- 19 เม.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เรียกได้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศแห่งการท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวจีนเดินที่เดินทางทางมาท่องเที่ยวเยอะเป็นอย่างมาก และช่วงนี้นักท่องเที่ยวนิยมมาประเทศไทยด้วยสาเหตุของการทำพิธีต่าง ๆ สะเดาะเคราห์ มนต์ดำ ไสยศาสตร์ รวมไปถึงสิ่งที่นิยมเป็นอย่างมากคือ การสักยันต์ "นางพญาจิ้งจอก 9 หาง" ของ "พ่อปู่มหามุนี อริยดาบส" ซึ่งคนทั่วไปมองว่าเป็นการสร้างธุรกิจเพื่อให้ได้เงินจากนักท่องเที่ยว
ล่าสุด (19 เมษายน 2561) พ่อปู่ได้มาเปิดใจกับทางรายการ เจาะประเด็น ทางช่อง 8 โดยมี ต่วย ภคพงศ์ อุดมกัลยารักษ์ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ พูดคุยถึงกรณีของการรับสักยันต์ ทั้งนี้ยังได้เชิญ พระอธิการวุฒิไกร ญาณวุฑฺโฒ เจ้าอาวาสวัดหนองหินใหญ่ จ.ลพบุรี และ "บี ฟักโกสต์" จากสมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย มาร่วมพูดคุยถึงกรณีดังกล่าว
อธิบายเรื่องการสักยันต์เกี่ยวกับจิ้งจอก 9 หาง
พ่อปู่มหามุนี : การสักยันต์ต่าง ๆ ในสังคมทุกวันนี้ จะมีกลุ่มบางกลุ่มที่ชอบเรื่องการสักยันต์ เคยสัก tattoo มาก่อน แล้วเลยคิดว่าเรื่องสักเป็นเรื่องธรรมดา การสักยันต์ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาแล้ว เมื่อยุคต้นเป็นการสักเรื่องของอักขระ แต่ยุคนี้บางคนสงสัยทำไมมีรูป ลายจิ้งจอก 9 หาง ลายแบบนี้มีในระบบการสักยันต์ คือจิ้งจอก 9 หางเป็นความเชื่อของประเทศจีน เขาเชื่อว่าเก่งในเรื่องเสน่ห์ คนต่างชาติเน้นความสวยงาม เมื่อข่าวมันดังมา นักท่องเที่ยวเขาก็อยากมาประเทศไทย ก็เลยทวีคุณความขลังมากขึ้นไปอีก โดยครูบาอาจารย์ก็ได้นำมาประยุกต์ใช้โดยการใส่อักขระต่าง ๆ ลงไป มันก็เลยเกิดประสิทธิภาพที่มากขึ้น จีนไม่มีการสักยันต์นะ เขาจะทำเป็นวัตถุบูชา คนที่สักยันต์คิดว่านี่คือสิ่งที่คนจีนนับถือก็เลยมีอาจารย์หลาย ๆ ท่านนำมาประยุกต์
อยู่ดี ๆ ใคร ๆ ก็ตั้งตนว่าเป็นอาจารย์สักยันต์แบบนี้ได้ไหม
พ่อปู่มหามุนี : สมัยก่อนเนี่ยเราต้องไปอยู่กับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ จัดอาหารทำสารพัด เราต้องมีครูมีอาจารย์ที่เห็นสักเป็น tattoo นั่นเรียกว่าศิลปะ แต่ถ้าจะสักยันต์ต้องไปเรียนกับอาจารย์คนไหนก็ได้ ในยุคนี้เป็นการสืบทอดจากลูกศิษย์มาสู่ลูกศิษย์ เราต้องเรียนไม่ใช่ถ่ายรูปแล้วมาบอกว่านี่เป็นอาจารย์นะ แบบนี้ไม่ได้สังคมไม่ยอมรับ
มันคือธุรกิจใช่ไหม เพราะมีสินค้าด้วย เช่น กุมารทอง เครื่องรางต่าง ๆ เป็นการสร้างเรื่องเพื่อขายของ หรือมันคือตำนานจริง ๆ
