ผจก.โรงงานดัง โวย..ถูกใบสั่ง 5 ใบจากรถสวมทะเบียน รุ่นก็คนละรุ่น แจ้งความแล้วใบสั่งยังกลับมาอีก (ชมคลิป)

วันที่ 7 ก.พ.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟสบุคชื่อ Prapas Keawjury ได้โพสข้อความเตือนภัยกรณีถูกสวมป้ายทะเบียนและถูกใบสั่งเกินกำหนด จำนวน 5 ใบ ส่งมาถึงบ้าน ที่ผ่านมาได้แจ้งไปยัง สภ.ที่ดำเนินการออกใบสั่งแต่ไร้ผล โดยระบุในเฟสบุคว่า รบกวนหน่อยครับ โดนสวมทะเบียนรถ โดนใบสั่งมาหลายครั้งแล้วครับ รวมระยะเวลาสามปีโดนใบสั่งไป 6 ครั้งเลยครับ แจ้งความไปแล้ว แต่ยังมีใบสั่งกลับมาที่บ้าน เป็นรถคันเดิม โดนที่จังหวัดสกลนครซึ่งเจ้าของรถอยู่กรุงเทพครับ และรถก็เป็นคนละรุ่นกัน รถผมเป็นยี่ห้อ Toyota Camry ส่วนรถคันที่สวมทะเบียนปลอมเป็น Toyota fortuner คุณตำรวจทำอะไรอยู่ครับทำไมไม่ตามเรื่องให้เลยครับ โทรแจ้งตำรวจทุกครั้งตามที่ให้เบอร์ในใบสั่งมาครับ. ถ้าเค้าไปขับรถชนใครตายหรือเอาไปขนยาบ้า ชื่อเสียงของผมจะเสียหายหมดครับเพราะถ้าเป็นข่าว ชื่อแรกที่จะโดนคือชื่อเจ้าของรถ ซึ่งกว่าตำรวจจะสืบสาวราวเรื่องได้ เจ้าของรถก็ต้องตกเป็นจำเลยสังคมก่อนได้นะครับกว่าเรื่องจะสืบสวนกันเสร็จ จากความคิดส่วนตัวคิดว่าคันนี้คงไม่ใช่รถถูกกฎหมายอย่างแน่นอนครับ น่าจะเป็นรถที่ขโมยมา รบกวนช่วยแชร์เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นในอนาคตด้วยครับ

จากการสอบถามนายประภาส แก้วเจ้ย อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 23/103 หมู่ 9 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นผู้จักการฝ่ายสาธารณูปโภคในโรงงานโรม ในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ซึ่งตนเองได้รับใบสั่งขับรถเร็วเกินกำหนด จำนวน 6 ครั้ง ประกอบด้วย ใบสั่งกระทำผิด ครั้งที่ 1 วันที่ 4 ก.ค.57, ครั้งที่2 เอกสารข้อมูลหายไปจากการตรวจสอบ, ครั้งที่ 3 วันที่ 11 ส.ค.59, ครั้งที่4 วันที่ 7 พ.ย.59,ครั้งที่5 วันที่ 12 มิ.ย.60 และครั้งที่ 6 วันที่ 20 ม.ค.61 และอีก 1 ครั้งที่ ซึ่งทั้งหมดได้ตรวจสอบที่ สภ.ปากเกร็ด โดยได้รับเอสสารใบสั่งจำนวน 5 ใบ เป็นท้องที่เดียวกันทั้งหมดคือ ตำรวจทางหลวงสกรนคร

ในภาพตามใบสั่งเป็นรถยนต์ Toyota fortuner สีขาว หมายเลขทะเบียน ฎพ3939 กรุงเทพมหานคร เป็นป้ายทะเบียนประมูล ส่วนรถยนต์ของตนนั้นเป็นรถยนต์ Toyota Camry สีขาว หมายเลขทะเบียน ฎพ3939กรุงเทพมหานคร เป็นป้ายทะเบียนประมูล เช่นกัน ทั้งนี้ตนเองก็ไม่ได้ขับรถหรือเดินทางไปยัง จ.สกลนคร เลย ที่ผ่านมาตนเองได้แจ้งไปยัง ตำรวจทางหลวงสกรนคร ทุกครั้งจนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว จึงได้โพสตข้อความเตือนภัยในเฟสบุค เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ นอกจากนี้ได้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานแล้วที่ สภ.ปากเกร็ด  ที่ผ่านมาเมื่อได้รับคำสั่งจะแจ้งไปยัง ตำรวจทางหลวงสกรนคร ที่ออกใบสั่งทันที โดยบอกว่ารถยนต์ในภาพไม่ใช้รถยนต์ของตน ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ให้ส่งหลักฐานรถยนต์ของตนไปให้ ต่อมาเมื่อได้รับใบสั่งหลายครั้งก็แค่โทรศัพท์ไปบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ก็ไม่ต้องจ่ายค่าปรับหรือไม่ต้องส่งเอกสารแต่อย่างใด

ทั้งนี้ตนเองใบรถใบสั่งมาหลายครั้งมากเกินไป และเห็นว่าไม่มีการแก้ไขหรือตรวจสอบในกรณีของตนเองแต่อย่างใด หากปล่อยไว้อีกก็คงมีใบสั่งมาอีก และตนเองเกรงว่ารถยนต์คันดังกว่างจะก่อเหตุผิดกฎหมาย เพราะรถยนต์ปกติก็ไม่ควรที่จะมีหมายเลขทะเบียนเหมือนกันแต่อย่างใด จึงอาจให้หน่ายงานต่างๆที่รับผิดชอบช่วยดูแลความถูกต้องพร้อมตรวจสอบรถยนต์ที่มีการสวมทะเบียนแบบนี้ ซึ่งก็คงมีอีกหลายคันที่เกิดกรณีแบบของตนนี้.

ธัชนนท์ พิริยะกุลชัย  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  สำนักข่าวทีนิวส์  จ.ปทุมธานี