ใกล้เช็คบิลเต็มที !!!  "ปนัดดา" แฉจีทูจีจำนำข้าวอย่างเละเทะ  สรุปแยกบัญชีชดใช้ทำปท.เสียหาย "ยิ่งลักษณ์" VS " บุญทรง" คงถึงขั้นล้มละลาย??

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

     ความคืบหน้าการพิจารณาความผิดอันเกี่ยวเนื่องกับผลการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว   ล่าสุด    มล.ปนัดดา  ดิศกุล  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายจิรชัย มูลทองโร่ย   รองปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและความผิดทางละเมิด   เข้ารายงานตัวเลขความเสียหายโครงการรับจำนำข้าว ว่า   ตนได้รับตัวเลขจากนายจิรชัย เพื่อจะรายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ในวันที่ 3 ส.ค.59  โดยตัวเลขที่ได้รับการยืนยันพบว่า  ความเสียหายจากการบริหารจัดการโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ที่  286,639 ล้านบาท  ส่วนของ นายบุญทรง  เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์และพวก อยู่ที่ 18,743 ล้านบาท



     "ตัวเลขการระบายข้าวในสต็อกของฝ่ายบริหารในอดีต  มีการรับมอบข้าวเข้ามาจำนวน 13.3 ล้านตัน แต่ส่งออกไปยังต่างประเทศไม่ถึง  1  ล้านตัน คงค้างในคลัง 13 ล้านตัน   ยืนยันเราทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตรงไปตรงมา ไม่เคยมีคำสั่งที่ลำเอียงหรือเลือกปฏิบัติทั้งสิ้น  จึงขอเตือนใจข้าราชการต้องไม่ทำตามอำเภอใจ บทเรียนในครั้งนี้จะสอนให้ข้าราชการใหม่ๆต่อไป ว่าข้าราชการต้องเป็นหลักไม่ใช่ทำอะไรตามอำเภอใจ"

 

       ส่วนตัวเลขความเสียหายดังกล่าวจะใช้ออกคำสั่งเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือไม่  มล.ปนัดดา กล่าวว่า ขณะนี้เป็นตัวเลขที่ผ่านขั้นตอนที่พิจารณาด้วยความรอบคอบถี่ถ้วนจากทุกภาคส่วนที่ร่วมประชุมแล้ว    ขณะที่ความรับผิดชอบนี้เป็นเรื่องของภาพรวมที่จะเกิดและส่งผลกระทบต่อประเทศไทยและประชาชน    ดังนั้นผลได้ผลเสียทุกอย่างเป็นสิ่งเตือนใจว่าการทำงานอะไรก็ตามของภาครัฐ ถ้าเกิดขึ้นจากหน่วยงานหนึ่งหน่วยงานใด   ผลที่ตามมาต้องรับผิดชอบร่วมกัน
 

       ด้านนายจิรชัย   กล่าวว่า  การเข้าพบมล.ปนัดดา เป็นรายงานสถานการณ์เรื่องข้าวโดยแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ความเสียหายในส่วนของ   น.ส.ยิ่งลักษณ์ จำนวน 2 แสนกว่าล้านบาท ซึ่งเคยให้การต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไปแล้ว  และเป็นตัวเลขที่ต้องรอคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง ที่มีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธาน ต้องพิจารณาอีกรอบหนึ่ง ส่วนกรณีของนายบุญทรง  เป็นค่าเสียหายจากการขายข้าวแบบจีทูจี จำนวน 1.8 หมื่นล้านบาท แต่คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง พิจารณาแล้วเห็นว่าควรปรับเพิ่มเรียกค่าเสียหายกับผู้ที่เกี่ยวข้องเป็น 2 หมื่นล้านบาท  และรวมถึงเรื่องการระบายข้าวในสต็อกข้าวและข้าวคงเหลือในสต็อกของรัฐบาลในอดีต โดยทั้งหมดจะมีการรายงานต่อที่ประชุม นบข.รับทราบอีกครั้ง  ในวันที่ 3 ส.ค.