"บิ๊กต๊อก"ลั่น!!!พร้อมรับหนังสือทนาย"สมเด็จช่วง"มาพบกันจะได้ชี้แจ้งชัดเจน ดีกว่าคุยผ่านสื่อ - ขยาย 3 เดือนคดีรถหรู

เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวถึงผลการประชุมติดตามและเร่งรัดการดำเนินงานของ 7 หน่วยงาน กรณีขบวนการทำรถยนต์จดประกอบ หรือรถยนต์หรู กว่า 7,000 คัน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย
-กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
-กรมสรรพสามิต
-กรมศุลกากร
-กรมสรรพากร
-กรมการขนส่งทางบก
-สถาบันนิติวิทยา ศาสตร์ (สนว.)
-และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)
ที่ประชุมได้รายงานให้ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ทราบว่า ในขั้นตอนดำเนินงานของกรมศุลกากรมีปัญหาติดขัดในข้อกฎหมาย เนื่องจากต้องมีผู้ร้องมาก่อนจึงจะสามารถตรวจสอบได้ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ตามระยะเวลาที่วางไว้ 10 เดือน ซึ่งที่ประชุมได้ขอขยายเวลาออกไปอีก 3 เดือน ในการตรวจสอบให้แล้วเสร็จ เพื่อนำเงินภาษีกลับเข้ารัฐได้

ส่วนกรณีที่ทนายความของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช มองว่า ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ แต่มีการแถลงข่าวที่อาจทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงได้

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ตนทราบว่าอธิบดีดีเอสไอได้ชี้แจงไปแล้ว บางครั้งคำตอบนั้นมันอยู่ในสำนวนการสอบสวน แต่เรื่องนี้ก็ต้องไปถามพนักงานสอบสวนว่าทำไมเขาไม่พูดถึงเรื่องนี้ ซึ่งตนพูดตามหลักการเท่านั้น อีกทั้ง มันเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนที่บางเรื่องไม่สามารถพูดได้ ซึ่งมันมีกฎข้อบังคับที่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ จึงต้องไปรอที่อัยการ หรือศาล

รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ทนายความจะทำหนังสือชี้แจงถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และตนนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือดังกล่าว ซึ่งตนยินดีและเป็นแนวทางที่สามารถทำได้ เป็นเรื่องของประชาชนทั่วไปที่คิดว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถทำได้ วิธีการของตนคือมาพบและจะให้เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงในประเด็นที่สงสัย ซึ่งมันจะพูดคุยได้เยอะ ดีกว่าการโต้ตอบผ่านสื่อต่างๆ

ที่มา มติชนออนไลน์