นายกอบต.สุขเดือนห้า ขึ้นโรงพักแฉหนุ่มเซลฟี่ควาย เรี่ยไร่เงินแสนไถ่"เจ้าทองคำ"ส่อเจตนาหลอกหลวง

จากกรณีหนุ่มชัยนาท ถ่ายภาพเซลฟี่กับเจ้าควายตัวโปรด จนกลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์นั้น สร้างความประทับใจกับคนที่เข้ามาชมภาพ และหลายคนต่างซาบซึ้งในความผูกพันระหว่างคนกับควาย ที่หาดูได้ยากในยุคปัจจุบัน

ต่อมาทราบว่าหนุ่มคนดังกล่าวชื่อนายสุรัตน์ แผ้วเกตุ และเจ้าตัวได้เปิดเผยถึงเจ้าควายแสนรัก ว่ามันชื่อ “เจ้าทองคำ” เป็นควายยิ้มเพศผู้ วัย 5 ปี เป็นควายที่เจ้าของมาฝากให้เขาเลี้ยง ร่วมกับควายเพศเมียอีก 2 ตัว และเจ้าของกำลังจะขายควายทั้งหมดที่ฝากไว้ รวมถึงเจ้าทองคำด้วย ในราคาตัวละ 1 แสนบาท

 

และได้มีผู้มาติดต่อขอซื้อแล้ว ตนเองจึงอยากจะไถ่เจ้าควายตัวนี้ เพราะรู้สึกผูกพันกับมัน เลี้ยงมันมาอย่างดี ทำใจไม่ได้หากต้องจากกัน จึงได้เปิดรับบริจาคเงิน เพื่อนำไปซื้อเจ้าทองคำ และได้มีหลายคนร่วมกันช่วยเหลือ เพียงไม่กี่วันแรก ได้ยอดเงินกว่า 6 หมื่นบาท และก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ ได้ยอดเงินจนครบ 1 แสนบาท ตามที่ตั้งใจไว้แล้ว จึงได้ไปถอนเงินจำนวนนี้ มาจ่ายค่าตัวเจ้าทองคำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้รับของขวัญจากผู้นำท้องถิ่นเป็นควายเพศเมียอีก 1 ตัว

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : หนุ่มเซลฟี่ "ควายคู่ใจ" สุขหัวใจ มอบเงินแสนไถ่ชีวิต"เจ้าทองคำ"ขอบคุณทุกคนทำฝันเป็นจริง

 

ล่าสุดดูเหมือนว่าเรื่องราวดังกล่าวจะมีพิรุธ และส่อแววเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน เมื่อทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ พร้อมด้วยนายบุญเลิศ กาฬภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า ได้เดินทางไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว กรณีที่นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ ออกมาร่ำไห้ผ่านสื่อขอเรี่ยไรเงินไถ่ตัวควาย "เจ้าทองคำ" กลับคืนมา 

 

โดยให้สัมภาษณ์ว่า "เจ้าทองคำ" ถูกขายไปแล้วในราคา 100,000 บาท ก่อนที่จะออกมาร่ำไห้ผ่านสื่อให้ประชาชนช่วยไถ่ควาย "เจ้าทองคำ" ปรากฏว่ามีคนจำนวนมากหลงเชื่อ ร่วมบริจาคเข้าบัญชีของนายสุรัตน์ ธ.กรุงไทย สาขาหันคา จ.ชัยนาท ซึ่งคดีนี้พบพิรุธแต่แรกคือ ไม่พบตัวเจ้าของควายทองคำ และไม่พบตัวคนซื้อควายไปในราคา 1 แสน แต่กลับพบว่าควายตัวดังกล่าวเป็นของนายกอบต.สุขเดือนห้า

 

และที่สำคัญยังไม่ได้ขายควายให้ใคร เพียงแต่นำควายไปฝากให้นายสุรัตน์เลี้ยงไว้ชั่วคราวเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาเท่านั้น โดยนายสุรัตน์ มีควายตัวเมียอยู่แล้ว แต่อยากได้ควายของนายก อบต.ตัวนี้ จึงออกอุบายดังกล่าวขึ้น 

 

ขณะที่ทนายสงกานต์ยังบอกด้วยว่า ที่สงสัยจนตามสืบเรื่องนี้ เนื่องมาจากอยากทราบว่า ใครคือคนซื้อควายตัวดังกล่าวในราคา 1 แสนบาท จนมารู้ว่าเจ้าของที่แท้จริงคือนายกอบต.สุขเดือนห้า ตนเองก็เป็นหนึ่งในเหยื่อ ที่บริจาคเงินช่วยนายสุรัตน์คนเลี้ยงควายไปด้วยเช่นกัน โดยนายกอบต.ไม่ได้ตั้งชื่อควายไว้ เขาไปตั้งเองว่าชื่อ "เจ้าทองคำ" แต่หากขายควายตัวนี้จริง จะมีราคาเพียง 80,000 บาท เพราะเป็นควายพ่อพันธุ์

 

ส่วนทางด้านนายบุญเลิศ กาฬภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า ได้เปิดเผยว่า ควายตัวนั้นเป็นของตน ซื้อมาในราคา 80,000 แม้จะเป็นนายกอบต. แต่ก็รักสัตว์ ชอบเลี้ยงวัว เลี้ยงควาย ผมเลยไปฝากสุรัตน์ให้เลี้ยง แต่ไม่ได้บอกว่าจะมีการขาย เขาเอาเงินมาวางไว้ให้ผม ค่าควาย แต่ผมไม่เอาหรอกนะ ก็ไม่ได้จะขายให้ แค่ฝากให้เลี้ยง เขาเองอยากได้ควายตัวผู้ไปทำพันธุ์กับควายตัวเมียที่เขาเลี้ยงไว้ ยังไม่ได้ตกลงค่าจ้างเลี้ยงกันเลย ก็งงเล็กน้อยว่าทำไมเขาทำแบบนี้ แล้วผมไม่ได้เล่นโซเชียล เลยไม่รู้ว่าเขาไปขอเรี่ยไรเงินจำนวนมาก 

 

นอกจากนี้ตนเองยังได้ลงพื้นที่ไปดูควายตัวดังกล่าวมาแล้ว คงอาจจะเจรจาขอคืน เพราะเขาเลี้ยงแบบปล่อยทิ้งขว้าง มีคนบอกว่ามันไปกินข้าวของชาวนา ผมเห็นสภาพการเลี้ยงดูแล้ว กลัวควายจะหายแน่ๆ เรื่องนี้ก็คงว่ากันไปตามขั้นตอนอีกครั้ง 

 

 

ยอดเงินที่นายสุรัตน์ โพสต์ลงเฟซบุ๊ก ในวันที่ขอปิดบัญชีรับบริจาค