- 18 พ.ย. 2561
ยกโขยง "เหวง-อ๋อย-เต้น" แห่ซบทษช!
บรรยากาศการเมืองยิ่งร้อนระอุขึ้นทุกที โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่ล่ำลือหนาหูว่ากันว่า เป็นพรรคอะไหล่เพื่อไทย มีไว้ยามฉุกเฉิน หากเกิดอุบัติเหตุ ที่ทำให้พรรคเพื่อไทย มีอันเป็นไปทางการเมือง อย่าง “พรรคไทยรักษาชาติ" ที่เปลี่ยนชื่อจาก ไทยรวมพลัง ที่ หนึ่งในพรรคนอมินี “ทักษิณ” อันประกอบไปด้วย “พรรคเพื่อไทย-เพื่อธรรม-เพื่อชาติ-ประชาชาติ-ไทยรักษาชาติ” ที่กำลังเดินตามยุทธศาสตร์แตกแบงก์พันอย่างไม่ผิดแถว
ก่อนหน้านี้ได้มีอดีตแกนนำ อดีตรัฐมนตรี อดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติอย่างต่อเนื่อง อาทิ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ , นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช , นางสาวขัตติยา สวัสดิผล , นายพัชร นริพทะพันธุ์ , นายนิติ เนื่องจำนงค์ , นายอุเมส ปานเดย์ อดีตบรรณาธิการบางกอกโพสต์ และผู้แสดงเจตจำนงในการลง ส.ส. จังหวัดราชบุรี เพชรบุรี สมุทรสงคราม เข้าสมัครสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติไม่ขาดสาย
ล่าสุด (18 พ.ย.61) - นพ.เหวง โตจิราการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. เป็นอีกหนึ่งรายที่เตรียมตัวเข้าสังกัดพรรคไทยรักษาชาติ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ผมยื่นใบลาออกจากพรรคเพื่อไทยแล้วครับ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน2561 ก็จะไปอยู่กับ ทษช.ครับ ผมไม่ได้มีอะไรขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยให้ความอบอุ่น ให้โอกาสในการทำงาน และให้เกียรติผมเป็นอย่างดี ผมไม่มีอะไรที่ขัดแย้งทั้งในระดับนโยบายและในระดับการปฏิบัติงาน ผมขอขอบพระคุณพรรคเพื่อไทย และผมได้โทรศัพท์เรียนกราบลากับท่านหัวหน้าพรรค ท่านวิโรจน์ เปาอินทร์เรียบร้อยเมื่อค่ำวันศุกร์ (16 พ.ย.61)ที่ผ่านมา
แต่ภาระหน้าที่ในการต่อสู้ให้ได้มาเพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐธรรมนูญ 60 ที่กำหนดอย่างตั้งใจในการสืบทอดอำนาจของ คสช. ปรากฏใน ส.ว.แต่งตั้ง 250 คน ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ปฏิรูปการเมือง 11ด้าน องค์กรอิสระที่ตั้งโดยพวกเขาเพื่อเล่นงานฝ่ายประชาธิปไตยโดยตรง ทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องทำงานการเมืองหรือต่อสู้ทางการเมืองต่อไป แต่การระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ 60 ของพวกเขาให้การเลือกตั้งเป็นแบบจัดสรรปันส่วนแบบผสม เพื่อทำลายการตัดสินทางการเมืองแบบรวบยอดของประชาชน ทำให้ประชาชนต้องตัดสินใจทางการเมืองแบบเบี้ยหัวแหลกหัวแตก ไม่มีโอกาสที่พรรคการเมืองจะมีคะแนนเสียงเป็นกอบเป็นกำเพื่อผลักดันอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่เป็นปฏิปักษ์ของ คสช.ได้
นี่เป็นแก่นของการเลือกตั้งแบบ "จัดสรรปันส่วนแบบผสม" ดังนั้นผมที่ตั้งใจที่จะทำการผลักดันให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงกวาดล้างผลพวงของ คสช. ซึ่งจะเป็นเงื่อนไขเริ่มต้นและเงื่อนไขสำคัญในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างรุนแรงในขณะนี้ได้ จึงต้องตัดสินใจเลือกเส้นทางที่สามารถทำงานการเมืองทำการต่อสู้ทางการเมืองเพื่อสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงกวาดล้างระบอบรัฐฏาธิปัตย์ให้หมดไป จึงต้องเลือกหนทางที่เป็นไปได้ในการทำงานการเมืองหรือต่อสู้ทางการเมืองต่อไป ผมจึงจำเป็นต้องมาอยู่ไทยรักษาชาติ (ทษช.) ครับ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่าวันพรุ่งนี้ (19 พ.ย.นี้)นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ และ อดีตแกนนำ นปช.จะเดินทางมาสมัครสมาชิกพรรคเวลา 12:30น. ส่วนทั้ง 2 คน จะเข้ามาอยู่ในตำแหน่งหรือมีบทบาทหน้าที่ใดคงต้องมีการประชุมปรึกษาหารือกันต่อไป
ด้วยระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ หรือที่เรียกว่าระบบสัดส่วนผสม ที่ทุกคะแนนเสียงมีค่าใช้นับร่วมทั้งหมด ทำให้ฝ่ายระบอบทักษิณแก้เกม มาเป็นเกิดยุทธศาสตร์ “แตกแบงก์พัน” โดยใช้แนวร่วมทั้งพรรคหลัก พรรคร่วม พรรคมวลชน ของพรรคการเมืองระบอบทักษิณ หวังโกยเก้าอี้ส.ส.เขต-บัญชีรายชื่อ โดย ที่พรรคเพื่อไทย จะไล่เก็บส.ส.ระบบเขตเลือกตั้งตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด และจะทำให้พรรคเพื่อไทยนั้น อาจจะไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ แม้แต่คนเดียวก็ไม่เป็นอะไร ขณะที่พรรคเพื่อชาติ -เพื่อธรรม โดยเฉพาะพรรคไทยรักษาชาติ ถือเป็นการเก็บตกคะแนนเสียงที่ไม่ทิ้งน้ำ ซึ่งเป็นการเก็บคะแนนทุกคะแนนเสียงทั่วประเทศ แล้วนำมาคำนวนกลับ เป็นจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ ดังนั้นกล่าวย้ายพรรคมาของบรรดาแกนนำย้ายสังกัดพรรค หวังจะได้มานั่งเก้าอี้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคไทยรักษาชาตินั้นเอง