ฆ่าล้างหนี้! รวบคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถเบนซ์นักธุรกิจชาวมาเลเซีย รายละเอียด(คลิป)

 เมื่อวันที่ ๑๙ มี.ค.๖๑ บก.ตม.๔ โดย กก.บคด.ตม.๔ และ ตม.จว.อุดรธานี ได้ร่วมกันจับกุม นายตัน วุน เจ้น อายุ ๔๐ ปี ชาวมาเลเซีย (Mr.Tang Woanjen) ตามหมายจับศาลมณฑลทหารบกที่ ๔๒ ที่ ๑/๒๕๕๙ ลงวันที่ ๑๙ ม.ค.๕๙ ในความผิดฐาน “ผู้ใช้ จ้างวานให้ผู้ต้องหาที่ ๑-๖ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุอันสมควรตามกฎหมาย” โดยสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ ๔ ธ.ค.๕๘ บนถนนกาญจนวาณิชย์ แยกคลองปอม หมู่ ๘ ต.พะตง อ.หาดใหญ่ คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถเบนซ์ สีดำ รุ่น S300 ทะเบียน ๑ฌ ๑ กทม. ทำให้นาย ลี อา ฮาน อายุ ๔๔ ปี นักธุรกิจชาวมาเลเซีย เสียชีวิตทันที และนางมยุรี ทิพย์มณี อายุ ๔๒ ปี ที่นั่งมาด้วยได้รับบาดเจ็บ ชุดคลี่คลายคดี ได้ทำการจับกุม นายอภิชน แซ่โล้ว ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นผู้วางแผนและจัดทีมในการก่อเหตุ ต่อมาได้ขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้เพิ่มอีก ๓ ราย คือ, นายเอกพล อินทร์แก้ว มือลั่นไก, นายยุทธศักดิ์ กล้ามาก ทำหน้าที่สำรวจเส้นทาง และ น.ส.นงเยาว์ ชำนินวล ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับผู้ตาย จากการสืบทราบว่าสาเหตุการสังหารในครั้งนี้มาจากการฆ่าล้างหนี้ เนื่องจากผู้ตายปล่อยเงินกู้ให้กับ นายตัน วุน เจ้น อายุ ๒๘ ปี ชาวมาเลเซียด้วยกันเป็น จำนวนเงินกว่า ๓๐ ล้านบาท โดยนายตันฯ ได้จ้างวานให้ นายอภิชน แซ่โล้ว จัดหาทีมมือปืน  (ประกอบด้วย นายธนเดช เงี่ยนตั้น, นายชินพัฒน์ พิทักษ์ไทย, นายยุทธศักดิ์ กล้ามาก, นายเอกพล อินแก้ว และ น.ส.นงเยาว์ ชำนินวล) มาวางแผนในการสังหารในครั้งนี้ ภายหลังจากก่อเหตุแล้ว นายตันฯ ได้เดินออกนอกประเทศไปกบดานที่ประเทศแคนาดา จนกระทั่งเมื่อวันที่ ๑๖ มี.ค.๖๑ นายตันฯ ได้เดินทางจากประเทศแคนาดามายังประเทศเกาหลีใต้ จากนั้นได้ต่อเครื่องมายัง สปป.ลาว จากนั้นได้หาช่องทางในการลักลอบเข้ามายังประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติโดยไม่ผ่านช่องตรวจของ สตม. และได้มาพำนักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี ต่อมาชุดสืบสวน กก.บคด.ตม.๔ และ ตม.จว.อุดรธานี ได้สืบสวนติดตามเฝ้าดูพฤติกรรมบุคคลดังกล่าว จนกระทั่งสามารถจับกุม นายตัน วุน เจ้น ได้ที่ร้านอาหารไม่มีเลขที่ ถ.เบญจางค์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี จากนั้นได้นำตัวส่ง พงส.สภ.ทุ่งสง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป