แม่ลูก 4 โวยทำหมันแล้วยังท้อง รพ.รับปากเยียวยา 1 แสนบาท แต่จ่ายเพียงหนึ่งหมื่นบาท

น.ส.น้ำมนต์ บุญเสน่ห์ ชาวบ้านเขตคลองเตย ออกมาเปิดเผยว่า เธอตั้งครรภ์และคลอดลูกคนที่ 4 ทั้งที่ได้ทำหมันหลังจากคลอดลูกคนที่ 3 กับทางโรงพยาบาลเลิดสิน แพทย์ชี้ว่าเป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้ 1 ในพัน  ทางโรงพยาบาลเคยรับปากว่าจะเยียวยา 1 แสนบาท แต่จ่ายเพียงหนึ่งหมื่นบาท
 

 

น.ส.น้ำมัน เล่าว่า เคยสอบถามขณะไปตรวจอาการแพ้ท้องที่โรงพยาบาล และสอบถามแพทย์ว่าเหตุใดทำหมันแล้วจึงตั้งครรภ์ได้ แพทย์ตอบว่าแม้ทำหมันแล้วแต่ก็ยังมีโอกาส 1 ใน 1,000 ที่จะท้องได้ และบอกว่า หมอช่วยได้แค่ฝากครรภ์และทำคลอดฟรีเท่านั้น หากต้องการอย่างอื่นมากกว่านี้ต้องไปคุยกับแผนกเยียวยาของโรงพยาบาลเองเธอจึงไปหารือกับแผนกเยียวยาของโรงพยาบาล จนสรุปค่าเยียวยาเป็นตัวเลขปากเปล่าที่ 100,000 บาท
แต่ภายหลังคลอดกลับได้รับเงินเพียง 1 หมื่นบาท แต่ไม่มีการรับผิดชอบอื่นๆ แล้ว โดยบอกว่าที่เหลือให้ไปเบิกเอาที่ประกันสังคม ซึ่งทางประกันสังคมจ่ายมา 60,000 บาท และค่าคลอดบุตรอีก 13,000 บาท จึงอยากเรียกร้องให้โรงพยาบาลเยียวยาตามที่เคยรับปากไว้ เพราะตอนนี้ไม่ได้ทำงาน เนื่องจากตอนตั้งท้องหมอบอกว่ามีโอกาสเสี่ยงจึงหยุดทำงานไป
 

 

ก่อนหน้านี้ เว็บไซด์เจาะลึกระบบสุขภาพ ระบุคำให้สัมภาษณ์ของ พญ.ชัญวลี ศรีสุโข โฆษกแพทยสภา ที่เคยกล่าวถึงมติแพทยสภาที่แสดงจุดยืนให้คณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หยุดจ่ายเงินชดเชยความเสียหายจากบริการทางการแพทย์กรณีการตั้งครรภ์หลังจากทำหมันหรือคุมกำเนิดชั่วคราว โดยระบุว่า อยากให้มีการทบทวนเพราะการตั้งครรภ์หลังจากทำหมันหรือคุมกำเนิดชั่วคราวไม่ถือเป็นเหตุสุดวิสัย เนื่องจากไม่มีวิธีการคุมกำเนิดใดๆ ที่ได้ผล 100% นอกจากนี้ฝ่ายกฎหมายของแพทยสภาได้ตรวจสอบข้อกฎระเบียบต่างๆ แล้วคิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง

พญ.ชัญวลี กล่าวถึงคำว่า “สุดวิสัย” แปลว่า เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกะทันหันโดยไม่คาดการณ์ แต่การทำหมันแล้วท้องไม่ใช่เหตุสุดวิสัย เพราะเป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้แล้ว แม้แต่วิธีการทำหมันที่ราชวิทยาลัยสูติฯ แนะนำก็ยังมีโอกาสท้อง 0.2% และงานวิจัยที่มีการรีวิวล่าสุดยังพบว่าเมื่อทำหมันในปีแรกมีโอกาสท้อง 1:1000 แต่ผ่านไป 10 ปีมีโอกาสท้อง 10:1000 หรือ 1% ยิ่งการคุมกำเนิดชั่วคราวด้วยวิธีการฉีดยาคุมก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ถึง 6% ดังนั้นจึงไม่เข้าข่ายคำว่าสุดวิสัยเพราะเป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้ และในกฎหมายก็เขียนนิยามเอาไว้ชัดเจน