- 20 มี.ค. 2561
#ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เพจความจริง
แชร์ความเฮงซวยในชีวิตค่าา ไม่อยากให้ใครต้องมาเจอชะตากรรมแบบนี้ #HONDA first #ธัญบุรีคลองสอง
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเราอยู่ธัญบุรีค่ะ ทำงานที่สุขุมวิท ขับรถไปกลับทุกวันจ-ศ วันละเกือบ 80 กม. เรื่องเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันพฤ (25/1/2561) ค่ะ ระหว่างทางกลับบ้านการจราจรค่อนข้างติดค่ะ ขับออกจากที่ทำงานปกติไม่มีสัญญาณหรือไฟแจ้งเตือนใดๆขึ้นที่หน้าปัดค่ะ อาการของรถก็ปกติไม่มีกระตุกหรือสั่นใดๆ จนขับมาได้ประมาณครึ่งชม. เครื่องวูบดับกลางถนน (เวลาประมาณ 19.30 น.) เลยลองสตาร์ทเครื่องใหม่เครื่องมีอาการสั่นแต่สตาร์ทไม่ติดค่ะ มีกลุ่มพี่ๆอาสาแถวนั้นมาช่วยเหลือดูอาการต่างๆ เช็คน้ำมัน (เหลือครึ่งถัง) ลองพ่วงแบตเตอรี่ เช็คน้ำต่างๆในเครื่องทุกอย่างปกติค่ะ ต้องบอกก่อนว่ารถเราเข้าศูนย์ตามระยะกำหนดตลอด อายุรถประมาณ 3-4 ปี วิ่งได้ 4 หมื่นโลและจะตรวจเช็คทั่วไปเกือบทุกวัน เบื้องต้นเราได้โทรแจ้งทางศูนย์บริการรถยนต์ 24 ชม. ทางศูนย์ได้ติดต่อรถยกให้ก็ยกเข้าศูนย์ ระยะทางประมาณ 35 กม. ค่าใช้จ่าย 2350.- ถึงศูนย์ประมาณ 4 ทุ่มค่ะ ก็จอดทิ้งไว้เพราะศูนย์ปิดแล้ว
วันศุกร์ (26/1/2561) ต้องทำงานแต่ขอเข้างานช้าค่ะ เราไปถึงศูนย์เกือบๆ 8 โมงทำเรื่องเอกสารต่างๆเรียบร้อยพนักงานแจ้งว่ารับรถช่วง 16.00 น. จะทำการตรวจเช็คก่อนและแจ้งให้ทราบช่วงเที่ยง เราก็กลับ จนเกือบๆบ่ายโมงยังไม่มีการติดต่อใดๆกลับมา เราจึงได้โทรไปสอบถาม พนักงานรับเรื่องและบอจะเช็คให้เดี๋ยวติดต่อกลับ เราก็ถามว่าใช้เวลานานแค่ไหน พนักงานบอก "แปปเดียวครับ" เราก็รอต่อจนบ่ายสอง โทรศัพท์เงียบกริบค่ะ ไม่มีการติดต่อกลับใดๆทั้งสิ้น คือเราสงสัยว่าตั้งแต่ 8 โมงถึงบ่าย 2 นี่เรายังไม่ได้คิวตรวจเช็ค หรือกำลังตรวจเช็ค หรือตรวจแล้วพนักงานยุ่ง ลืมแจ้ง หรืออะไร เราจึงไปที่ศูนย์ถามว่าติดต่อใครได้บ้าง พนักงานคนนึงก็ถามว่าติดต่อเรื่องอะไร เราก็พูดไม่ดีหรอกค่ะ เราบอกว่ายกรถมาจอดไว้รอซ่อม แต่ไม่รู้ได้ซ่อมหรือยัง หรือกำลังตรวจเช็ค หรือกำลังทำอะไร มาติดต่อตั้งแต่ 8 โมงเช้าแล้วพนักงานแจ้งว่าจะติดต่อมาก่อนเที่ยงนี่บ่ายสองแล้ว ไม่มีการติดต่อใดๆเลย เราถามหาคุณพนักงานคนรับเรื่องตอนที่เราโทรถามว่าคนไหน อยู่ไหม เขาก็มา เราก็บอกว่าไม่มีการติดต่อกลับมาเลยหลังจากที่รับเรื่องเรา คุณบอกแปปเดียว แปปของคุณนี่นานแค่ไหน โทรถามเกือบๆบ่ายโมงนี่บ่ายสองแล้ว เขาก็บอกเดี๋ยวไปดูให้ตอนนี้เลย งงค่ะ แล้วที่โทรมาจะรับเรื่องไว้ทำไม แต่อันนี้ไม่ใช่ประเด็นหลัก พนักงานมาบอกว่ารถกำลังตรวจเช็ค แล้วเขาก็พาเราไปดูรถ และคุยกับหัวหน้าช่าง เขาชี้แจงว่าเริ่มตรวจเช็คช่วง 10 โมง ขึ้นรถเราก็สตาร์ทได้ปกติ ไม่พบปัญหาตามที่เราแจ้ง ลองทดสอบขับขี่ประมาณ 5-10 กม. ก็ไม่ดับ ตัวเครื่องเช็คด้วยระบบคอมพิวเตอร์ไม่พบปัญหา พบรอยเท้าหนูแต่ไม่พบสายไฟใดๆขาด ทุกอย่างปกติ เราลองแจ้งพนักงานให้ตรวจสอบเฉพาะจุด แบตเตอรี่ (พึ่งเปลี่ยนไม่ถึงปี) ไดสตาร์ท น้ำมันเครื่อง ตัวจ่ายน้ำมัน เขาบอกตรวจสอบทั้งหมดแล้วไม่พบปัญหา ตัวเครื่องปกติทุกอย่าง ในเมื่อปกติทุกอย่างเราก็ถามว่างั้นเอารถกลับได้เลยมั้ยคือเราต้องไปทำงานต่อ พนักงานก็บอกถ้าไม่มีปัญหาก็เอากลับได้ แต่ตอนนี้ช่างกำลังออกไปขับทดสอบอยู่ (ไม่มีการแจ้งเจ้าของรถใดๆทั้งสิ้น) แต่อยู่แถวนี้พนักงานก็ตามให้และถามจะให้ล้างรถดูดฝุ่นให้ไหม ไม่มีค่าใช้จ่าย เราขี้เกียจรอแล้วค่ะจะไปทำงาน ตอนนั้นบ่าย 3 แล้วเลยบอกไม่ต้องค่ะนาน พนักงานก็บอกแปปเดียวครับไม่นาน เราก็เออ ออ ชำระค่าตรวจเช็ค 519.- และขับไปทำงานต่อโดยสวัสดิภาพ แต่...กลับไม่สวัสดิภาพค่ะ
ขาไปขับถึงที่ทำงานปกติเกือบ 40 กม. ไม่มีอาการไรเราก็คิดว่าเออคงปกติจริงๆนั่นแหละเพราะพนักงานก็ลองขับมาแล้ว พอขากลับขับมาได้ประมาณ 20 กม. บนถนนวิภาวดีเลนขวาสุดค่ะขับไปได้อย่างช้าๆเพราะการจราจรค่อนข้างติดขัด และแล้ว.. อาการเดิมเลยค่ะ แต่ครั้งนี้เลวร้ายกว่าคือดับบนเนิน เราเหยียบคันเร่งอยู่ๆวูบเลยไม่มีอาการอะไร รถอยู่เกียร์ D แต่ก็ไหลลง เหยียบเบรคแล้วค่ะแต่ก็เกิดอุบัติเหตุจนได้ ชนกับคันหลัง ตอนนั้นประมาณสองทุ่ม ก็เรียกประกันเคลียร์กันไป แล้วรถเราไม่เคยมีประวัติการชนต้องมาเสียประวัติทั้งที่ไม่ใช่ความผิดตัวเองด้วย แล้วปัญหาคือรถเราเคลื่อนย้ายไม่ได้ สตาร์ทไม่ติดเหมือนเดิมค่ะ อาการเดิม ต้องใช้รถยกเราก็เรียกคันเดิมเลยค่ะพอดีมีเบอร์อยู่เมื่อวานพึ่งใช้บริการได้ใช้สองวันติดเลย วันนี้ค่าใช้จ่าย 2100.