท่านเองตั้งคำถามกลับมา 3 ประการด้วยกันในกรณีนี้ว่า
     


1. คนที่จะเข้ามานั้นเยอะหรือไม่  ซึ่งข้อนี้ก็ได้ยินว่า มีการจ้างวาน คนมาไม่น้อยทีเดียว  หากแต่คงไม่มากเช่นคราวของนายทักษิณ เนื่องจากครั้งก่อนๆที่เข้ามากันเยอะนั้นก็เพราะว่า มีนักการเมืองท้องถิ่น นักการเมืองระดับชาติในแต่ละท้องถิ่นมีการ เกณฑ์ คนเข้ามา  แต่วันนี้คิดว่าคงไม่น่าจะได้เหมือนเก่า  ทั้งยังเชื่อว่าคณะคสช. จะสามารถจัดการได้

    2 เอามากดดันใคร ศาลฯหรือคสช.  การกดดันศาลตนก็เชื่อว่าศาลไม่น่ายินยอม  ทั้งยังฝากถึงพี่น้องเสื้อแดงอีกด้วยว่าให้คิดถึงคดีที่มีแกนนำหญิงคนหนึ่งที่ไปละเมิดศาลที่ศาลยุติธรรม และถูกพิพากษาให้จำคุกนั้น  ระวังจะซ้ำรอย  เพราะต้องเข้าใจว่า ในวัน 25 ส.ค.นี้ เป็นวันพิจารณาคดีของศาลฯ จะไปละเมิดอำนาจ หรือไปด่าทอศาลไม่ได้  ส่วนนี้ขอเตือน  เชื่อว่าคส.ช. จะมีวิธีการรับมือ และควบคุมได้

    และในส่วนประเด็นที่ 3. สุดท้าย คือถามว่า กดดันแล้วนั้นจะได้อะไร   ตนก็เชื่อว่าคำพิพากษาน่าจะอยู่ในขั้นตอนคัดกรองพิจารณาทบทวนอ่านสำนวนให้รอบคอบ     ตนไม่เชื่อว่ามวลชนจะทำให้ศาลเบี่ยงเบนได้  มีอย่างเดียวคือ

      ถ้าหากคนมากันเยอะจะก่อให้เกิดความวุ่นวายได้หรือไม่  ผมอยากจะเรียนอด้วยความหวังดีว่า  เรากำลังจะเข้าสู่วาระสำคัญของชาติ  ไม่อยากจะคิดว่าคนเสื้อเเดงว่าไม่มีความจงรักภักดี อยากจะเตือนสิแกนนำว่าให้คิดถึงวันนั้นเอาไว้ด้วย

    อย่างไรก็ดี เรื่องนี้คงจะสรุปได้อย่างคร่าวๆว่า ไม่ว่าคนทางฝั่ง กองเชียร์ของนางสาว ยิ่งลักษณ์  คิดจะกระทำการใดนั้นก็ขอให้นึกย้อน ไปดูเมื่อคราวของพี่ชายตนสักนิดว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้างเเละนำมาบททวนการกันให้ดีดี สักหน่อยน่าจะดีไม่น้อย