- 10 ก.ค. 2560
ได้กลิ่นศพเน่าเหม็นคลุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ตรวจสอบพบศพถูกห่อหุ้มด้วยเสื่อสีน้ำตาลถูกทิ้งติดกิ่งไม้ใหญ่ ห่างจากถนนลงไปราว 3 เมตร
โดยที่เกิดเหตุเป็นป่าลึกห่างจากถนนสายดังกล่าวเข้าไปราว 2 กม.เป็นเนินเขาที่มีความลาดชันสูง แต่มีการตัดถนนลูกรังขึ้นไปบนยอดเขา รถยังสามารถเข้าไปได้ บริเวณเหวลึกมีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นปกคลุมอยู่เป็นจำนวนมาก โดยได้กลิ่นศพเน่าเหม็นคลุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ตรวจสอบพบศพถูกห่อหุ้มด้วยเสื่อสีน้ำตาลถูกทิ้งติดกิ่งไม้ใหญ่ ห่างจากถนนลงไปราว 3 เมตร จากนั้นหน่วยกู้ภัยได้ลงไปนำศพขึ้นมา โดยสภาพศพถูกห่อด้วยเสื่ออย่างมิดชิดจนไม่สามารถเห็นภายในได้
จากกรณีที่สมาชิกเฟซบุ๊ก “R’forey Rujirada” ได้มีการโพสต์ภาพบุคคลและภาพหนังสือแจ้งความลงบันทึกประจำวันพร้อมข้อความลงในกลุ่ม “ร้องเรียน แจ้งข่าวสาร แสดงความคิดเห็น กับเพจเสียงประชาชนคนภูเก็ต”โดยระบุข้อความว่า “ใครพบเห็นผู้หญิงในรูปซึ่งเป็นน้าสาวแท้ๆ ของหนูเอง หายไปประมาน 7 วันแล้ว ติดต่อไม่ได้และเป็นห่วงมาก ชื่อ พิชชา นามผดุง หายไปที่หาดราไวย์ อำเภอเมือง ภูเก็ตค่ะ ตอนนี้ไปแจ้งความเรียบร้อยแล้วค่ะ ทุกคนกำลังตามหากัน ขอพลังโซเชี่ยลช่วยด้วยนะคะ ใครพบเห็นติดต่อที่เบอร์ 093-6977556 ค่ะ ขอบคุณค่ะ ” ซึ้งหลังจากที่มีการโพสต์ภาพพร้อมข้อความลงในกลุ่มก็ยังไม่มีการพบตัวตลอดเวลา 1 สัปดาห์
จนกระทั่งวันที่ 9 ก.ค.60 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเบาะแสถึงหญิงสาวจึงนำกำลังไปตรวจสอบ นำทีมโดย พ.ต.อ.วิทูรย์ กองสุดใจ รอง.ผบก.ภ.จว.ภูเก็ตนำกำลัง นปพ.ภ.จว.ภูเก็ต-ชุดสืบสวน กก.สสภ.จว.ภูเก็ตและ พฐ.จ.ภูเก็ต ตลอดจนมูลนิธิร่วมใจกู้ภัยภูเก็ต โดยที่เกิดเหตุเป็นป่าลึกห่างจากถนนสายดังกล่าวเข้าไปราว 2 กม.เป็นเนินเขาที่มีความลาดชันสูง แต่มีการตัดถนนลูกรังขึ้นไปบนยอดเขา รถยังสามารถเข้าไปได้ บริเวณเหวลึกมีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นปกคลุมอยู่เป็นจำนวนมาก โดยได้กลิ่นศพเน่าเหม็นคลุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ตรวจสอบพบศพถูกห่อหุ้มด้วยเสื่อสีน้ำตาลถูกทิ้งติดกิ่งไม้ใหญ่ ห่างจากถนนลงไปราว 3 เมตร จากนั้นหน่วยกู้ภัยได้ลงไปนำศพขึ้นมา โดยสภาพศพถูกห่อด้วยเสื่ออย่างมิดชิดจนไม่สามารถเห็นภายในได้ และใช้เชือกไนล่อนสีขาวมัดเสื่อบริเวณด้านบนแล้วโยงเชือกมารัดที่บริเวณกลางและปลายเชือกไปจบที่บริเวณปลายเท้าของผู้เสียชีวิต และยังมีเทปกาวสีเทาปิดทับเสื่อที่ปลายเท้าและบริเวณด้านบนอีกชั้น เมื่อตัดเชือกออกมาจะพบกับสายเข็มขัดที่รัดศพอยู่ที่เอวอีกชั้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ตัดสายเข็มขัดออกพร้อมกับแกะเสื่อ พบภายในศพถูกห่อหุ้มด้วยภาพปูที่นอนสีม่วงขาวและห่อด้วยผ้านวมสีขาวฟ้าเทาอีกชั้น ส่วนบริเวณศีรษะถูกคลุมด้วยถุงพลาสติกสีดำอีกชั้น เมื่อแกะชิ้นส่วนที่พันธนาการศพทั้งหมดออกมา พบร่างหญิงสาวสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเทา นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำแถบสีแดง ไม่สวมเสื้อชั้นในและกางเกงใน มีรอยสักเต็มแผ่นหลังเป็นรูปนกและดอกไม้ ที่เล็บเท้าทาสีขาว เล็บมือทาสีแดง ไว้ผมยาวปะบ่า บริเวณใบหน้าคล้ายถูกทุบจนยุบ บริเวณชายโครงซ้ายมีบาดแผลถูกของมีคมแทง 1 แผล หน้าท้องป่องและเริ่มเน่า เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 วัน ไม่มีหลักฐานว่าผู้ตายเป็นใคร จึงนำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่อีกครั้งที่ รพ.วชิระภูเก็ต
ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นแฟนชาวต่างชาติของ น.ส.พิชชา เป็นผู้ฆาตกรรม เนื่องจากก่อนที่ น.ส.พิชชา หายตัวไป เนื่องจากชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ละแวกใกล้เคียงกับห้องเช่าที่ น.ส.พิชชากับแฟนหนุ่มพักอาศัยได้ยินเสียงทะเลาะวิวาท โดยมีการโต้เถียงกัน จากนั้นเสียงได้เงียบหายไป และไม่มีผู้ใดพบเห็น น.ส.พิชชาอีกเลย จนกระทั่งเพื่อน น.ส.พิชชามาหาที่ห้องพัก แต่กลับพบเพียงแฟนหนุ่มนอนอยู่ในห้องเพียงลำพัง และไม่พบตัว น.ส.พิชชา อีกเลย
หลังจากพบศพและได้รับการยืนยันจากญาติว่าศพดังกล่าวคือ น.ส.พิสชา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 100 นาย นำโดย นำโดย พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.ปทักษ์ ขวัญนา รอง ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ออกติดตามหาตัว Mr.Nico Deutsch แฟนหนุ่มชาวเยอรมันที่หายตัวไปจากบ้านพัก เนื่องจากต้องสงสัยว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน.ส.พิสชา
สำหรับการติดตามผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังออกค้นหาในพื้นที่ตำบลราไวย์ และ บริเวณใกล้ที่ทำงาน จนกระทั้งเจอตัว Mr.Nico Deutsch กำลังเดินอยู่บริเวณถนนไสยวน ซอย 8 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งกระจายกำลังในการค้นหา ชายคนดังกล่าวกลับใช้มีดคัตเตอร์ที่ถืออยู่ในมือปาดคอตัวเองทันทีโดยไม่มีใครคาดคิด
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นพร้อมแจ้งประสานขอรถพยาบาลนำตังส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อให้การช่วยเหลือ งขณะแพทย์และพยาบาลยังให้การดูแลอย่างใกล้ชิด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าระวังตลอดเวลา เนื่องจากชาวต่างชาติดังกล่าวมีอาการเครียดตลอดเวลา และยังไม่สามารถสอบปากคำได้