- ระยะทางใกล้กว่าเดิมค่ะ ชำระเองค่ะประกันไม่ดูแลส่วนนี้เพราะไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ ก็เดินทางไปกับรถยกถึงศูนย์เดิมเกือบๆ 5 ทุ่มค่ะ เหนื่อยค่ะ เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา เมื่อวานก็แล้ว วันนี้ก็อีก แล้วเราเป็นผู้หญิง เดินทางคนเดียวตลอดค่ะโชคยังดีที่ขับขี่บนถนนหลักคนเยอะ รถเยอะ ถ้าไปดับที่เงียบๆเปลี่ยวๆก็ไม่อยากจะคิดเหมือนกันค่ะ แล้วใครขับรถในกทม.จะรู้ว่าถนนเลนเดียวเยอะมาก ถ้าดับตรงนั้นเดือดร้อนคันอื่นเขามั้ยอ่ะ
ต่อมาวันเสาร์ (27/1/2561) ไปศูนย์ตอนเช้าเหมือนเดิมถึงเกือบๆ 9 โมง วันนี้เราหยุดงานแต่มีธุระค่ะ ก็ต้องแคนเซิลก็ไปเพื่อมาเคลียร์เรื่องนี้ก่อน ตอนไปถึงรถเราถูกเคลื่อนย้ายไปซ่อมแล้ว พนักงานเดินมาขอกุญแจและบอกจะตรวจเช็คให้ละเอียดให้เรานั่งรอ เราก็ถามว่าแล้วเมื่อวานนี่ตรวจเช็คไม่ละเอียดหรอคะ พนักงานก็บอกว่าละเอียด แต่วันนี้จะรื้อออกมาดูให้อย่างละเอียด นี่ก็ถามว่าแล้วทำไมไม่รื้อตั้งแต่เมื่อวาน เขาก็บอกเช็คเมื่อวานละไม่พบปัญหา เอ้า ก็ถ้าเช็คละเอียดแล้วทำไมไม่พบก็เหตุมันเกิดตั้งแต่วันพฤนู่น พนักงานก็บอก "เดี๋ยวคุณรอแปปนึง นั่งรอแปปนึงนะ เดี๋ยวผมเช็คให้ละเอียดก่อนแล้วเดี๋ยวผมบอกอีกที ตอนเย็นๆนะ รอก่อนนะครับนะ" เราก็ถามว่าแล้วแบบนี้บริษัทจะรับผิดชอบยังไงในเมื่อวันก่อนคุณบอกรถปกติ แล้วมันเกิดเหตุขึ้นอีก แล้วลูกค้าต้องเสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย เขาก็ตัดบทว่าจะคุยกับผจกให้ เราก็ถามว่าจะได้คำตอบเมื่อไร เขาก็บอกเย็นนี้ครับ เย็นนี้ คุณนั่งรอก่อนนะครับนะ เออ เค รอก็รอ ก็ยังไม่ทันเล่าเรื่องอุบัติเหตุเขาก็เดินไปละ
ทีนี้มีผู้ชายไม่ได้ใส่ชุดฟอร์มพนักงานเดินเข้ามาถามว่าคุณ...ใช่มั้ยครับ ตอนนี้รถกำลังตรวจเช็คอยู่ เราเลยขอดูการทำงานของช่าง เขาถามว่าติดใจเรื่องอะไรครับ เราบอกก็ไม่ติดใจแต่จะดูว่าทำอะไรอยู่ขั้นตอนไหน เขาก็พาเราไปดูเสร็จแล้วก็นั่งคุยกันในห้องทำงานเขา เราก็ไม่รู้เขาคือใคร แต่คิดว่าผู้จัดการ คือเขาไม่ได้แนะนำตัว เราก็ไม่ถามค่ะ เขาถามว่าอาการเป็นยังไงเราก็เล่า เขาก็บอกจริงๆวันแรกตรวจสอบแล้วยังไม่พบปัญหาก็ควรจะเอารถตรวจเช็คก่อนสัก 2 วัน เราก็ อ้าว!! สวนกลับทันทีว่าแล้วทำไมคุณไม่พูดแบบนี้ตั้งแต่วันแรกคะ? คือพนักงานอนุญาตให้นำรถกลับได้เลย ไม่ใช่ว่าเราสุ่มสี่สุ่มห้าขับกลับมาเมื่อไหร่อะ จะโทษว่าเป็นความผิดเราที่ไม่ทิ้งรถไว้หรอ แต่เราก็ถามก่อนแล้ว ถามพนักงานดูก็ได้ พอพูดจบเขาก็บอกว่าความผิดของพนักงานผมเอง เขาก็ขอโทษ เราก็ค่ะ!! คือขอโทษแล้วยังไง คุณจะรับผิดชอบยังไง เขาก็บอกมันไม่ใช่ความรับผิดชอบของทางศูนย์บริการ เราก็อ้าวอีก!! คือจะไม่รับผิดชอบ? ทั้งๆที่เหตุมันเกิดจากพนักงานของคุณ ถ้าคุณไม่บอกรถปกติเราจะเอารถกลับมั้ย เราเสียค่ารถยกวันแรกเราไม่พูดถึงเลย แต่วันที่สองนี่มันไม่ใช่ คุณตรวจเช็คบอกรถปกติดีแล้วขับมาพังแบบเดิมซ้ำสองรอบ นี่ถ้าวันนี้คุณบอกปกติอีก แล้ววันหน้าวันหลังดับอีกลูกค้าต้องเสียค่ารถยกเองอีกเรื่อยๆเหรอ เขาก็บอกอาจจะต้องมีการคุยกันอีกทีเรื่องค่าใช้จ่าย แล้วก็ให้นามบัตรมา พร้อมกับแนะนำตัวหลังจากที่คุยกันมานานแล้ว เขาคือผู้จัดการผู้ไม่มีการแนะนำตัวก่อนคุยกับลูกค้า ตลกดีค่ะ และทิ้งท้ายว่ามีไรโทรหาผมได้โดยตรง แล้วเขาก็ถามค่ารถยกแล้วพูดต่อว่าอาจจะมีการช่วยเหลือตกลงกัน เราก็บอกไปว่ามันไม่ใช่การช่วยเหลือ มันคือความรับผิดชอบของคุณ และเล่าว่าครั้งนี้มันหนักกว่าครั้งแรก เกิดอุบัติเหตุด้วย เขาก็ทำหน้าแบบ เหรอ เกิดอุบัติเหตุด้วยเหรอ ยังไง เราก็เล่า แล้วเขาก็พูดถึงอะไหล่ ว่ากำลังสันนิฐานว่าอันนี้เสีย ราคาประมาณ 6,7xx ซึ่งลูกค้าต้องจ่ายเอง เราบอกเราไม่จ่าย และไม่ยินดีที่จะจ่าย ถ้าคุณตรวจเช็คและแจ้งแบบนี้ตั้งแต่วันแรกเราไม่มีปัญหาหรอก ชำระเต็มจำนวนอยู่แล้ว แต่นี่คุณตรวจเช็คแล้วบอกรถปกติแต่มันมาเกิดเหตุแบบนี้และคุณปัดทุกอย่างไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรเลยมันไม่ใช่ เขาเลยตัดบทให้คุยกันอีกทีตอนตรวจเช็คอย่างชัดเจนว่าอันนี้เสียจริงๆ และให้เรานั่งรอด้านนอก
นั่งสักพักพนักงานก็เรียกไปและแจ้งว่า เป็นอย่างที่ลูกค้าสงสัยจริง คือตัวจ่ายน้ำมัน (ปั๊มติ๊ก) เสีย เราถามว่าแล้วทำไมเมื่อวานบอกรถปกติทุกอย่าง แล้วเมื่อวานก็แจ้งให้เช็คเฉพาะจุดแล้วคุณก็บอกปกติ เขาก็ตอบง่ายๆค่ะ "ก็เมื่อวานเช็คแล้วไม่พบปัญหา" เราก็อ้าว ทำไมไม่พบในเมื่อปัญหามันเกิดตั้งแต่วันพฤ. ละ เขาก็บอกไม่ทราบ สรุปได้ความว่าวันแรกเช็คไม่เจอ ปกติดี แต่พอเข้าศูนย์อีกทีถึงจะเจอ เรานี่งงก็ถามว่าคุณเอาคำว่าปกติดีของคุณมาเสี่ยงกับชีวิตลูกค้าเหรอ คือรถยังหาปัญหาไม่เจอให้รถลูกค้ามาใช้คือไร เขาก็บอกว่าก็ลูกค้าเร่งเอารถเอาจริงมั้ยครับ เราก็เอ้า คือเราไม่ได้เร่งการตรวจเช็คมั้ยอะ เขาอ้างว่าแค่ผมจะล้างรถให้ลูกค้ายังบอกไม่ต้องเลยเพราะมันนาน จริงมั้ยครับ เราก็บอกว่าใช่คือจะไม่ให้ล้างเพราะจะรีบไปทำงานต่อ เขาก็นั่นไงเห็นมั้ยครับ คือนี่ยังพูดไม่จบ!! คือแต่เราไม่ได้เร่งการตรวจเช็คป่ะ คือคุณบอกเองว่ามันยังไม่พบปัญหาและตัวเครื่องปกติดี คำว่าปกติของคุณ ลูกค้าก็ต้องมั่นใจแล้วค่ะว่ารถมันใช้งานได้ปกติ คุณคือศูนย์บริการฮอนด้านะคะ ไม่ใช่อู่ข้างถนน เขาก็หัวเราะ เราถามหัวเราะอะไร ไม่ตลกค่ะ ถ้าจะให้จอดทิ้งไว้อีกสักวันสองวันเมื่อวานคุณก็ควรจะแจ้ง เขาก็เถียงว่าเราไม่ฟัง ก็ถ้าไม่ฟังจะรู้เรื่องได้ไงคะว่าคุณบอกว่ารถปกติ ยังไม่พบปัญหา อธิบายปาวๆว่าเริ่มเช็คกี่โมงกี่ยามไม่ฟังจะรู้เรื่องป่ะ งง เรายอมรับว่าเราพูดจาไม่ดีค่ะ โมโหค่ะ โมโหกับการปัดความรับผิดชอบทุกอย่าง แล้วยังมีหน้ามาโทษลูกค้า เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอ ยังไม่จบนะคะ ก็คุยต่อเรื่องราคา 7 พัน ++ จำไม่ได้ว่าบวกเท่าไร เราถาม 7 พันนี่ค่าไรบ้าง เขาก็บอกค่าอะไหล่+ค่าตรวจเช็ค เราบอกว่าเมื่อวานก็จ่ายค่าตรวจเช็คทำไมวันนี้ต้องจ่ายอีก เข้าสองวันก็ต้องจ่ายรายวันเลยเหรอ ถ้าเข้าเป็นเดือนต้องจ่ายรายเดือนเลยมั้ย แล้วอีกอย่างเมื่อวานจ่ายไปคุณบอกปกติทั้งที่ไม่ได้ซ่อมไรเลย แต่รถก็พังอีก ยังจะต้องมาจ่ายค่าตรวจเช็คอีกเหรอ เขาก็บอกโอเคงั้นเดี๋ยวเขาเคลียร์ค่าตรวจเช็คให้ ก็หักออกเหลือแค่ค่าอะไหล่ เราก็บอกเราไม่จ่าย เขาบอกไม่จ่ายก็ไม่สามารถซ่อมให้ได้ เราบอกจริงๆมันควรจะเป็นความรับผิดชอบของคุณ เขาบอกว่าถึงคุณไปศูนย์ไหนเขาก็ทำแบบผมทั้งนั้นแหละครับ สรุปสั้นๆค่ะจะไม่รับผิดชอบอะไรเลย ก็ยืนยันเหมือนเดิมไม่จ่ายไม่ซ่อม เขาก็ถามตกลงลูกค้าจะเอายังไงให้ซ่อมมั้ย เราก็ตอบทำไงได้คะ ไม่ซ่อมก็ไม่มีรถใช้ มันก็ต้องซ่อมถูกมั้ยคะ รถขับไปไหนไม่ได้ เคลื่อนย้ายก็เสียค่ายก แล้วต้องจ่ายเองอีก มีตัวเลือกอื่นเหรอคะ ก็ต้องซ่อม
เขาก็บอกอะไหล่ไม่มีต้องสั่งวันที่คุยกันวันเสาร์ มาส่งได้เร็วสุดวันจันทร์ตอนเช้า แล้วเราถามว่ารถจะเสร็จ จะรับได้เมื่อไหร่คือต้องใช้รถ เขาก็บอกอะไหล่มาตอนเช้าตอนเที่ยงก็เสร็จ จบค่ะ ก็มีทิ้งท้ายคำขอโทษ แต่เราบอกไม่รับคำขอโทษค่ะ และบอกไว้เลยว่าผิดหวังกับการแก้ปัญหาของพวกคุณมาก นี่คือคุยแค่กับพนักงานค่ะ ผู้จัดการไปไหนไม่รู้นะคะ หาไม่เจอ เงาก็ไม่เห็น ความคิดเราคือมันไม่ใช่หน้าที่ที่เราต้องดิ้นรนไปคุยกับเขาค่ะ ถ้าจะเทคแคร์ลูกค้านี่ลูกค้าต้องดิ้นรนตามหาตัวคุณหรอคะ ไม่มั้ง เราก็เดินออกมาและฉีกนามบัตรที่ได้ส่งให้พนักงานค่ะ บอกว่ารบกวนฝากคืนผู้จัดการด้วยค่ะ มันไร้ประโยชน์ ได้มาก็ไม่ได้ใช้ แล้วก็กลับค่ะ ตอนนั้นประมาณเกือบๆ 11 โมง