พ่อปู่มหามุนี : มันเป็นตำนานอยู่แล้วตั้งแต่สมัยโน้น มีเครื่องรางของขลัง วัตถุมงคลมาทีหลัง ที่เราเห็นดังที่สุดคือหลวงพ่อเดิม หลวงพ่อจง เราก็รู้ ๆ กันว่ามันคือตะกรุด แต่คนก็ไม่รู้หรอกว่าเอาอะไรมาทำ นี่แหละครับที่ยกตัวอย่าง
คนที่มาหาพ่อปู่ มีบริการอะไรบ้าง
พ่อปู่มหามุนี : คนที่เข้ามาหาพ่อปู่ส่วนมากจะเป็นลูกศิษย์คนไทย คนต่างชาติก็มี จีน ฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย อังกฤษ อเมริกาก็มี ถ้าเราพูดในทางของครูบาอาจารย์อย่าเรียกว่าบริการ เรียกว่าให้ความช่วยเหลือดีกว่า มีค่าใช้จ่ายตรงนี้เราก็มีตามความสมควร เรียกว่าค่าครู คาถาในการสักแต่ละสำนักไม่เหมือนกัน ความสำคัญของตัวอักขระสำคัญที่สุด ถ้ามาสักเข็มมีการเปลี่ยนแน่นอน เช็ดแอลกอฮอล์เปลี่ยนแล้วทิ้งเลย เราต้องทำให้ถูกสุขลักษณะด้วย
การสักยันต์มีแบบไหนบ้าง ต่างกันอย่างไร
พ่อปู่มหามุนี : มี 2 แบบ คือสักน้ำมัน กับหมึก สักน้ำมันคือคนที่มีหน้ามีตาในสังคม บางคนรับราชการหรือเด็กน้อย คือบรรลุนิติภาวะไปแล้ว คือเป็นเด็กที่เราสอนเขาได้แล้วว่าสิ่งนี้ถูก-ผิด ถ้าสักหมึกคือการลงหมึกเลย ข้าราชการที่ไม่ให้สักคืออยู่ในช่วงกำลังฝึกหรือเข้าใหม่ ถ้าบรรจุแล้วสามารถสักได้ สักไว้ป้องกันตัวได้ ของพ่อปู่ 109 บาทนะ ไม่ได้เรียกร้องมากกว่านี้ บริจาคไม่มี เรียกว่าได้ใจลูกศิษย์ เขาอยากทำเท่าไหร่ก็เรื่องของเขา ส่วนมากจะแนะนำเรื่องธุรกิจ มีลงนะหน้าทองด้วย คนที่ทำแล้วได้ผลไม่ได้ผลขึ้นอยู่ที่แต่ละบุคคลแต่ละสำนักด้วย ถ้ามาหาปู่ ก็จะสอนเรื่องการปฏิบัติตัวด้วย คือเราต้องมีจิตใจดี กระทำตัวดี ทำประพฤติตัวแย่แบบนี้มันก็ไม่ได้ผล เด็กยุคใหม่ไม่ค่อยรู้เรื่องกาลเทศะ คือเรียนมาเรารู้ แต่บางสิ่งบางอย่างที่ครูไม่ได้สอนเราก็ทำเกิน พอทำเกินมันก็เป็นปัญหาอย่างที่เห็น
นอกจากสักยันต์มีการขายเครื่องรางของขลังด้วยใช่ไหม
พ่อปู่มหามุนี : สิ่งนี้คือประคดเอว ทำขึ้นมาคือการอนุรักษ์ในการถักสมัยโบราณ ป้องกันภัย เอาไว้คาดเอวเก็บไว้ในเสื้อ เกี่ยวกับเรื่องของการติดต่อธุรกิจ เสริมให้เรามั่นใจตัวเองมากขึ้น ส่วนประกอบคือผ้าห่อศพ ก่อนที่จะนำศพไปเผาเขาก็นำผ้าออกไปทิ้งซึ่งมันไม่มีประโยชน์อะไร เราก็นำมานั่งถักนั่งสาน แล้วก็มีน้ำมันว่านแต่ใช้ชื่อว่าน้ำมันพราย แต่ไม่ใช่นำมาเพื่อใช้ทำเสน่ห์นะ ใช้แตะนิดหน่อยเวลาไปคุยธุรกิจก็จะได้ผล แต่ไม่ใช่เอาไปแตะชาวบ้านเขานะ แล้วก็มีวัตถุมงคลชนิดอื่น
คุณบีมีสักตรงไหนไหม
