ศิลปินแห่งชาติ เสียดาย! นายกฯไม่มาเปิดงานหนังสือ ชวดคะแนนเสียงคนรุ่นใหม่นับล้าน สงสัยพีอาร์คิดได้แค่งานบันเทิง เรื่องสติปัญญาคิดไม่เป็น

ศิลปินแห่งชาติ บอกนายกฯไม่มาเปิดงานหนังสือ ทำชวดคะแนนเสียงคนรุ่นใหม่นับล้าน สงสัยพีอาร์คิดได้แค่งานบันเทิง เรื่องสติปัญญาคิดไม่เป็น

จากกรณีมีการจัดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 23 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งจัดโดย สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย โดยในงานดังกล่าวนี้ได้จัดควบคู่ไปกับ “ เทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12 ”ระหว่างวันที่ 17-28 ต.ค. 2561  ภายใต้แนวคิด “อ่านออกเสียง” ชม นิทรรศหนังสือสาบสูญ 3018/ นิทรรศการสำหรับเด็กและครอบครัว Wonder Land ดินแดนค้นพบตัวตน และนิทรรศการเยาวชน พร้อมเวทีเสวนาและกิจกรรมมากมายตลอด 12 วันด้วยบูธสำนักพิมพ์ที่ขนหนังสือกันมาเป็นจำนวนมาก

 

ศิลปินแห่งชาติ เสียดาย! นายกฯไม่มาเปิดงานหนังสือ ชวดคะแนนเสียงคนรุ่นใหม่นับล้าน สงสัยพีอาร์คิดได้แค่งานบันเทิง เรื่องสติปัญญาคิดไม่เป็น

 

ล่าสุดที่เฟซบุ๊ก Makut Onrudee ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กของ มกุฏ อรฤดี ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี2555 บรรณาธิการ สำนักพิมพ์ผีเสื้อ ครูพิเศษ สอนวิชาหนังสือ และวิชาบรรณาธิการศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา และคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงการจัดงานหนังสือดังกล่าว โดยระบุถึงข่าวว่าผู้จัดงานได้เชิญนายกรัฐมนตรีเปิดงาน แต่นายกรัฐมนตรีไม่ได้เดินทางมา และมีการตั้งข้อสังเกต ด้วยคำถามว่าหรือคนของนายกรัฐมนตรีไม่ได้จัดให้มาเปิดงานดังกล่าว

 

ศิลปินแห่งชาติ เสียดาย! นายกฯไม่มาเปิดงานหนังสือ ชวดคะแนนเสียงคนรุ่นใหม่นับล้าน สงสัยพีอาร์คิดได้แค่งานบันเทิง เรื่องสติปัญญาคิดไม่เป็น

 

 

 

ข่าวว่า

ผู้จัดงานหนังสือเชิญนายกฯ ไปเปิดงาน

นายกฯ ไม่ไป หรือคนของนายกฯ ไม่จัดให้ไป

 

ถ้าผมเป็นนายกฯ ผมจะไป ทุกครั้ง

เพราะคนหนุ่มสาวในงานหนังสือแต่ละครั้ง

เคยมีสถิติว่ามากกว่า 1,500,000 คน

การไปงานนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง

ได้คะแนนเสียงจากคนรุ่นใหม่นับล้าน

ไม่แต่เท่านั้น คนเหล่านั้นจะช่วยกระจายข่าวด้วย

ทำไมไม่ทำ

 

ผมจึงสงสัยเสมอมา ตั้งแต่แรก ว่า

ประชาสัมพันธ์ของนายกฯ น่าจะคิดแปลกๆ

หรือคิดอะไรได้แค่ระดับบันเทิง

เรื่องสติปัญญาคิดไม่เป็น

 

ศิลปินแห่งชาติ เสียดาย! นายกฯไม่มาเปิดงานหนังสือ ชวดคะแนนเสียงคนรุ่นใหม่นับล้าน สงสัยพีอาร์คิดได้แค่งานบันเทิง เรื่องสติปัญญาคิดไม่เป็น

 

อย่างไรก็ตามสำหรับงานหนังสือนี้ได้มีพิธีเปิดงานเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยมีนายแพทย์ ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มาเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมทั้งยังได้กล่าวว่า การส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านในประเทศไทยนั้นเป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญส่งเสริมและสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ตามแผนแม่บทส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ของไทย พ.ศ. 2560-2564 โดยเน้น 4 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ ยุทธศาสตร์แรกสร้างพฤติกรรมการอ่านให้คนทุกวัย

 

ศิลปินแห่งชาติ เสียดาย! นายกฯไม่มาเปิดงานหนังสือ ชวดคะแนนเสียงคนรุ่นใหม่นับล้าน สงสัยพีอาร์คิดได้แค่งานบันเทิง เรื่องสติปัญญาคิดไม่เป็น

 

“ยุทธศาสตร์ที่ 2 อำนวยความสะดวกในการเข้าถึงสื่อการอ่านของประชาชนทั้งในเมืองและภูมิภาค ยุทธศาสตร์ที่ 3 ยกระดับคุณภาพแห่งการเรียนรู้ สื่อการอ่าน และยุทธศาสตร์ที่ 4 สร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการอ่าน ด้วยตระหนักอย่างแน่ชัดจากตัวอย่างของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วว่า ประเทศที่มีพลเมืองมีนิสัยรักการอ่าน จะเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญ เพื่อการพัฒนาบ้านเมืองในด้านต่างๆ ให้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว มั่นคง และยั่งยืน

 

ศิลปินแห่งชาติ เสียดาย! นายกฯไม่มาเปิดงานหนังสือ ชวดคะแนนเสียงคนรุ่นใหม่นับล้าน สงสัยพีอาร์คิดได้แค่งานบันเทิง เรื่องสติปัญญาคิดไม่เป็น

 

แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจและปัจจัยแวดล้อมต่างๆจะส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อทุกสาขาอาชีพที่เกี่ยวข้องในการผลิตหนังสือ แต่งานในครั้งนี้จะเป็นอีกบทพิสูจน์สำคัญที่จะทำให้ทุกคนประจักษ์ว่า ประเทศไทยยังให้ความสำคัญต่อหนังสือ ยังมีคนทำหนังสือ และยังมีคนอ่านหนังสือ ซึ่งนับเป็นรากฐานที่สำคัญและเข้มแข็งในการแก้ไขปัญหา และก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆไปสู่ความสำเร็จได้ในที่สุด ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนในการสร้างสรรค์ให้เกิดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 23 และ และเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่12 นี้ขึ้นมา”

 

ศิลปินแห่งชาติ เสียดาย! นายกฯไม่มาเปิดงานหนังสือ ชวดคะแนนเสียงคนรุ่นใหม่นับล้าน สงสัยพีอาร์คิดได้แค่งานบันเทิง เรื่องสติปัญญาคิดไม่เป็น

 

ศิลปินแห่งชาติ เสียดาย! นายกฯไม่มาเปิดงานหนังสือ ชวดคะแนนเสียงคนรุ่นใหม่นับล้าน สงสัยพีอาร์คิดได้แค่งานบันเทิง เรื่องสติปัญญาคิดไม่เป็น

 

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Makut Onrudee