- 09 ก.พ. 2561
ติดตามความเคลื่อนไหวในแวดวงบันเทิง ได้ที่เพจ Tnews-บันเทิง
ลี โซ ยอน บุตรสาวของนักวิชาการมหาวิทยาลัย เติบโตมาในครอบครัวที่อาศัยอยู่ทางเหนือของประเทศ เธอตัดสินใจเข้าร่วมกับกองทัพขณะมีอายุได้เพียง 17 ปี ในห้วงเวลาที่เกาหลีเหนือตกอยู่ในสภาพอดอยาก เมื่อทศวรรษ 1990 ลี โซ ยอน คิดเช่นเดียวกับผู้หญิงหลายคนที่หวังว่าการไปเป็นทหารจะทำให้พวกเธอได้อิ่มท้อง
ปัจจุบัน ลี โซ ยอน อยู่ในวัย 41 ปี แต่เธอยังจำเรื่องราวที่ต้องเผชิญระหว่างเป็นทหารหญิงในกองทัพที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกได้ไม่ลืมเลือน
“ในฐานะผู้หญิง สิ่งที่หนักหนาสาหัสที่สุดคือเรื่องของการอาบน้ำ เราไม่มีน้ำอุ่นให้อาบ ต้องใช้น้ำที่ต่อท่อตรงมาจากภูเขา ซึ่งมีทั้งกบและงูไหลมาตามท่อน้ำ”
ด้วยความฮึกเหิม ลี โซ ยอน รู้สึกสนุกกับชีวิตในค่ายในเวลานั้น เธอเล่าว่าทหารทั้งหญิงและชายมีกิจวัตรประจำวันไม่ต่างกัน ทหารชายอาจต้องฝึกหนักมากกว่า แต่ทหารหญิงต้องทำงานที่เกี่ยวข้องกับการเก็บกวาด ซักล้าง และทำอาหารที่ทหารชายไม่ต้องทำ
แต่หลังจากการตรากตรำจากการฝึกหนักและกินอาหารที่ได้เพียงจากการแบ่งสันปันส่วน ร่างกายของ ลี โซ ยอน และเพื่อนทหารหญิงคนอื่น ๆ ก็เริ่มออกอาการ
“หลังจาก 6 เดือน หรือราว 1 ปี เราก็ไม่มีประจำเดือนกันแล้ว เพราะความที่เราต้องอดอยากและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่ความเครียด” เธอเล่า แต่การไม่มีประจำเดือนทำให้ทหารหญิงหลายคนรู้สึกดีเพราะไม่เช่นนั้นชีวิตช่วงนั้นคงยุ่งยากมากขึ้น เพราะปัญหาขาดแคลนผ้าซับระดู
แม้ ลี โซ ยอน จะไม่ได้ผ่านประสบการณ์เลวร้ายอย่างการถูกขืนใจในช่วงที่เธออยู่กับกองทัพตั้งแต่ปี 1992-2001 แต่เพื่อนทหารหญิงหลายคนถูกกระทำอย่างไม่รู้จักหยุดจากหย่อน ผู้ลงมือคือบรรดาผู้บังคับบัญชาของทหารเกณฑ์เหล่านั้นนั่นเอง
อดีตนายสิบหญิงประจำหน่วยสื่อสารใกล้ชายแดนเกาหลีใต้ ตัดสินใจลาออกจากกองทัพเมื่อมีอายุได้ 28 ปี แม้จะประสบปัญหาด้านการเงินและการปรับตัวกับโลกภายนอก แต่เธอรู้ดีใจที่ได้กลับมาใช้ชีวิตกับครอบครัวอีกครั้ง
กระทั่งปี 2008 ที่ ลี โซ ยอน พยายามหลบหนีไปยังเกาหลีใต้ แต่ความพยายามครั้งแรกไม่สำเร็จ เธอถูกจับตัวได้ในบริเวณชายแดนเกาหลีเหนือด้านที่ติดกับจีน และถูกส่งตัวไปเข้าค่ายจองจำอยู่ร่วมปี หลังจากถูกปล่อยตัวได้ไม่นาน เธอตัดสินใจว่ายน้ำข้ามแม่น้ำถูเหมินไปยังจีนอีกครั้ง และได้รับความช่วยเหลือจากนายหน้าที่พาเธอเดินทางเข้าจีนและต่อไปยังเกาหลีใต้
ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่าในบรรดาผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือนั้น ร้อยละ 70 เป็นผู้หญิง ซึ่งส่วนหนึ่งเกี่ยวเนื่องกับการที่คนไม่มีงานทำส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ขณะที่อายุเฉลี่ยของผู้แปรพักตร์เหล่านี้อยู่ในช่วง 20-30 ปีเศษ เพราะมีสภาพร่างกายแข็งแรงพอที่จะว่ายน้ำข้ามแม่น้ำและอดทนต่อสภาพอากาศได้มากกว่า
จูเลียต มอร์ริลลอต์ ผู้แต่งหนังสือเรื่อง North Korea in 100 questions ซึ่งตีพิมพ์เป็นภาษาฝรั่งเศส บอกกับบีบีซีว่าการรับฟังเรื่องราวของผู้แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือ ต้องฟังหูไว้หู แต่ถึงอย่างนั้นเธอยืนยันว่าเรื่องราวที่ ลี โซ ยอน เล่าหลายเรื่องนั้นเกิดขึ้นจริง
มอร์ริลลอต์ กลับจากการเดินทางไปเก็บข้อมูลในเกาหลีเหนือ ซึ่งเธอพบว่าเรื่องที่ทหารหญิงมีภาวะประจำเดือนขาดนั้นเกิดขึ้นจริง
“ผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 20 ปี เล่าให้ฟังว่าเธอต้องฝึกหนักจนประจำเดือนไม่มาเป็นเวลานานถึง 2 ปี”
ส่วนเรื่องผ้าซับระดูนั้น ผู้หญิงในเกาหลีเหนือทุกวันนี้ยังใช้ผ้าซับระดูแบบโบราณและต้องซักและนำมาใช้ซ้ำ สำหรับเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นนั้น กองทัพเกาหลีเหนือยืนยันว่ามีมาตรการจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยผู้กระทำผิดฐานข่มขืนอาจถูกลงโทษจำคุกสูงสุดถึง 7 ปี อย่างไรก็ดี มอร์ริลลอต์ กล่าวว่าในความเป็นจริง ไม่มีใครต้องการไปเป็นพยาน ดังนั้นผู้ชายที่เป็นฝ่ายลงมือกระทำจึงยังคงลอยนวลอยู่เรื่อยไป
.
.
.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : bbc.com/thai