เราก็คิดทบทวนหลายอย่างค่ะ ว่าควรจะทำยังไงต่อ แล้วก็ตัดสินใจโทรไปแจ้งศูนย์บริการใหญ่ ในใจก็คิดว่าคงไม่ได้อะไรหรอกค่ะ ก็รู้ แต่คุณก็ควรจะรู้ว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น และอยากจะดูวิธีการจัดการปัญหาจากทางฮอนด้า ส่วนตัวคิดว่าก่อนเราจะตัดสินใจซื้อรถยนต์สักคันนี่เราต้องมั่นใจในคุณภาพของแบรนด์นั้นๆในระดับนึงเลยนะคะ คิดว่าบริการหลังการขายจะช่วยอะไรได้บ้าง แต่ไม่เลยค่ะ!!! ก็โทรไปแจ้งช่วง 16.20 น. ของวันเสาร์นั่นแหละค่ะ เล่าเหตุการณ์ทั้งหมด พนักงานก็รับเรื่องและแจ้งว่าจะดำเนินการให้ช่วงเช้าวันจันทร์ เนื่องจากติดเสาร์ อาทิตย์ และจะติดต่อกลับมา
เราก็รอจนวันจันทร์ค่ะ วันนี้ทำงาน เรารอจนเกือบเที่ยงวันโทรศัพท์เงียบกริบ เราเลยโทรไปตามเรื่องเองรอบสองค่ะ แจ้งเองตามเรื่องเองครื้นเครงมาก พนักงานก็บอกจะตามเรื่องให้แล้วก็วางสาย จบการสนทนาแต่เพียงเท่านี้.
สัก 10 น. โทรศัพท์เข้าค่ะจากศูนย์ แต่ไม่ใหญ่ค่ะ ศูนย์ที่ซ่อมรถเรา บอกว่าตอนนี้เอารถไปขับทดสอบอยู่ เดี๋ยวถ้าไม่มีปัญหาบ่ายๆก็รับได้ เราก็ถามว่าไหนตอนแรกว่าได้รับก่อนเที่ยง เขาก็บอกเสร็จแล้วแต่ขับทดสอบอยู่เพื่อให้แน่ใจ เดี๋ยวเสร็จโทรแจ้ง บลาๆๆ เราขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืดค่ะ ก็เออ ออ วางๆไป ลำไย เพราะคำพูดจากศูนย์บริการนี้เชื่อถือไม่ได้ตั้งแต่วันแรกแล้ว ปกติไปเช็คระยะศูนย์นี้ตลอดค่ะ ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เรื่องซ่อมนี่หนักใจค่ะ คุณน้าก็เคยมีประสบการณ์มาก่อน แต่ครั้งนี้เจอกับตัวเลย
โทรศัพท์เราก็เงียบจนบ่ายสองค่ะ เบอร์แปลกโทรมาอีก เป็นศูนย์ที่ซ่อมรถค่ะ บอกว่าลูกค้าชื่อนี้ใช่มั้ย รถกำลังตรวจเช็ค เราก็ถามยังไม่เสร็จอีกหรอ จะได้รับรถตอนไหน เขาก็บอกเดี๋ยวพนักงานจะแจ้งให้ทราบ เอ้า พนักงานอะไร แล้วนี่ไม่ใช่พนักงานหรอ งง เขาบอกเป็นฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ เราก็ถามแล้วโทรมาทำไม ก็บอกโทรมาแจ้งว่ารับทราบแล้วที่ลูกค้าร้องเรียนไป เราก็ถามรับทราบแล้วยังไง คือมีอะไรเปลี่ยนแปลงมะ ถ้าไม่มีจะโทรมาทำไม งงเด้อ ก็จบแค่ว่าเดี๋ยวให้พนักงานส่วนหน้าแจ้ง เพราะคนที่โทรมาไม่รู้เรื่องอะไรเลยถามไรก็ตอบไม่ได้สักอย่าง ผ่านไป..
