- 12 ต.ค. 2560
"มีชัย" ว่าไง ประธาน ปปช.ชี้ กฎหมายลูกส่อ "ขัดรัฐธรรมนูญ" ติงขีดเส้นการทำงาน หวั่น ทำคดีถดถอย
เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการการส่งข้อเสนอแนะร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ให้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ว่า การประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวเป็นครั้งที่สอง ก่อนเสนอความเห็นกลับไปที่กรธ.
เนื่องจากมีหลายประเด็นที่ป.ป.ช.กังวล โดยเฉพาะการใช้อำนาจของป.ป.ช.ที่จะแตกต่างไปจากอดีต และการกำหนดกรอบเวลาที่เคร่งครัด ซึ่งจะส่งผลต่อกระบวนการไต่สวน เพราะแต่ละคดีนั้นย่อมมีกรอบเวลาในการพิจารณาที่ไม่เหมือนกัน แม้ว่าการพิจารณาคดีนั้นจะแล้วเสร็จตามกรอบเวลา แต่กังวลเรื่องของคุณภาพในขั้นตอนการไต่สวน ยิ่งในคดีทุจริต การสืบพยานหลักฐานต่างๆล้วนเป็นเรื่องยาก
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาคณะกรรมการป.ป.ช.ได้มีกรอบเวลาในการพิจารณาคดีของตัวเองตามกฎหมายป.ป.ช. อยู่แล้ว แต่กรอบที่กรธ.กำหนดนั้นอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการพิจารณาไต่สวนคดีที่จะส่งต่อไปยังอัยการสูงสุดและศาล โดยเจ้าหน้าที่อาจกังวลเรื่องกรอบเวลา เพราะหากทำไม่ทันเขาก็ต้องรับโทษ ดังนั้นแทนที่จะเป็นประโยชน์แต่อาจเป็นโทษได้เหมือนกัน
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า นอกจากนี้ยังเสนอประเด็นเกี่ยวกับการทำงานตามอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตของสหประชาชาติโดยมีวิธีการสืบสวนสอบสวนแบบพิเศษซึ่งป.ป.ช.สามารถทำได้ แต่ที่ผ่านมาก็ไม่ได้รับการพิจารณาเลย นอกจากนี้หลายเรื่องที่กรธ.กำหนดในร่างพ.ร.บ.ป.ป.ช.นั้นอาจขัดรัฐธรรมนูญ
ด้าน พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า มีหลายประเด็นที่ ป.ป.ช.จะเสนอความเห็นเพิ่มเติมไปยัง กรธ. ทั้งประเด็นการไต่สวนเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ รวมถึงวาระการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบัน ที่เห็นว่ายังขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เบื้องต้นจะมี 4 ประเด็นหลัก เช่น ส่อว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญปี 2560 ขัดต่อแนวบรรทัดฐานที่เคยวินิจฉัยไว้ เป็นต้น