- 06 เม.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ในช่วงที่พระองค์ทรงเป็นนายทหารประจำการ เป็นช่วงเวลาที่บ้านเมืองอยู่ในช่วงทำสงครามกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ทั่วทุกภาค ทหารกล้าจำนวนมากถูกส่งไปต่อกรข้าศึกตามแนวชายแดน พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปมอบพระราโชวาทเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับทหารที่กำลังจะออกไปรบกับข้าศึกและเสด็จฯไปต้อนรับเมื่อทหารเหล่านั้นกลับมาจากการปฏิบัติหน้าที่ในแนวหน้าด้วยพระองค์เอง
พันเอกสมจริง สิงหเสนี นายทหารนอกราชการ อดีตผู้สื่อข่าวและช่างภาพ กองทัพภาคที่ 3 เล่าเรื่องราวภาพถ่ายประวัติศาสตร์ ในสมรภูมิรบ ที่ประทับใจมากที่สุดคือ ยุทธการภูขวาง ที่บ้านหมากแข้ง ตําบลกกสะทอน อำเภอด่าน ซ้าย จังหวัดเลย
โดยเมื่อกว่า 40 ปีที่ผ่านมา วันที่ 5 พฤศจิกายน 2519 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โปรดเกล้าฯ ให้ร้อยเอก สมเด็จพระบรมโอรสสาธิราชในขณะนั้นหรือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพวรางกูร รัชกาลที่ 10 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และราษฎรในพื้นที่ เนื่องจากถูกผู้ก่อการร้ายพรรคคอมมิวนิสต์โจมตีอย่างหนัก
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพวรางกูร ได้เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง ไปยังฐานปฏิบัติการบ้านห้วยมุ่น หลังจากประทับรับฟังการบรรยายสรุปแล้ว พระองค์ทรงรับสั่งกับ พลโทสมศักดิ์ ปัญตมานนท์ แม่ทัพภาคที่ 3 ขณะนั้นด้วยพระสุรเสียงอันหนักแน่นว่า "จะต้องไปแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นให้ได้" ถึงแม้ว่าแม่ทัพภาคที่ 3 จะกราบบังคมทูลทัดทานเนื่องจากสถานการณ์ขณะนั้นไม่น่าไว้วางใจ แต่พระองค์ทรงยืนยันอย่างหนักแน่น ว่าชักช้าไม่ได้ ต้องรีบแก้ไขในวันนี้และเดี๋ยวนี้
จากนั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงรับสั่งให้นักบิน นำเครื่องมุ่งตรงไปยังฐานบ้านหมากแข้งทันที ขณะที่เฮลิคอปเตอร์กำลังร่อนลงยังไม่ทันถึงพื้น พระองค์กระโดดลงแล้ววิ่งโผเข้าหาที่กำบังอย่างห้าวหาญ ในขณะเดียวกันผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ใช้อาวุธปืนเล็กระดมยิงเข้ามายังฐานบ้านหมากแข้งอย่างหนัก พระองค์ได้สั่งให้ทหารที่ตามเสด็จ แยกย้ายและยิงโต้ตอบ พระองค์ทรงใช้หลักการและระเบียบการรบแบบทหารที่ฝึกฝนมาจากทั้งในประเทศและนอกประเทศ สู้ด้วยใจ กับ สมอง พระองค์ทรงยิงตอบโต้และวิ่งเข้าประชิด บีบให้ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์มีพื้นที่ในการต่อสู้แคบลง ทั้งสองฝั่งยิงตอบโต้กันอย่าไม่ยอมแพ้ แต่ด้วยวิสัยทัศความสามารถด้านทหารของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพวรางกูร รัชกาลที่ 10 ที่หัวใจต้องการปกป้องชาวบ้านที่ถูกรุกรานมาเป็นระยะเวลานาน และทหารที่โดนยิงเสียชีวิตไปหลายนาย พระองค์จึงยิงสู้แบบไม่เกรงกลัวสิ่งใด และพาทหารเข้าประชิดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ต้องล่าถอยไปเพราะเห็นท่าไม่ดี ถ้ายังสู้ต่ออาจจะไม่ได้กลับ สนามรบครั้งนี้จึงถือว่า พระองค์ท่านเอาชนะข้าศึกได้โดยใช้เวลาไม่มาก
ในคืนนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพวรางกูร รัชกาลที่ 10 ทรงประทับแรมที่ฐานปฏิบัติการบ้านห้วยมุ่น ทรงเสวยพระกายาหารอย่างเรียบง่าย เช่นเดียวกับทหารคนอื่นๆ ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็น เหตุการณ์ ในครั้งนั้น สร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ ตำรวจตระเวนชายแดน ทหาร และราษฎรในพื้นที่ อย่างหาที่สุดมิได้
อ้างอิงข้อมูลจาก - www.mthai.com , sites.google.com , th.wikipedia.org