เราเลิกงานก็ไปถึงศูนย์ประมาณบ่าย 3 กว่าๆค่ะ พนักงานเดินมาบอกรถเสร็จแล้ว ล้าง ดูดฝุ่นเรียบร้อย เอ้า เสร็จตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาบอกบ่ายๆ บ่ายแค่ไหนกี่โมง ทำไมไม่มีโทรแจ้ง ไหนโทรมาตอนเที่ยงว่าจะโทรมาแจ้งตอนรถเสร็จไง งงค่ะ ก็นั่นแหละ ได้รับคำขอโทษเหมือนเดิม เราก็หัวเราะตลกอ่ะ ก็ถามขอโทษแล้วไงเมื่อวานก็ขอโทษ จะขอโทษทุกวันเลยมั้ง ขี้เกียจเถียงละเหนื่อย ก็พาไปจ่ายเงิน ละรับรถ เราก็ลองสตาร์ท ปกติค่ะ แต่ปรากฏว่าพีคมากกกก!!! น้ำมันหมดเกลี้ยง เดี๋ยวแนบรูปตามไปให้ ก่อนจอดทิ้งไว้น้ำมันเกือบครึ่งถัง เรายังไม่พูดอะไร ถามพนักงานว่าทดลองขับไปกี่กิโล พนักงานก็ไม่รู้เรื่องค่ะ ช่างเป็นคนขับ ขับถึงไหนๆๆไม่รู้ ตลกมาก เดินไปถามช่างให้ ระหว่างพนักงานเดินไปเราก็คำนวณความต่างระยะทางปัจจุบันกับระยะทางในวันที่ส่งซ่อม (26/1/18) ได้ 203 กิโล พนักงานกลับมาตอบว่าทดลองขับ 35 กิโล เราถามแน่ใจเหรอคะ เราก็บอกเราเช็คมาได้ 200 กว่ากิโล เขาก็บอกขับไปกลับก็ 80 กิโล (อ้าวมีเพิ่มมาเฉย) ละมีลองขับก่อนหน้า 80 กิโลอีกประมาณ 35 ตลกค่ะ เราบอกลองรถลูกค้านี่คุณลองถึงขั้นน้ำมันหมดเลยเหรอ พนักงานย้อนถามเราว่า หรอครับ? คือนี่คิดในใจนี่แบบ #หรอพ่อง ยังมีหน้ามาถามคำนี้ได้ทั้งที่ตอนสตาร์ทเครื่องเขาก็ยืนอยู่กับเรา เราเลยไปสตาร์ทให้ใหม่ ถามว่านี่ยังไง หน้าปัดเสียหรือยังไงน้ำมันไม่มีสักขีด งงมาก เขาก็เดินไปคุยกับช่างมั้งไม่รู้ เสร็จกลับมาบอกว่าเดี๋ยวผมจ่ายให้ก็ได้ค่าน้ำมันอ่ะ 300 บาทเดี๋ยวผมควักจ่ายให้เองเลย พร้อมหยิบกระเป๋าตังขึ้นมา บอกผมรำคาญละ!!! คืออออออ!?! คำว่ารำคาญนี่ควรออกมาจากปากกรูมั้ยยยยยยย (คิด) คือโมโหมากกกกก!!!! ตะโกนออกไปว่ารำคาญเหมือนกันแหละต้องมาเจออะไรแบบนี้ เงิน 300 คุณอะเก็บไว้เถอะ คือเราไม่อยากจะใช้คำพูดดูถูก เราก็หยุดแค่นี้ ละพูดต่อให้เขาคิด คือมันถูกต้องป่าวอ่ะที่ลองรถลูกค้าจนน้ำมันหมดขนาดนี้แบบไม่มีขึ้นเลยสักขีด ทั้งชีวิตเคยขับจนหมดขนาดนี้แค่ 1-2 ครั้ง แล้วยังมาเจอการพูดจาแบบนี้ แล้วนี่ถ้าบ้านหรือปั๊มไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ขับไปดับใครรับผิดชอบ คุณรับผิดชอบมั้ย ก็เงียบ ตลกมาก เราขับรถออกมาเลย หงุดหงิดมาก โมโหมากกกก รีบหาปั้มก่อน ยังไม่จบ!!! กลับบ้านมายังมาราวีกูอี้กกกก!!!!
