- 19 ต.ค. 2561
ประจักษ์ชัยพูดแล้วปล่อยอามไปได้หรือไม่? บอกจริงๆไม่อยากได้2ล้าน พร้อมฝากอีกคำพูดถึงศิษย์
จากกรณี "อาม ชุติมา" นักร้องลูกทุ่งสาวชื่อดัง และนักแต่งเพลง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวไปโรงพักวังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เมื่อกลางดึกวันที่ 15 ต.ค. 2561 โดยโลกโซเชียลได้มีการเผยแพร่เหตุการณ์ นักร้องสาวถูกเจ้าหน้าที่จับกุมไปโรงพัก ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์เพลง หลังขึ้นร้องเพลงบนเวทีจบ โดยมีผู้ใหญ่ค่ายเพลง เข้ามาเจรจา กับทนาย งานนี้ทำเอาสาวอามถึงกับหลั่งน้ำตาเลยทีเดียว
ก่อนหน้านี้ ขณะไปเล่นคอนเสิร์ตที่บ้านดุง จังหวัดอุดรธานี อาม ชุติมา นักร้องดัง ได้ไลฟ์สดพูดคุยกับแฟนคลับก่อนขึ้นเวทีว่า มาถึงจุดนี้ รู้ว่ามีคนรักมากแค่ไหน โดยอาม ถึงกับน้ำตาคลอจะร้องไห้ ก่อนถามว่าถ้ามีเหตุให้อามไม่ได้ร้องเพลงแล้ว จะยังติดตามกันอยู่หรือไม่ เพราะบางทีก็ท้อ จนคิดว่ากลับไปเรียนดีกว่า อามคิดตลอดเรื่องเรียน เราไม่มีเวลาเต็มที่ให้กับการเรียน
“เรียนต่อ แต่ยู่บนเวทีจะเรียนได้ยังไง เรามีวุฒิ ม.6 ก็ไปเริ่มเรียนปีหน้าก็ได้ ถ้ามันหนักหนาจริงๆ ก็จะไม่ร้องแล้ว อายุ 21 กลับมา ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สังคมเปลี่ยนไป เราหยุดร้อง แล้วกลับมา คนจะยังติดตามเราอีกมั้ย” ต่อมาโลกโซเชียล ได้เปิดเผยว่า คนที่แจ้งจับอาม ชุติมา ที่แท้คือเจ้าของค่ายไหทองคำเรคคอร์ด “ประจักษ์ เนาวรัตน์” นั่นเอง
ล่าสุดในรายการโหนกระแส วันที่ 18 ต.ค. 2561 “อริสรา กำธรเจริญ” ได้เป็นผู้ดำเนินรายการแทน “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด นั้น ได้พูดคุยกับนายประจักษ์ เนาวรัตน์ หรือประจักษ์ชัย เจ้าของค่ายลำไยไหทองคำ ถึงกรณีที่จับอาม ชุติมา ข้อหาที่โดนละเมิดลิขสิทธิ์ คุณอามละเมิดลิขสิทธิ์อะไร?
