“เรากินนอนบนถนนลำบากยิ่งกว่าสุนัขจรจัด” จำลองยันพธม.ชุมนุมสงบ บอกเคยผ่านสนามรบทั้งลาวเวียดนามแต่การใช้อาวุธที่ชุมนุมไม่เหมาะ???

จากกรณีศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำพิพากษาคดีสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)เมื่อ 7 ตุลาคม 2551 นั้น พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อดีตแกนนำพันธมิตรฯกล่าวในวันนี้ว่า เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมาอดีตแกนนำ พธม.ไปประชุมกันที่บ้านพระอาทิตย์โดยหลายคนรวมถึงตนไม่ได้ถูกดำเนินคดี เนื่องจากขณะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวตนติดคุกอยู่คนเดียว เพราะออกจากที่ชุมนุมไปเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

       “ผมขอยืนยันว่าพวกเราพันธมิตรฯ ที่ไปชุมนุมกันมากวันน้อยวันก็ตาม ถ้าชุมนุมครบสี่ช่วง 393 วัน 393 คืน เราต้องไปกินไปนอนบนถนนเหมือนสุนัขจรจัด แต่ลำบากยิ่งกว่าสุนัขจรจัดอีก เพราะต้องไปเสี่ยงต่อลูกปืน เสี่ยงต่อระเบิด เสี่ยงกับแก๊สน้ำตา เราทำเพื่อบ้านเมืองโดยตรงไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง เราก็ตั้งใจกันมานานแล้วว่าเมื่อเราได้ทำอย่างนั้นไปแล้วอะไรจะเกิดขึ้นเรารับ เราพร้อมที่จะรับคำพิพากษา ไม่ว่าจะพิพากษาออกมาประการใดก็ตาม ส่วนตัวผมเองนั้นติดคุกมาแล้วครบ 3 คุก ทั้งคุกตำรวจ คุกทหาร คุกพลเรือน แต่เป็นการติดคุกระยะสั้นๆ เพราะฉะนั้นเมื่อศาลพิจารณาออกมาอย่างไรก็เป็นไปตามศาล เรารับฟัง รับปฏิบัติตามศาลทุกประการ”

       ทั้งนี้พล.ต.จำลอง ยังกล่าวถึงการยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ยื่นอุทธรณ์ในคดีด้วยว่า การยื่นอุทธรณ์เป็นเรื่องดีที่ต้องการให้มีการพิจารณารอบคอบขึ้น ส่วนผลจะออกมาประการใดแล้วแต่ศาล ทางพันธมิตรฯได้ดำเนินการไปตามกฎหมาย มีเหตุผลอะไรต่างๆ การชุมนุมไม่ว่าจะครั้งไหนก็ตามชุมนุมด้วยความสงบ ตนเป็นคนหนึ่งที่บอกประชาชนตลอดเวลาว่าอย่าพกอาวุธ อย่าทำให้เกิดเรื่องเกิดราว แม้ตนเป็นทหารผ่านการรบทั้งที่เวียดนามที่ลาว แต่การมาใช้อาวุธในการชุมนุมไม่เหมาะสม ห้ามพกอาวุธ ห้ามไปยิงไปฟันอะไรทั้งสิ้น บางคดีศาลก็บอกว่าที่เกิดเรื่องเป็นเพราะฝ่ายตรงข้าม อันนี้เห็นชัด

 

       นอกจากนี้สำหรับกรณีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ก็ได้เดินทางไปป.ป.ช.เพื่อยื่นหนังสือมีการสั่งฟ้องในคดีสลายการชุมนุมของฝ่าย นปช. ด้วย ซึ่งทางพล.ต.จำลอง กล่าวว่า แล้วแต่ใครจะทำอะไรก็ทำ แต่สำหรับกลุ่มพันธมิตรฯยืนยันว่าพร้อมจะรับฟังและปฏิบัติตามคำพิพากษาทุกประการ ไม่ว่าจะออกมาหนักหรือเบาแค่ไหนก็ตามพร้อม เป็นเรื่องที่ดี ถ้าเคารพกฎหมายบ้านเมืองจะเป็นไปได้ด้วยดี