- 26 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. เกิดเหตุคนร้ายปีนหลังคาบ้านของชาวบ้านจำนวน 2 หลัง หลังแรกเป็นบ้านของคุณยายนุ้ย แสงสุบรรณ อายุ 89 ปี บ้านเลขที่ 150 ม.12 ต.ท่าแค อ.เมืองพัทลุง และอีกหลังเป็นบ้านของชาวบ้านห่างออกไปประมาณ 10 เมตร แต่คนร้ายอาศัยความมืดหลบหนีไปได้ แต่คนร้ายไม่ได้ทรัพย์สินใดๆ
คุณยายนุ้ย แสงสุบรรณ อายุ 89 ปี เจ้าของบ้านเล่าให้ฟังว่าก่อนเกิดเหตุคุณยายอยู่บ้านเพียงลำพังกับนางคล่อง ผอมนุ้ย ลูกสาววัย 62 ปี ในขณะที่กำลังนอนหลับได้ยินเสียงดังโครมจึงวิ่งออกจากห้องนอน เป็นเวลาเดียวกันกับคนร้ายวิ่งออกมาจากห้องนอนอีกห้องที่ว่างอยู่ จากนั้นคนร้ายเดินเวียนภายในบ้านเหมือนจะหาของมีค่า เปิดตู้เสื้อผ้าและเข้าออกห้องทุกห้อง ในขณะที่คุณยายก็เดินตามห่างๆพร้อมเอ่ยปากขอร้องว่าอย่าเปิด วนเวียนอยู่นานประมาณ 10 นาที จนกระทั่งคนร้ายเปิดประตูหลังบ้านหนีไป
ส่วนนางคล่อง ผอมนุ้ย ลูกสาวคุณยายเล่าว่าหลังจากได้ยินเสียงดังโครมก็วิ่งออกมาจากห้องนอนพร้อมๆกับคุณยาย แต่ตนวิ่งกลับเข้าห้องเพื่อโทรหาลูกๆ ซึ่งอยู่บ้านละแวกเดียวกัน จากนั้นก็เรียกคุณยายให้กลับเข้าห้องแต่คุณยายไม่ยอมกลับ ตนกลัวจนทำอะไรไม่ถูก คิดจะเปิดประตูบ้านออกไปก็กลัวมีคนร้ายอีก จนกระทั่งคนร้ายเปิดประตูหลังบ้านออกไป นางคล่องยังบอกอีกว่าลักษณะของคนร้ายเหมือนคนติดยาหรือดมกาว เพราะยกมือขึ้นไปดมอยู่ตลอดเวลา และเป็นที่น่าสังเกตว่าทั้งๆที่ตนและคุณยายมีสร้อยคอทองคำห้อยคออยู่ แต่คนร้ายก็ไม่ได้สนใจที่จะกระชาก ทั้งๆที่คุณยายเองก็ไม่ใส่เสื้อ และเห็นสร้อยได้ชัดเจน
อย่างไรก็ตามหลังจากคนร้ายหนีออกไปคุณยายก็ได้สำรวจภายในบ้านพบว่า ในห้องนอนกลางบ้านซึ่งไม่มีใครนอน พบฝ้าเพดานแตกเป็นช่องโหว่ บนพื้นห้องและบนเตียงพบเศษกระเบื้องและเศษฝ้าเพดานแตกกระจาย จึงทราบว่าคนร้ายได้ปีนหลังคาก่อนที่จะตกลงมาทะลุเพดานลงกระทบกับเตียงเสียงดังโครม
ในขณะที่ญาติๆและชาวบ้านกว่า 10 คน มาสำรวจที่บ้านเกิดเหตุก็ได้ยินสียงกระเบื้องแตกดังโครมที่บ้านเลขที่ 121 ของนายรัตติกูล เกตุชู ซึ่งห่างออกไปประมาณ 10 เมตร จากนั้นนายรัตติกูลฯ ออกมาดูจนได้ทราบว่ามีคนร้ายขึ้นบ้านคุณยายนุ้ย และมาปีนบ้านตนด้วย
นายรัตติกูล เกตุชู อายุ 50 ปี เล่าว่าในขณะที่ตนรับประมานอาหารพร้อมครอบครัวได้ยินเสียงดังโครมบนหลังคาตรงบริเวณที่ตนนั่ง จึงวิ่งออกมาดูคิดว่าต้นไม้ล้มทับหลังคาบ้าน แต่มาทราบว่าคนร้ายปีนบ้านคุณยายจนหลังคาถล่ม ตนได้ปีนขึ้นไปดูหลังคาพบว่ากระเบื้องแตกไปประมา ณ 7 – 8 แผ่น จึงแน่ใจว่าคนร้ายคนเดียวกันวิ่งหลบหนีขึ้นไปบนหลังคาบ้านตนด้วย แต่ฝ้าเพดานไม่แตกเนื่องจากเป็นเพดานยึดติดกับตัวบ้าน คนร้ายจึงหลบหนีไปท่ามกกลางความมืด
นายรัตติกูล ฯยังกล่าวอีกว่าในตำบลท่าแคเกิดเหตุลักเล็กขโมยน้อย โจรฉก ชิงวิ่งราวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนทำให้ชาวบ้านอยู่กันอย่างหวาดผวา ขอวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยออกมากวาดล้าง และสะสางคดีที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง อย่าปล่อยให้ชาวบ้านอยู่กันอย่างไม่เป็นสุขแบบนี้
ภาพ/ข่าว ลัดดา มณีรัตน์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักกข่าวทีนิวส์ จ.พัทลุง