ประจักษ์ชัย : ต้องบอกก่อนว่าเป็นความลำบากใจ และเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก เราเคยอยู่ด้วยกัน ด้วยความรัก ทะนุถนอมน้อง แต่ว่าระยะเวลาที่มีข่าวในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมา ประเด็นที่เราขอไกล่เกลี่ยให้มาพูดคุย น้องมีประเด็นน้อยใจ หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผม
น้องก็ขอแยกตัวเป็นอิสระ และบอกว่าตัวเองไม่มีสังกัด ตอนแรกบอกว่าไม่มีสัญญา แต่ไปๆ มาๆ ก็มีสัญญา จริงที่ไปแจ้งจับวันนั้น มีขั้นตอนสืบเนื่องมาจากที่เราเคยเรียกมาคุยและยื่นโนติส ส่งจดหมายไปที่บ้านเกิด ประมาณ 3 ครั้ง น้องอาจให้ความสำคัญน้อยไปนิดหนึ่ง เลยไม่มีการพูดคุยกัน ล่วงเลยไปเกือบ 5 เดือนหรือเราติดต่อไป น้องก็ไม่มีสัญญาณตอบรับว่าใส่ใจ
ก็เลยเป็นขั้นตอนของฝ่ายกฎหมายที่เขารับงานไปแล้ว เขาก็เลยไปเชิญตัว ไม่ได้เรียกว่าจับกุม อันนี้เป็นภาษาข่าว ที่จริงรอให้น้องเล่นจนจบ แล้วเชิญตัวไปโรงพัก ไม่ได้รวบตัวโจ๋งครึ่มและน่าเกลียด ก็เชิญขึ้นรถตู้ น้องร้องไห้ไปถึงโรงพักแล้ว ก็เป็นธรรมดา นี่เป็นกฎหมายพิเศษ กฎหมายลิขสิทธิ์ ต้องจับซึ่งหน้า ก็หาช่องทางไกล่เกลี่ยกัน
อธิบายง่ายๆ ให้คนเข้าใจหน่อย?
ประจักษ์ชัย : คนที่ไม่เข้าใจ เสพสื่อบางส่วนจะเข้าใจว่าการจับครั้งนี้เป็นผิดสัญญาลิขสิทธิ์เพลง ซึ่งไม่ใช่ ลิขสิทธิ์เพลง ซึ่งไม่ใช่ ลิขสิทธิ์เพลง เราให้ใครร้อง เราประกาศว่ายินดี ให้ทุกคนร้อง น้องอามก็ต้องมีสิทธิ์ร้อง แต่เพื่อให้เกิดประเด็นว่าผมใจร้าย หรือรังแกเด็ก ถ้าจะไปตั้งประเด็นการจับลิขสิทธิ์เพลง ทางฝ่ายกฎหมายก็ต้องรัดกุม ทั้งที่เพลงนี้โอนสิทธิ์ขาดแล้ว ผมจับลิขสิทธิ์เพลงก็ได้ด้วยนะ แต่น้ำหนักมันจะล่อแหลมและละเอียดอ่อน เขาเรียกว่าลิขสิทธิ์ในตัวนักแสดง
ตอนนี้อามยังเป็นเด็กในสังกัดอยู่มั้ย?
ประจักษ์ชัย : อันนี้คือน้องอามเป็นคนเซ็น คุณพ่อคุณแม่เป็นคนเซ็น ตอนนั้นน้องอายุ 17 ปี เป็นผู้เยาว์ ต้องได้รับการยินยอมจากพ่อแม่ตรงนี้
ยังเหลืออีก 2 ปี 7 เดือน ตอนเซ็นสัญญาคุณแม่อ่านมั้ย?
ประจักษ์ชัย : อ่านด้วยกันครับ จะมาบ่ายเบี่ยงว่าไม่ได้อ่าน ด้วยสำนึกของคน อยู่ 2 ปี มีสัญญาคู่ฉบับนะครับ วันดีคืนดีบอกว่าไม่ได้อ่าน แล้วอ่านเฉพาะที่ตัวเองเสียเปรียบแล้วมาแย้งไม่ได้ สังคมไทยจะบอกว่าไม่รู้กฎหมายแล้วมาแย้งไม่ได้ ยิ่งบอกว่าอาจารย์ไม่ให้อ่าน มันยิ่งต้องอ่าน ไม่ได้บอกเลยว่าไม่ให้อ่าน การพูดว่าไม่เป็นธรรม โดนรังแก มันพูดได้หมด แต่คุณมีหลักฐานการจ่ายเงิน เบิกเงินตรงไหน ก็รู้กันแค่เราสองคน ทุกวันนี้เราไปศาลก็พูดด้วยเอกสาร เราไม่ได้รังแกเด็ก เราสร้างบรรทัดฐานให้ค่ายเพลงหลายค่าย ว่าไหทองคำ จะทำเคสนี้ให้เป็นกรณีศึกษายังไง
ในยุคที่โซเชียลกำลังเบ่งบานแล้ว ศิลปินค่ายอื่นที่เคยอยากออกจากค่าย แล้วมีแบบนี้ เขารอเวลาให้ผ่านไป กับระยะเวลาที่เหลืออยู่ แต่ไม่ได้ใช้ฐานผู้ติดตามมาเป็นแนวร่วม เขาเรียกว่าม็อบชนม็อบ แล้วเอามวลชนมาสู้กับสัญญา อย่างนี้คนก็ไม่มีกติกา
จุดแตกหักคืออะไร?
