หากินจนร่ำรวย !! บุกรวบเจ้าของรถรัมโบกินี่ สวมทะเบียนรถปลอม ทึ่ง! พบสารเสพติดและปืนสั้นจำนวนมาก..

บุกรวบหนุ่มใหญ่เจ้าของรถรัมโลกินี่ ขณะกำลังจะขับรถออกจากบ้านเช่าตรวจสอบเบื้องต้นพบทะเบียนปลอม พบสารเสพติดในร่างกายและปืนสั้นในภายในรถเจ้าหน้าที่ยึดรถไว้ตรวจสอบ

ที่นครนายก ภาพเหตุการณ์ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดสิงห์พิทักษ์เมืองอำเภอเมืองนครนายก สนกำลังกับ กอ.รมน.นครนายกและเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางสรรพสามิตภาค.2 บุกรวบหนุ่มใหญ่เจ้าของรถรัมโบกินี่ ที่มีสายข่าวแจ้งมาว่ารถคันดังกล่าวได้สวมทะเบียนปลอม นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติด

เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานจึงประสานงานและลงตรวจสอบ เบื้องต้นพบนายสิทธิพร กรทัศนา อายุ46ปี เป็นคนจังหวัดชลบุรี กำลังจะขับรัมโบกินี่สีส้ม หมายเลขทะเบียน กต-7777 ร้อยเอ็ด ออกจากบ้านเช่าที่อยู่ในตำบลบ้านใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปิดทางออกบ้าน หลังจากนั้นจึงได้ทำการขอตรวจสอบรถคันดังกล่าวโดยมีเจ้าหน้าที่ของสรรพสามิต ปลัดอาวุโสอำเภอเมือง กอ.รมน.นครนายกและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่ารถคันดังกล่าวได้สวมทะเบียนปลอม

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าทะเบียน กต-7777 นั้นเป็นทะเบียนของรถนิสสันคันหนึ่ง เจ้าหน้าที่สรรพสามิตจะได้ทำการตรวจสอบเชิงลึกอีกครั้ง หลังจากนั้นจึงได้ทำการค้นรถพบปืนสั้นขนาด11 มม.อยู่บริเวณเบาะหลังคนนั่ง นอกจากนี้ยังพบสารเสพติดในร่างกายโดยนายสิทธิพร ให้การยอมรับสารภาพว่ารถคันดังกล่าวตนเองได้ขอซื้อมาจากเพื่อนอีกคนหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ดแต่ตนเองไม่ทราบมาก่อนว่ารถคันดังกล่าวได้สวมทะเบียนปลอมมาก่อน จากการเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกโดยแหล่งข่าวที่แจ้งมายังศูนย์ดำรงค์ธรรมอำเภอเมืองนครนายก พบว่านายสิทธิพร นั้นเคยมาขอบวชอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอปากพลี และมีพฤติกรรมแอบอ้างเรื่องการทำบุญและจะกำลังสร้างองค์พระเททองให้กับวัด โดยจะหลอกให้คนที่หลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีตัวเองเพราะคิดว่านายสิทธิพร ที่กำลังบวชเป็นพระนั้นจะนำเงินมาสร้างพระจริงๆ นอกจากนี้ยังพบว่าระหว่างที่นายสิทธิพรบวชอยู่ยังมีพฤติกรรมกับคล้ายกับมีการติดต่อกับเอเย่นรายใหญ่แถววัดที่นายสิทธิพรบวชอยู่ ซึ่งชาวบ้านได้เก็บข้อมูลดังกล่าวและได้แจ้งไปยังศูนย์ดำรงค์ธรรมเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่เร่งเข้าตรวจสอบ โดยในวันนี้สามารถตามรวบนายสิทธิพรได้คาบ้านเช่า แต่ไม่พบยาเสพติดภายในบ้านคาดว่าหน้าจะมีการขนย้ายไปก่อนหน้านี้แล้ว จากการสอบการเงินทางบัญชีพบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีจำนวนมาก โดยนายสิทธิพรได้บอกว่าตนเองนั้นเป็นเจ้าของกิจการเพาะพันธุ์หน่อกล้วยน้ำหว้าส่งหลายจังหวัด นอกจากนี้ยังพบคดีเก่าๆอีกหลายคดี และเคยเปลี่ยนชื่อกับนามสกุลมาแล้ว4ครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่านายสิทธิพรหน้าจะเป็นนักต้มตุ๋นชาวบ้านรายใหญ่ที่ชอบแอบอ้างว่ารู้จักคนใหญ่คนโตในวงการต่างๆสร้างความหน้าเชื่อถือให้กับเหยื่อจนหลงเชื่อและเคยสูญเงินมานับครั้งไม่ถ้วน จนเคยเป็นคดีฉ้อโกงมาแล้ว หลังจากนั้นจึงได้ยึดรถรัมโบกินี่มาตรวจสอบที่ สภ.เมืองนครนายก เพื่อตรวจสอบหลักฐานของรถอีกครั้ง

สัมภาษณ์นายศักดิ์สุรัตน์ เสนาวงค์ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจหน่วยตรวจสอบป้องกันและปราบปราม

สัมภาษณ์นายสานิตย์ ศรีทวี ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองนครนายก

 

ภาพ/ข่าว สุวรรณา รุ่งเรือง ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครนายก สำนักข่าวทีนิวส์ ส่งข่าวศูนย์นงนุช จ.ชลบุรี