คุณบี : ผมไม่เชื่อเรื่องนี้ครับ ผมไม่ชอบเรื่องไสยศาสตร์อะไรแบบนี้ครับ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราเอง การสักที่ผมเคยถามครูบาอาจารย์มันจะต้องมีการสืบทอดกันมา มีอาจารย์ อยู่ในเครือข่ายผู้ถือครูคนเดียวกัน แต่ลักษณะของปู่มุนี เขาไม่มีครูที่สักยันต์ต่อกันมา คืออุปโลกน์ลายเอง ไม่ได้มีครูบาอาจารย์ทำมาตั้งแต่ช้านาน ซึ่งทางคนต่างชาติเขาก็ไม่รู้หรอก ก็ทำลายมาเอาใจนักท่องเที่ยวชาวจีน การสักตั้งแต่สมัยอยุธยาเขาสืบทอดกันมานานแล้ว อันนั้นเป็นวัฒนธรรมไทยผมเข้าใจอยู่ แต่ของพ่อปู่เนี่ย มันไม่ได้มีการสืบทอดมา ที่ผมรู้มาคนไทยก็ไม่ได้มีเยอะหรอก มีแต่ชาวต่างชาติคือเขาก็ไม่รู้เรื่องหรอก เขาก็มีทัวร์มาจะพาไปวัดนี้นะ ซึ่งตั้งขึ้นมาโดยไม่ใช่วัดจริงประมาณนี้ เขาก็เข้าใจว่าเป็นอาจารย์ดังก็ตาม ๆ กันมา ชาวต่างชาติจะมองว่าประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งไสยศาสตร์ มนต์ดำ
พ่อปู่มหามุนี : ลายจิ้งจอกมันมีมาตั้งแต่ผมบวชเป็นพระเป็นเณรมานานแล้ว ลายเนี่ยเป็นของต่างชาติ แต่อักขระเป็นของไทย ปู่ไม่ได้เริ่มต้นนะ มันไม่ได้มีที่นี่ที่เดียว ที่อื่นก็ทำ แล้วก็ไม่มีชาวต่างชาติมาลงขนาดนั้นครับ คนที่ศรัทธาจริง ๆ เท่านั้นถึงจะได้เข้าใกล้พ่อปู่นะ มันเป็นเรื่องของความเชื่อ
พระอธิการวุฒิไกร มองเรื่องนี้อย่างไรครับ รวมถึงกรณีที่มีพระต่างจังหวัดตั้งสำนักรับสักยันต์ทำพิธี
พระอธิการวุฒิไกร : คือเมื่อตอนอาตมาเป็นหนุ่ม ๆ อาตมาเกิดปีขาล เลยสักเป็นรูปเสือ แต่พอมาบวชแล้วอะไรแล้ว มาศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้าเลยเข้าใจว่าสิ่งต่าง ๆ ที่มันเกิดขึ้น ถามว่าใครถูก-ใครผิด ใครจริง-ไม่จริง ทุกอย่างมันคือทางเดียวกันทั้งนั้นแหละ ไม่ได้ต่างกันเลยเป็นทางที่พระพุทธเจ้าให้เดินไปจนสุดทาง แต่เราอาจจะอยู่แค่ระหว่างทางกันทั้งคู่ พระพุทธเจ้าสอนเสมอว่าสิ่งใดเกิดแต่เหตุ สิ่งนั้นย่อมดับที่เหตุ ส่วนพระที่ทำพิธีเปิดสำนักสักยันต์ต่าง ๆ นานา มันไม่ใช่กิจของสงฆ์ ผิดวินัย ไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดศีลธรรม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ควรตรวจสอบ สิ่งนี้มองว่าเป็นการทำพิธีไป แต่ถ้าเกิดไปบอกว่าตัวเองวิเศษ หรือเหนือธรรมชาติ นั่นไม่ใช่แล้ว ที่อาตมาฟังโยมคุยกันไม่มีทางใดผิด คนเชื่อเรื่องมนต์ คาถา ก็เชื่อไป เป็นสิทธิส่วนบุคคล ใครจะไม่เชื่อก็ได้ไม่ผิด แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในศีลในธรรม
บี ฟักโกสต์ : อยากให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มาตรวจสอบ เพราะอาจจะมีคนที่แอบอ้างเป็นพระปลอม สร้างวัดปลอม หลอกลวงชาวต่างชาติมาทำพิธีอะไรต่าง ๆ นานา ซึ่งมันไม่ดี คนอื่นจะมองว่าพระในประเทศไทยเป็นสัญลักษณ์ของการทำของขลัง มนต์ดำก็ได้
.
.
.
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : รายการ เจาะประเด็น ช่อง8