ประจักษ์ชัย : ก็รอแล้วรอเล่า น้องก็โพสต์ว่าทำไมไม่ปล่อยให้น้องไปทำมาหากิน เป็นผู้หญิง ผมก็จะบอกว่าก็ให้ ทำมาหากินไงครับ แต่มาหากินด้วยกัน มาอยู่ในระบบ ผมเป็นคนสร้าง ผมทำธุรกิจค่ายเพลง กว่าจะสร้างมาได้สัก หนึ่งคน คาแรคเตอร์ เสื้อผ้า ชุด เพลง การทำพีอาร์ โปรโมต ให้เขาดัง คือใคร ต้องมาคุยกัน
หลายคนอยากให้นายห้างประจักษ์ชัย ปล่อยน้องไป?
ประจักษ์ชัย : ปล่อยก็ได้ แต่ให้มาขอโทษบ้าง ให้มีความรู้สึกว่าเคยอยู่ด้วยกัน จำวันที่มากรุงเทพฯ แล้วไม่มีค่ารถมา ผมส่งค่ารถให้ วันแรกผมจำสร้อยผม ยังจำได้อยู่เลย แล้วทำเพลงอดีตเคยพังให้ ถามว่าวันนั้นอาจารย์ทุ่มเท ขนาดไหน มาขอโทษผม อยากไปทำกับเพื่อนฟีลที่หนูอยากเป็น ขอนะอาจารย์ ผมไม่ใช่คนใจร้าย อย่าเอาแต่อารมณ์
เขาน้อยใจหรือเปล่า ดูแลศิลปินในค่ายไม่เท่าเทียมกัน?
ประจักษ์ชัย : ก็แล้วแต่ มันก็เป็นแบบนี้ ในบ้านเรา ลูกเราก็ยังได้ไม่เท่ากัน มันอยู่ที่เวลาความเหมาะสม ถามว่าเขาได้น้อยกว่าคนอื่นมั้ย ความดังมันกำหนดไม่ได้ ตอนนั้นลำไยดังมาก่อน เขาจะซื้อบีเอ็ม จะซื้อบ้าน เงินสด อามซื้อ รถกระบะ ผมก็ดาวน์รถให้ ทำบ้าน ทำรั้วให้ คนเราไม่เท่ากัน นิ้วไม่เท่ากัน ก็ต้องรอเวลา รอจังหวะ
ถ้าขอโทษและซื้อสัญญาคืน ต้องจ่ายเท่าไหร่?
ประจักษ์ชัย : 2 ล้านบาท ไม่ได้อยากได้เงินคุณหรอก แต่เขียนคุมเพื่อให้เกิดสภาพบังคับ ถ้ามีนายทุนพร้อมซื้อ 2 แสนต่อยอดน้องอาม เขาเอาไปต่อยอดได้กี่ล้าน เขาไม่ได้อยากได้เงินจากน้องอามหรอก ค่าลงทุนยังไม่เท่าเยียวยาความรู้สึก
อยากบอกอะไรกับอาม?
ประจักษ์ชัย : ก็รักเหมือนเดิม อยากให้เห็นความดีที่วันนึงผมส่งค่ารถให้ ผมอยากให้จบด้วยดี ยังไงก็เป็นอาจารย์
ขอบคุณรายการ : โหนกระแส ช่อง 3