- 07 ก.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
"ทองคำ" เป็นแร่ธาตุที่ได้รับความนิยมมาก แน่นอนว่าราคาก็ต้องสูงตามมา ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้มี "ทองปลอม" ไม่ว่าจะเป็นทองรูปพรรณ ทองแท่ง ซึ่งบางคนก็ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างของแท้และของปลอมออกได้ “ทองคำ” นับว่าเป็นทรัพย์สินชนิดหนึ่งที่มีมูลค่าสูง สามารถซื้อขายทำกำไรได้ตลอดเวลา ยิ่งตามกลไกของตลาดแล้ว ราคาทองนับว่าสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย นั่นเป็นสาเหตุให้มิจฉาชีพทำการฉ้อโกงได้ ด้วยวิธีการสร้าง “ทองปลอม” ขึ้นมาหลอกขาย ไม่ว่าจะเป็นทองรูปพรรณ ทองแท่ง ซึ่งในบางคนก็ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างของแท้และของปลอมออกได้ ดังนั้นวันนี้ จึงขอนำวิธีการตรวจสอบทองปลอมมาฝากกัน
โดยมีสมาชิกยูทูปที่ใช้ชื่อว่า "Goldsmith's Box จักจั่นท่าเรือ" ได้ทำคลิปทดสอบทองคำมาให้ชมเป็นความรู้กันดังนี้
วิธีดูทองคำแท้
1. ดูทองแท้จากขนาดของทอง
วิธีตรวจสอบทองคำแท้แบบนี้ต้องอาศัยความคุ้นเคย คือเราต้องรู้ว่าทองคำหนัก 1 บาท หรือ 2 บาทนั้น ควรมีขนาดแค่ไหน เช่น ถ้าบอกว่าสร้อยทอง 2 บาท แต่ขนาดใหญ่มาก ก็จะไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง
2. ดูทองจากน้ำหนักของทองคำ
วิธีนี้อาจจะต้องมีทองคำแท้อีกชิ้นไว้เทียบด้วย ซึ่งทองไม่ว่าจะเส้นใหญ่หรือเส้นเล็ก ถ้าน้ำหนัก 1 บาท ก็จะมีน้ำหนักเท่ากันเสมอ เมื่อจะทดสอบก็นำทองใส่มือข้างละชิ้น จากนั้นก็ทดลองเดาะเพื่อเช็คน้ำหนัก
3. ดูตราหรือโลโก้ (Logo)
วิธีดูทองคำแท้แบบนี้สามารถทำได้ง่าย แต่ต้องมีแว่นขยาย ยิ่งขยายมากยิ่งดี ให้ส่องดูตามข้อหรือห่วงของทองจะเห็นการตีตราร้านไว้อย่างชัดเจน ถ้าตรานั้นเบลอๆไม่ชัดก็ให้ระวังไว้ก่อน และมักจะมีการตอกตัวเลขเอาไว้ด้วย เช่น 8k 9k 10k 14k 18k 22k 24k เป็นต้น
4. วิธีดูทองแท้โดยน้ำกรด
วิธีนี้คงต้องให้ร้านทองช่วยทำให้ เพราะกรดที่ใช้คือกรดไนตริกนั้นไม่ได้หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป ทองคำแท้เมื่อหยดกรดไนตริกใส่ จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้าทองคำนั้นผสมโลหะประเภทอื่นด้วย เช่น ทองแดง ก็จะแหว่งไปอย่างเห็นได้ชัด
5. ทดสอบทองคำแท้โดยใช้แม่เหล็ก
ทองคำแท้นั้นจะไม่ถูกดูดติดโดยแม่เหล็ก ดังนั้นถ้าทองเส้นนั้นเป็นทองปลอมหรือใส่เหล็กมามาก แม่เหล็กจะดูดติดทันที
6. ดูทองแท้จากรอยต่อหรือจุดที่ทองเสียดสีกัน
วิธีดูทองคำแท้วิธีนี้สามารถทำได้ง่ายเช่นกัน (ถ้ามีแว่นขยายด้วยจะยิ่งดีมาก) ให้ดูตามรอยต่อหรือจุดเสียดสี ถ้าเป็นทองคำแท้จะไม่มีรอยถลอก ลอก หรือเปลี่ยนสี แต่ถ้าเป็นทองคำชุบหรือทองปลอม ตามรอยต่อเหล่านี้จะเกิดการลอกหรือถลอกสีดำหรือสีของโลหะภายใน
และนอกเหนือจากมองด้วยตาเปล่าแล้วยังมีวิธีทดสอบแบบอื่นด้วยวิธีดังต่อไปนี้
– วัดน้ำหนักทองด้วยการโยนทองให้ตกกระทบบนมือเรา ถ้าทองจริง น้ำหนักจะคุ้นมือ ถ้าทองปลอมจะเบาๆ หน่อย แต่ก็ต้องระวังเพราะบางกรณีอาจถูกยัดไส้ด้วยเงินมา น้ำหนักจะใกล้ๆ กัน ซึ่งก็ต้องพิจารณากันหลายๆ ส่วนประกอบ
– ฟังเสียงเวลาตกกระทบพื้นหรือกระจก ลองเอาโยนลงกระจกแล้วฟังเสียงดู หากทองปลอมที่ถูกยัดไส้ เวลาหล่นพื้นเสียงจะแน่นๆ ดัง แป๊ก หรือแก๊กๆๆ อย่างชัดเจนแต่ถ้าเป็นทองจริงเสียงมันจะเบาๆ นุ่มๆ กว่า (ข้อนี้ยากต้องหามาเปรียบเทียบฝึกเอง)
– สังเกตขนาดของทอง วิธีตรวจสอบทองคำแท้แบบนี้ต้องอาศัยความคุ้นเคย คือเราต้องรู้ว่าทองคำหนัก 1 บาท หรือ 2 บาทนั้น ควรมีขนาดแค่ไหน เช่น ถ้าบอกว่าสร้อยทอง 2 บาท แต่ขนาดใหญ่มาก ก็จะไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง
– ทดสอบด้วยการเผาไฟ เป็นวิธีพิสูจน์ทองอีกวิธีหนึ่ง เนื่องจากคุณสมบัติของทองจะแตกต่างจากโลหะอื่นๆทั่วไป คือการเผาไฟที่ด้วยความร้อนสูงแต่ก็ไม่เป็นสีดำ ไฟที่ใช้เผาต้องเป็นไฟแรงสูงแบบที่ร้านทองใช้ ไม่แนะนำให้ใช้ไฟแช๊คเผา เพราะความร้อนที่ได้อาจไม่เพียงพอต่อการทดสอบ
– ส่งเข้าห้องปฏิบัติการให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ห้องปฏิบัติการพิสูจน์อัญมณี เช่น สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ วิธีนี้จะสามารถระบุได้ว่าเป็นทองกี่เปอร์เซ็นต์ และจะได้ใบรับรองเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันอีกด้วย
เมื่อมีความรู้เช่นนี้แล้ว ก็จะสามารถแยกความแตกต่างระหว่างของแท้และของปลอมออกได้ในระดับหนึ่งแล้ว พร้อมกันนั้นเวลาซื้อทองก็ควรซื้อที่ร้านทองที่น่าเชื่อถือ ไว้วางใจได้ มีใบรับประกันทอง สมารถติดต่อทางร้านได้ (ตามเวลาที่เปิด) อย่าไว้วางใจและซื้อทองกับผู้อื่นโดยง่าย จะได้ไม่เป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
ขอบคุณข้อมูลจาก : vankayai ,
ขอบคุณคลิปจาก : "Goldsmith's Box จักจั่นท่าเรือ"