ถ้าเพื่อชาติไม่มีท้อ!!!  "บิ๊กตู่" ตอกพวกงอแงใช้สื่อโซเชียลอาฆาตรัฐ  ซัดทำผิดโดนกม.ลงโทษไม่พูดความจริง  ย้ำทุ่มเทวันนี้เพื่อ 70 ล้านคนไทย..

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

     ถือเป็นอีกวาระหนึ่งที่ผู้นำประเทศออกมาเน้นย้ำถึงความตั้งใจในการเข้ามาดูแลประเทศช่วงเปลี่ยนผ่านมา     โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา   นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.  กล่าวช่วงหนึ่งในระหว่างมอบนโยบายในการสัมมนาเสริมสร้างความรู้และธรรมาภิบาลของกรรมการรัฐวิสาหกิจ   ว่า   ขอให้เชื่อมั่นว่าตนไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์พวกพ้อง   แต่ทำเพื่อประเทศและเชื่อว่าทุกคนจะรักประเทศเหมือนกับตน โดยจะพยายามทำตามระยะเวลาที่มีอยู่   เพราะทุกวันนี้หากรัฐบาลทำไม่ดีด่าใครไม่ได้ก็ด่านายกรัฐมนตรีไว้ก่อน แต่ตนรับได้ ยิ่งด่ายิ่งมีกำลังใจ ส่วนการปฏิรูปนั้นจะต้องเริ่มที่ตัวเองจะต้องปฏิรูปประเทศก่อน  เพื่อขยับขยายองค์กรให้ดีขึ้น   ให้เกิดสังคมที่มีคุณภาพ   มีคุณธรรมจริยธรรม    ธรรมาภิบาล   โดยจะต้องเสียสละอดทน  นึกถึงคนอื่นมากกว่าตัวเอง

 

     เพราะหน้าที่ของรัฐคือการให้บริการประชาชน ทั้งนี้ตนขอเวลาอีกหนึ่งปีตามโรดแม็พ ทำยังไงก็ได้ให้ประชาชนที่แบ่งเป็นเหรียญสองด้านทั้งเห็นด้วยไม่เห็นด้วย และตรงกลางจำนวน 30-40%  คนเหล่านี้จะคล้อยตามใครจึงต้องทำให้มีความไว้เนื้อเชื่อใจ และโปร่งใส  เพราะสังคมกำลังจับตามองอยู่จึงต้องสร้างให้สังคมเชื่อมั่นให้ได้  พร้อมยกตัวอย่างว่า  มีการเปิดเว็บไซต์หนึ่งพบคนถูกสอบสวนตามกระบวนการของกฎหมายและเกษียณอายุราชการไปแล้ว บอกขอบคุณนายกรัฐมนตรี แต่ให้จำไว้ว่าดาบนั้นคืนสนอง ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าผิดตรงไหน ทั้งที่ตัวเองมีความผิดและกฎหมายดำเนินการไปแล้ว แต่กลับบอกว่าตนไปทำร้าย ยืนยันว่าตนยังไม่เคยทำร้ายใคร เป็นทหารมา 40 ปีไม่เคยคิดอยากจะฆ่าใครเลยสักคน  จึงอยากเตือนให้ทุกคนทำงานเชิงรุก ป้องกันก่อนเริ่มทำงานเพื่อไม่ให้ถูกฟ้องร้อง เพราะกฎหมายคือกฎหมาย ตนมีหน้าที่นำเข้าสู่กระบวนการ และไม่เคยตั้งข้อหาใหม่ ทำตามที่มีการเสนอมา รวมทั้งมาตรา 44 ด้วย ถ้ามีเสนอขึ้นมาแล้วก็ต้องอนุมัติเนื่องจากมีหลักฐาน ถ้าไม่มีหลักฐานคนเสนอก็ต้องถูกเล่นงาน ซึ่งทุกคนต้องร่วมรับผิดชอบไม่ใช่นายกรัฐมนตรีคนเดียว

    ขณะเดียวกันพล.อ.ประยุทธ์ ยังพูดถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ว่า  วันนี้โชคดีที่ฝ่ายเศรษฐกิจทำให้เกิดความคืบหน้าตามลำดับแม้จะไม่ดีมาก  แต่ตนไม่หวังคำชื่นชมเพราะต่างประเทศก็ยากที่จะดำเนินการทุกอย่างติดขัดไปหมด   ต้องย้ำที่เข้ามาวันนี้เพื่อไม่ให้ติดขัดโดยใช้กฎหมายเดิมไม่ใช่ยกเลิกทั้งหมด และจะต้องทำให้โปร่งใสมากขึ้น

 

     รัฐบาลวันนี้ทำงานเพื่อคน 70 ล้าน ไม่ได้ทำงานเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อย่าให้ใครมาอ้าง ถ้ามีให้มาบอกตน เพราะตนไม่เคยพูดถึงผลประโยชน์กับใคร นอกจากเศรษฐกิจแล้วบ้านเมืองต้องสงบ ซึ่งตนบังคับใครไม่ได้ จะบังคับให้ทุกคนมีความสุข หรือไม่มีไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ที่ใจ 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลยังแก้ปัญหาได้แค่นี้ แต่หากปล่อยไว้นานๆ เป็น 10-20 ปี ก็จะล้มละลายทั้งประเทศ แต่หลายคนมองว่ารัฐบาลใจร้าย

     “ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ใจร้ายแต่ต้องรู้จักใช้งบประมาณให้คุ้มค่าที่สุด   เราต้องการสร้างประเทศไทย 4.0 ตนพูดจนปากฉีก บางคนก็ยังไม่เชื่อมั่นว่าตนรู้เรื่องจริงหรือเปล่า ตนก็ปรึกษาผู้รู้ทั้งหมดไม่ได้โง่ขนาดนั้น แล้วถามว่าดีกว่าเดิมหรือไม่ในการที่เป็นทหารแล้วมายืนตรงนี้ ไม่ต้องเอาไปเทียบกันไปมา แต่ดูว่าผลงานออกมายังไงดีกว่า อย่าใช้ความรู้สึก และอยากบอกว่ารัฐบาลนี้เป็นผู้แสดงให้โลกเห็นคุณค่าของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมากที่สุด   ที่ผ่านมาไม่เคยมี   ไปแล้วไม่พูดถึงเรื่องนี้ด้วยซ้ำ กลัวไปแข่งขันกับนโยบายการเมืองหรืออย่างไร    ตนไม่รู้แต่ตนไม่กลัว คนเราไม่นึกถึงอดีตก็ไม่ต้องมองอนาคต วันนี้กลไกการตรวจสอบถ่วงอำนาจไม่ใช่การตรวจสอบเพื่อจับผิด แต่พบว่ามีปัญหาก็ต้องเตือนและตนไม่ได้มีอำนาจชี้ถูกหรือผิด หากผิดองค์กรอิสระก็ต้องตรวจสอบต่อ จึงขอให้ทุกคนระมัดระวังและไว้วางใจ วันนี้หนักใจเพราะต้องดูแลข้าราชการด้วย แต่บางคนที่ไม่ได้ตั้งใจก็ต้องเข้าไปอยู่ในกระบวนการตรวจสอบไปด้วย เราจึงต้องเข้าใจลูกน้องหรือน้องๆ ในวันหน้า ทั้งนี้สิ่งที่ตนพูดอยู่ทุกวันยืนยันว่าไม่มีมั่ว เพราะหากมั่ววันหน้าดาบนั้นก็จะคืนสนองตนอีก”