- 13 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Star Olivia โพสต์คลิปแท็กซี่โกงขับรถโดยสารโดยไม่กดมิเตอร์ผ่านเพจ YouLike (คลิปเด็ด) โดยระบุว่า นั่งแท็กซี่มาจากหมอชิตเพื่อจะไปเคหะบางพลี แต่แท็กซี่ไม่ยอมกดมิเตอร์ อีกทั้งยังเรียกค่าโดยสารจำนวน 600 บาท ซึ่งเป็นราคาที่แพงเกินจริง
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (12 มิ.ย. 61) รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า น.ส.ดาว อะทอยรัมย์ อายุ 23 ปี ผู้โดยสารรถแท็กซี่คันดังกล่าว เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วง 14.00 น. เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 61 ซึ่งตนเดินทางมาจากจังหวัดอุทัยธานี มาถึงที่สถานีขนส่งหมอชิต ปกติตนจะโดยสารรถตู้ แต่เนื่องจากมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ จึงไม่สามารถนั่งรถตู้ได้ จึงเลือกขึ้นแท็กซี่แทน
ขณะนั้นคนขับขี่แท็กซี่คันดังกล่าว เดินเข้ามาหาตนแล้วถามว่าจะไปไหน ตนจึงบอกว่า จะไปเคหะบางพลี คนขับก็บอกว่าตัวเองขับแท็กซี่พร้อมมายกกระเป๋าตนไป ซึ่งตนก็ถามแล้วว่ากดมิเตอร์หรือไม่ เขาก็บอกว่ากดมิเตอร์ ตนจึงยอมไปด้วย แต่เมื่อขึ้นรถแล้ว เขาก็ไม่ยอมกดมิเตอร์ ตนจึงสอบถามอีกครั้ง แต่เขาก็ไม่กด จนกระทั่งมาถึงบริเวณขึ้นทางด่วน คนขับหันมาของเงินตน ซึ่งตอนนั้นเข้าใจว่าขอค่าทางด่วน จึงให้ไป 100 บาท แต่ลุงบอกว่าค่าโดยสารทั้งหมด 600 บาท ตอนนั้นตนก็งง จึงสอบถามไปว่า “ลุงจะกดมิเตอร์ แล้วทำไมถึงไม่กด” ซึ่งคนขับก็ระบุว่า หากกดมิเตอร์ ค่าโดยสารจะอยู่ที่ 700 กว่าบาท แต่เก็บตนแค่ 600 บาทเท่านั้น
ขณะนั้นตนก็ยอมให้เงินไป เนื่องจากกลัว แต่ตนก็ยังบอกให้กดมิเตอร์ พร้อมบอกว่า หากค่าโดยสารเกิน 600 บาท ตนจะจ่ายเพิ่มให้ แต่หากไม่ถึง ตนก็ยินดีให้เงิน 600 บาท เพียงเพราะตนต้องการทราบราคาค่าโดยสารที่แท้จริง แต่ลุงคนขับก็ยังไม่ยอมกดมิเตอร์ ซึ่งตนสังเกตเห็นแผ่นป้ายราคาที่แขวนอยู่หลังเบาะรถ ทราบว่าหากเดินทางประมาณ 50 กิโลเมตร ราคาค่าโดยสารจะอยู่ที่ราว 300 กว่าบาทเท่านั้น
โดยหลังจากนั้นคนขับบอกตนว่า “จะเอาแบบนี้ใช่ไหม เป็นนักเลงหรอ” ซึ่งตนก็พูดพยายามให้เขากดมิเตอร์ พร้อมบอกว่าเคยเห็นในข่าวว่ามีการโกงกันแบบลักษณะที่นี้ เขาก็ตอบกลับว่า ตัวเองขับรถมากว่า 20 ปี หากโกงคงอยู่ไม่ได้ พร้อมต่อว่าตนทำนองว่า “มีสมองแค่นี้หรือ” ด้วยความกลัว ตนจึงนั่งเงียบมาตลอดทาง จากนั้นเมื่อคนขับเห็นว่าตนเงียบ จึงพูดขึ้นมาอีกว่า เห็นตนเป็นเด็กอยู่ ลุงก็จะอภัยให้ ตนก็ตอบแค่ “ค่ะ” ส่วนตัวก็งง ว่าลุงจะอภัยอะไรให้ตน เพราะตนไม่ได้ทำอะไรผิด
จากนั้นเมื่อถึงที่หมาย ตนได้ลงจากรถ และยังไม่ได้นำกระเป๋าเดินทางลงจากรถ ขณะนั้นก็ไปเรียกพี่สาวขึ้นรถมาด้วย โดยบอกลุงว่ายังไม่ถึงที่หมาย เพื่อที่ตนจะพาลุงไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อพี่สาวตนขึ้นรถมา จึงได้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้ แต่ปรากฏว่าเมื่อลุงเลี้ยวรถไปเห็นป้อมตำรวจ จึงถอยรถกลับทันที พร้อมขับรถออกมาด้วยความเร็ว ขณะนั้นตนและพี่สาวกลัว จึงบอกให้ลุงจอด ซึ่งลุงก็จอดทันที โดยปล่อยพวกตนลงกลางถนน
ด้าน นายสุกรี จารุภูมิ ผู้อำนวยการกองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก ตรวจสอบและเรียกผู้ขับขี่รถแท็กซี่คันดังกล่าวมาลงโทษแล้ว ทราบชื่อผู้ขับขี่คือ นายจรัษพงษ์ ชูขวัญณวัสน์ โดยเจ้าตัวได้มารายงานตัวและยอมรับผิด หลังเรียกราคาค่าโดยสารแบบเหมาจ่ายจริง และพบว่ารถแท็กซี่คันดังกล่าว หมดอายุการใช้งาน ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. 60
โดยเจ้าหน้าที่ขนส่งพิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำดังกล่าวของผู้ขับรถแท็กซี่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ฯ มาตรา 5(2) ฐานไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร หรือมิเตอร์ เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 1,000 บาท และมาตรา 6(1) ฐานใช้รถไม่จดทะเบียน หรือรถหมดอายุ เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 1,000 บาท และส่งตัวเข้ารับการอบรมกฎระเบียบและการให้บริการที่ดีจำนวน 3 ชั่วโมง พร้อมทั้งสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถเป็นเวลา 1 เดือน
ขอบคุณ รายการทุบโต๊ะข่าว อัมรินทร์ทีวี HD34