เบอร์แปลกโทรมา พนักงานที่ศูนย์ค่ะ เราถามมีไรอีก พนักงานบอกว่ามีหมวกกันน็อคอยู่ในรถเรา เราก็บอกไม่มี หมวกอะไร เขาอธิบายว่าพนักงานวางผิดคันตอนล้างรถดูดฝุ่น!!! คือมีรถเหมือนเราจอดติดกัน แล้วไงอะงง เราบอกรถมันก็มีป้ายทะเบียนป่ะ เขาก็บอกเกิดจากความผิดพลาด ไม่หรอก เราว่าคุณอะทำงานสะเพร่า ละทีนี้ยังไง เขาก็บอกก็นั่นแหละครับ ลูกค้าอยู่ไหนตอนนี้ เราก็บอกอยู่บ้าน แล้วยังไง คือบอกต้องมาตามเอาหมวกของลูกค้าอีกคัน ถามเราอยู่แถวไหนยังไง สรุปตามมายันบ้านกรูอีกกกก!!! หมดคำพูดละค่ะ ขอจบเรื่องเฮงซวยไว้แค่นี้
ล่าสุดผู้เสียหายได้มีการออกมาเปิดเผยว่า ความซวยยังไม่หมดเมื่อครั้งนี้ไปรับรถกลับมาจากศูนย์แล้วพบว่า ได้รับใบสั่งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมาถึงบ้าน
จึงได้มีการตามเรื่องไปที่ศูนย์เนื่องจากวันที่ในใบสั่งเป็นวันที่รถยังอยู่ที่ศูนย์ พร้อมข้อความว่า “เรื่องเล่าก่อนนอนเด้อค่าาา
ก่อนไป 0 วันนี้โทรไปถามก่อนว่าผจก.อยู่มั้ย จะได้คุยให้จบๆไม่ต้องเสียเวลาไปหลายรอบ
สายที่ 1 >> 8 โมงครั้งแรกโอนไปโอเปอร์ไม่มีคนรับ ครั้งสองโทรเบอร์มือถือ ผญ.รับไม่รู้ผจก.เข้าตอนไหน เดี๋ยวโทรกลับ 9 โมง แต่เงียบกริ้บ
สายที่ 2 >> 10 โมงโอนไปโอเปอร์ ผญ.รับบอกผจก.ลาค่ะ ถามจะมาวันไหน ไม่ทราบค่ะลายาวบอกไม่ได้ ให้ฝากเรื่อง นี่ก็บอกจะคุยเองฝากรงฝากเรื่องไร ลำไยเด้อ
สายที่ 3 >> โทรมือถือผช.รับ ถามหาผจก.ปลายสายบอกอยู่ ถามอีกที วันนี้อยู่หรอ? อยู่เด้อค่าา!!! ตอบว่าอยู่ทุกวัน อ้าวเห้ย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า แล้วผีบ้าที่ไหนลา น้อง งง
สรุป ทำงานบริษัทเดียวกันบ่น้ออออออ” เรียกได้ว่าเหตุการณ์นี้สร้างความสนใจให้กับชาวโซเซียลเป็นอย่างมากและได้มีการทยอยแสดงความคิดเห็นและประสบการณ์ตรงกับสาขาดังกล่าวอย่างมากมาย ซึ่งด้านบริษัทรถชั้นนำยังไม่มีความเคลื่อนไหวหรือออกมาให้คำตอบใดๆ...
ขอบคุณคลิปจาก Nansa Naralyn