- 01 ต.ค. 2561
การพบปะพูดกันระหว่าง นายอภิสิทธิ์ กับ นายโภคิน โดยกล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ได้ตกเป็นเหยื่อการเมืองของพรรคเพื่อไทยเป็นที่เรียบร้อย
เข้าสู่ ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อความเคลื่อนไหวของ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจะส่งผลต่อเนืองถึงทิศทางอนาคตทางการเมืองของพรรค ซึ่งขณะนี้อยู่ในการหาข้อสรุปในการ หยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค ที่กำลังเข้มข้นดุเดือด เป็นอย่างมาก ล่าสุด ปรากฏ 3 ชื่อ ผู้ท่าชิงตำแหน่ง”หัวหน้า” อันได้แก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ,นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม โดยการสนับสนุนของ นาย ถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ขณะเดียวกับ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยอีกว่า ทางพรรคมีการขยับเดินเกมประสานหาแนวร่วมทุกทิศทาง นอกจากเครือข่ายรัฐบาลคสช.ที่ถือเป็นคู่แข่งในสนามเลือกตั้งครั้งหน้าแล้ว พรรคอื่นๆ ได้มีการไปพูดคุยเจรจาไว้เกือบทั้งหมด แม้แต่พรรคประชาธิปัตย์โดยมีนายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ไปร่วมพูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ ที่สำนักกฎหมายธรรมนิติ มีการคุยกันถึงขั้นว่าจะยกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้คนในพรรคประชาธิปัตย์ แม้พรรคเพื่อไทยจะได้เสียงมาเป็นลำดับที่หนึ่ง มาจับมือกันเป็นรัฐบาล เพื่อเป็นการล้มเครือข่ายรัฐบาลคสช. ที่มีฐาน 250 ส.ว. ลงไปให้ได้ก่อน.
แม้ต่อมา นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวดังกล่าวว่า..ตนเองกับนายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทยคุยกันเพื่อร่วมตั้งรัฐบาล โดยมีเงื่อนไขให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรีว่า ที่สำนักกฎหมายธรรมนิติส่วนใหญ่ตนไปพบนายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี เพราะนายไพศาลทำงานสมาคมประสานเรื่องการไปประเทศจีน และมีประเด็นเรื่องที่จีนเดินทางมาประเทศไทย ซึ่งเคยพบนายโภคิน แต่ไม่มีเรื่องตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะมายกให้กัน เป็นการคุยแลกเปลี่ยนเรื่องการเมืองบ้าง ปัญหาข้อกฎหมาย การทำงานของพรรคการเมือง โดยตอนนั้นยังไม่มีการปลดล็อกหรือคลายล็อก
“โดยปกติผมเจอคนของพรรคเพื่อไทยในเวที หรือถ้าจะมีการพูดคุยเรื่องการเมืองก็จะเป็นเรื่องเหล่านี้ เพราะผมพูดชัดเจนมาตลอดว่า ผมทำการเมืองในเรื่องของอุดมการณ์ และถ้าอุดมการณ์ไม่ตรงกันก็ร่วมกันไม่ได้ ตรงนี้คือจุดที่ผมแสดงมาตลอด ไม่ต้องมีปัญหามาตีความกัน และผมไม่ทราบว่าข่าวมาจากไหน แต่เห็นคุณโภคินก็ออกมาปฏิเสธแล้ว โดยข้อเท็จจริงพรรคเพื่อไทยก็ยังไม่ชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้บริหารอะไรอย่างไร ผมนึกไม่ออกว่าเขาจะคิดเรื่องนี้ขึ้นมา”
เมื่อถามว่า มองเจตนาของข่าวที่ออกมาอย่างไร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่ทราบเจตนา แต่ได้บอกไปแล้วว่าเรื่องอุดมการณ์นั้น ถ้าพรรคเพื่อไทยยังอยู่ภายใต้ของครอบครัวชินวัตรไม่ดึงตัวเองให้พ้นจากร่มเงาของระบอบทักษิณ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำงานร่วมกัน
เมื่อถามย้ำว่า ถ้าหัวหน้าพรรคไม่ใช่คนตระกูลชินวัตร จะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ได้พูดถึงตัวหัวหน้าพรรค แต่บอกว่าพฤติกรรมใด ๆ ที่เหมือนกับระบอบทักษิณ ใครจะทำตนก็คัดค้าน เพราะตนมีความสม่ำเสมอในอุดมการณ์ และไม่ว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แต่แนวทางยังเป็นแบบเดิม ก็ทำงานร่วมกันไม่ได้ ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ไปเท่านั้นเอง
อย่าไรก็ตาม ทางด้าน นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม สื่อมวลชนอาวุโส ได้กล่าวไว้ในรายการ คมชัดลึกสุดสัปดาห์ ออกอากาศอาทิตย์ที่ 30 กันยายน 2561 บางช่วงบางตอนได้วิเคราะห์ถึงความการพบปะพูดกันระหว่าง นายอภิสิทธิ์ กับ นายโภคิน โดยกล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ได้ตกเป็นเหยื่อการเมืองของพรรคเพื่อไทยเป็นที่เรียบร้อย รายละเอียดเป็นอย่างไร ติดตามในคลิปที่แนบมา