- 25 ส.ค. 2560
ไหนว่าไม่มีตังค์!?!? "ยิ่งลักษณ์" บินเดี่ยวทิ้งเงินประกันกว่า 30 ล้าน ทั้งที่ก่อนหน้านี่เรียกร้องความเห็นใจบอกไม่มีเงินจ่ายปรับจำนำข้าว
ยังคงอยู่กันที่เรื่อวราวอันเป็นประเด็นร้อนอยู่ขณะนี้ หลังจากในวันนี้ (25 ส.ค.60) ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เตรียมอ่านคำพิพากษาคดีทุจริตการระบายข้าวแบบจีทูจี หรือ รัฐต่อรัฐ ของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และพวกรวม 28 คน ก่อนจะอ่านคำพิพากษาในคดีละเลยการปฎิบัติหน้าที่ไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นลำดับถัดไป
ซึ่งทุกคนต่างจับจ้องการมาถึงของน.ส.ยิ่งลักษณ์กันอย่างใจจดจ่อทั้งนักข่าวและมวลชนผู้มาให้กำลังใจ ก็ด้วยเนื่องจากว่าท่าทีและความเคลื่อนไหวที่ผ่านมานั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ปรากฏตัวตามที่ศาลนัดทุกครั้ง เเต่ใครจะคิดว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรจะไม่เดินทางมาในวันนี้ นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทำการอนุมัติหมายจับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แล้ว
โดยทางด้านทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำเลยในคดีโครงการรับจำนำข้าว ได้ยื่นเรื่องต่อศาล ว่า จำเลยไม่สามารถ เดินทางมาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ โดยอ้างเหตุผลว่า ป่วย น้ำในหูไม่เท่ากัน ซึ่งศาลได้ค้านเรื่องยื่นเรื่อง ไม่เชื่อคำให้การของทนาย เนื่องจากอาการที่ป่วยไม่น่าจะเป็นเหตุให้ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้และไม่มีใบรับรองแพทย์ ต่อมาศาลได้พิจารณาอนุมัติออกหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ทันที พร้อมกับยึดเงินประกัน 30 ล้าน ที่น่าสนใจไม่ใช่แค่ประเด็นของการที่นางสาวยิ่งลักษณ์ มา-ไม่มา หรือสาเหตุที่ไม่มาเพราะน้ำในหูไม่เอื้ออำนวย หรือจะอะไรก็แล้วแต่ แต่อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลยก็คือ เงินประกัน 30 ล้านบาทที่โดนยึดไปนั่นเอง
หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ช่วงราวๆ เดือนเมษายนที่ผ่านมา มีข่าวเรื่องของการตุลาการศาลปกครองกลางเรียกสินไหมชดใช้ 3.5 หมื่นล้านจาก นางสาวยิ่งลักษณ์ ซึ่งตอนนั้นเธอเองก็ออกมาดราม่าอยู่สักระยะ ทั้งร้องขอให้ศษลทุเลา เเละเห็นใจ
โดยทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์อ้างว่า มีค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนค่อนข้างมาก และได้ให้รายละเอียดค่าใช้จ่ายไว้ว่า 1.ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนเป็นเงิน 1,000,000 บาท 2.ค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษา กิจกรรมทางการศึกษา ค่าอาหารและค่าใช้จ่ายส่วนตัวของบุตร เป็นเงิน 200,000 บาท 3.ค่าที่ปรึกษาทางกฎหมายและค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี 200,000 บาท 4.ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 800,000 บาท และ 5.ค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือและเยี่ยมเยียนประชาชนเป็นเงิน 450,000 บาท
ซึ่งพอย้อนมาดูกับเหตุการณ์ ณ ปัจจุบัน ก็ดเหมือนจะย้อนแย้งเสียเหลือเกิน เหตุใดคนที่อ้างว่ามีค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนนั้นไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ไม่มีกำลังจะมาชดใช้ค่าสินไหม 3.5 ล้าน กลับกล้าที่จะเมินเงินประกัน กว่า 30 ล้านไปเสียได้ ทั้งที่ยืนหยัดมาเสมอว่าตนบริสุทธิ์ และ พร้อมจะสู้คดี แต่เมื่อถึงวันพิพากษากลับไม่เห็นแม้เงา ไม่สนแม้ว่าจะมีมวลชนมารอให้กำลังใจอยู่เท่าไหร่