- 02 ต.ค. 2561
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย ประกาศปิดการท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภูกระดึง ตั้งแต่ 1 มิถุนายน - กันยายนของทุกปี เพื่อเป็นการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม รวมทั้งปรับปรุงซ่อมแซมที่พัก โดยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาพิชิตยอดภูกระดึงอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2562
ภายหลังจากอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย ประกาศปิดการท่องเที่ยว และพักแรมบนยอดภูกระดึง ประจำปีในช่วงฤดูฝนตั้งแต่ 1 มิถุนายน ถึงเดือนกันยายนของทุกปี เพื่อเป็นการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม รวมทั้งปรับปรุงซ่อมแซมที่พัก โดยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาพิชิตยอดภูกระดึงอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2562
โดยเมื่อวานนี้ (1 ต.ค.) อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสอากาศหนาว และพันธุ์พืชที่ยังอุดมสมบูรณ์ โดยปีนี้บรรยากาศ เริ่มคึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งชาวจังหวัดเลย และจากต่างจังหวัด พากันไปท่องเที่ยวจำนวนมากกว่าปีที่ผ่านมา ท่ามสภาพอากาศที่เย็นสบาย
ด้าน นายมนูญ บานสง นักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ บอกว่า ตนขึ้นภูกระดึงเป็นครั้งที่ 5 แล้ว โดยเฉลี่ยแล้วจะขึ้น ปีละ 1-2 ครั้ง โดยจะขึ้นช่วงเปิดภูใหม่ๆ เพื่อที่จะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่บริสุทธิ์สดใส และได้สัมผัสกับธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ โดยส่วนตัวแล้วชอบขึ้นภูกระดึงเพราะเป็นธรรมชาติที่ยังไม่ถูกทำลายไปมากเหมือนอุทยานฯ อื่นๆ
ด้าน นายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภู กล่าวว่า ภูกระดึงเป็นขุนเขามหัศจรรย์แห่งเมืองเลย ลักษระเป็นภูเขาหินทรายที่มียอดตัดเรียบ จุดสูงสุดสูง 1,316 เมตร อุดมไปด้วยทุ่งหญ้าในป่าสน มีหน้าผาที่สวยงามหลายแห่ง เช่น ผานกแอ่น ผาหมากดูก และผาหล่มสักที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของภูกระดึง
สำหรับ "ภูกระดึง" ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 2 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2505 ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ครอบคลุมพื้นที่ 348.13 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด โดยมีที่ราบบนยอดภูกระดึงประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร
"ภูกระดึง" มีระดับความสูงอยู่ระหว่าง 400 – 1,200 เมตร จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตร สภาพทั่วไปของภูกระดึงประกอบไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด พันธุ์สัตว์ป่านานาพันธุ์ หน้าผา ทุ่งหญ้า ลำธาร และน้ำตก อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำพองซึ่งเป็นลำน้ำสายสำคัญสายหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ด้วยความสูง บรรยากาศ และสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปีบนยอดภูกระดึง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิอาจลดต่ำจนถึง 0 องศาเซลเซียส จึงเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวปรารถนาที่หวังจะเป็นผู้พิชิตยอดภูกระดึงสักครั้งหนึ่งในชีวิต
ภูมิอากาศของอุทยานแห่งชาติภูกระดึงบริเวณที่ระดับต่ำตามเชิงเขา มีสภาพโดยทั่วไปใกล้เคียงกับบริเวณอื่นๆ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม ฝนตกชุกที่สุดระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน อุณหภูมิเฉลี่ยรายปี 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดในเดือนมกราคม และอุณหภูมิสูงสุดในเดือนเมษายน
ในช่วงฤดูฝน มักเกิดภัยธรรมชาติ เช่น เกิดการพังทลายของภูเขาและมีน้ำป่า ทางอุทยานแห่งชาติจึงกำหนดให้ปิด-เปิดการท่องเที่ยวเฉพาะบนยอดเขาภูกระดึง เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และให้สภาพธรรมชาติและสภาพแวดล้อมได้มีการพักฟื้นตัว หลังจากนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมอย่างมากในแต่ละปี ดังนี้
ขอบคุณ เฟซบุ๊ก สุเมธิน คำประภา , สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ , GotoLoei Thailand
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หนาวแรกมาแล้ว! เปิด "ภูกระดึง" วันแรก นักท่องเที่ยวแห่สัมผัสลมหนาวคึกคัก!
- นักท่องเที่ยวขึ้นภูกระดึงเก็บขยะ ส่งท้ายก่อนปิดยาว 4 เดือน (มีคลิป)