- 05 ธ.ค. 2561
ผกก.คันนายาวโต้"พี่คล้าว"ร่วมอัยการปรเมศวร์อ้างตร.ไม่เป็นธรรมคดีควายยิ้ม
สืบเนื่องจากกรณี นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ หรือพี่คล้าว 2018 เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนสน.คันนายาว และเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจหลังตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาคดีฉ้อโกงประชาชนเรี่ยไรเงินบริจาคไถ่ชีวิตเจ้าทองคำ หรือ เจ้าควายยิ้ม ซึ่งโด่งดังอย่างมากมายในโลกโซเชียลนั้น
โดยก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว ได้เปิดเผยความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา นายสุรัตน์ได้มามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนและได้ให้การในรายละเอียดเกี่ยวกับคดีถึงที่มาที่ไป ซึ่งได้มีการประชุมพนักงานสอบสวนเนื่องจากมีประเด็นหลายประเด็นที่ต้องสอบ ประเด็นแรกเรื่องผู้บริจาคเงินทั้งหมด ทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจรายการเคลื่อนไหวเงินในบัญชี และเชิญผู้ที่บริจาคเงินเพราะเหตุใด มีเหตุจูงใจอะไรที่ให้คุณบริจาค และต้องการประสงค์นำเงินคืนหรือไม่ ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหาย 2 รายที่มาร้องทุกข์ และมีผู้ติดต่อสอบถามเข้ามาอีก 2-3 ราย
(พี่คล้าว)
ทั้งนี้คดีฉ้อโกงประชาชน พรบ.ฟอกเงิน และพรบ.คอมพิวเตอร์ เป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้ ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ มีฐานะ 2 ฐานะ คือ ฐานะผู้เสียหายที่ได้บริจาคเงินไป และฐานะผู้กล่าวโทษ ในทุกคดีหากเป็นเรื่องเล็กน้อยที่พอจะพูดคุยกันได้ ทางสน.คันนายาวเปิดโต๊ะเจรจาให้ผู้ได้รับผลกระทบทุกฝ่ายให้เป็นความประสงค์ของแต่ละฝ่ายที่จะพร้อมเจรจากันหรือไม่ หากเจรจาตกลงกันได้และถอนคำร้องทุกข์ไป แต่ในทางคดีอาญาตำรวจก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
(พี่คล้าว)
(พี่คล้าว 2018)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ผกก.คันนายาวแฉเอง "ควายยิ้ม"มีเบื้องหลัง พี่คล้าวโดนจับสร้างกระแสผ่านเพจ ส่งไปทีวีเพิ่มความดัง ก่อนเปิดบัญชีรับบริจาค
ล่าสุด พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก. คันนายาว ได้ออกมาโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับเรื่องราวที่ยังคงเป็นประเด็นไม่จบอยู่ในขณะนี้ เหตุมาจากการที่นายสุรันต์ไปออกรายการรายการหนึ่ง ซึ่งผิดข้อตกลงที่เคนตกลงกันเอาไว้ ระบุข้อความว่า “เรื่องของควายจบ แต่คนยังไม่จบ จากคดีควายทองคำทำให้ผมรู้ว่าพี่น้องประชาชนไม่เข้าใจขั้นตอนการทำงานของพนักงานสอบสวนจำนวนมาก มีช่องสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งได้ประสานจัดรถไปรับส่งนายสุรัตน์ (ที่ถ่ายภาพคู่กับควาย) และประสานจัดหาทนายความให้”
(ผกก. สน.คันนายาว)
“เมื่อพนักงานสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาสอบสวนเสร็จสิ้น ผมได้กำชับนายสุรัตน์ว่าเงื่อนไขการปล่อยตัวไปโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์มาคำ้ประกันนั้นคือห้ามออกไปให้ข่าวรวมทั้งกระทำใดๆในการยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและสถานีโทรทัศน์ช่องดังกล่าวได้โทรเข้ามือถือผม ก็ได้ชี้แจงไปแล้ว ต่อหน้าทนายความปรากฏว่าได้มีการรับตัวไปออกอากาศรายการสดช่วงสุดท้ายหลังจากที่ผู้ร่วมรายการได้โจมตีการทำงานของพนักงานสอบสวนโดยไม่นำเสนอข้อเท็จจริงให้รอบด้าน"
“รายการที่บอกว่าต่างคนต่างคิดแต่นำเสนอฝ่ายเดียวก่อนไปจาก สน.คันนายาว นายสุรัตน์ได้กอดขอบคุณผมที่ให้ความเป็นธรรม หากหลังจากออกรายการผมเรียกนายสุรัตน์ มาพบและนำตัวไปฝากขังเนื่องจากผิดเงื่อนไขนายสุรัตน์ก็คงเดือดร้อน อาจจะหาเงินประกันตัว ทำให้ยุ่งยาก ลำบากขึ้นไปอีก ใครกันแน่ไม่ให้ความเป็นธรรมนายสุรัตน์”
คำพูดนายสุรัตน์ก่อนออกจาก สน.คันนายาว บอกผมว่าเขาเอารถไปรับผม ผมเกรงใจเขานี่คือการต้องการข่าวโดยไม่สนใจว่าจะกระทบกับนายสุรัตน์หรือไม่ คดีนี้ผลการสืบสวนสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น นายสุรัตน์ อาจผิดตามข้อกล่าวหาหรือไม่มีความผิด เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม กระผมจะชี้แจงพี่น้องประชาชนเกี่ยวกับคดีควายทองคำและพร้อมที่จะเจออาจารย์ปรเมศ อินทรชุมนุม บนเวทีสาธารณะทุกเวทีว่าคดีนี้ผมทำผิดขั้นตอนและใช้ดุลพินิจไม่ถูกต้องตรงไหนครับ”
(พี่คล้าว 2018)