คุณแม่ตั้งกระทู้แฉครูอนุบาลสั่งให้พาลูกสาวอายุ 4 ขวบไปย้อมผมสีดำ แถมล้อเรื่องน้าเป็นเพศที่สาม!

บนโลกออนไลน์ขณะนี้กำลังแชร์กระทู้ของคุณแม่ท่านหนึ่งที่โพสต์ด้วยความไม่พอใจเล่าเหตุการณ์ที่ลูกสาววัยเพียง 4 ขวบถูกคุณครูคนหนึ่งสั่งให้ไปย้อมสีผมเนื่องจากลูกสาวมีผมสีน้ำตาล โดยคุณแม่ยืนยันว่าสีผมของลูกสาวเป็นสีธรรมชาติไม่ได้ย้อมผมแต่อย่างใด เรื่องราวบานปลายถึงขั้นต้องเรียกคุยปัญหากันโดยมีผอ.โรงเรียนเป็นผู้ไกล่เกลี่ย สุดท้ายได้รับคำขอโทษแต่คุณแม่ตัดสินใจจะพาลูกสาวย้ายโรงเรียนไปในปีหน้า

 

คุณแม่ซึ่งเป็นสมาชิกเว็บไซต์พันทิปหมายเลข 5016739 ได้โพสต์กระทู้นี้เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมาเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดระบุ

ลูกสาวอายุ 4 ขวบ เรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพ เมื่อวานเราไปรับลูกที่โรงเรียน มีคุณครูเดินมาบอกกับเราว่า " ให้น้องย้อมผมกลับเป็นสีดำด้วยนะคะ ผมสีน้ำตาลมันผิดระเบียบ " คือลูกสาวเราผมสีน้ำตาลอ่อนธรรมชาติ ไม่เคยทำสีมาก่อนค่ะ เอาจริงๆ พ่อแม่ที่ไหนจะให้เด็ก 4 ขวบย้อมผมคะ สารเคมีทั้งนั้น ขนาดลิปสติกเรายังต้องเก็บให้ดี ไม่ให้ลูกเอาไปเล่นได้เลย

 

 

ก็เลยบอกคุณครูไปว่า นี่เป็นสีผมธรรมชาติค่ะ ไม่เคยให้ลูกสาวย้อมผม พยายามอธิบายและเอารูปตอนยังแบเบาะให้ดูด้วยว่านี่สีผมธรรมชาติน้องจริงๆ คุณครูสวนกลับมาว่า "น้องไม่ใช่เด็กลูกครึ่ง เคยเห็นพ่อก็เป็นคนไทยไม่น่าจะผมสีนี้ได้ ยังไงทางโรงเรียนก็ต้องให้น้องทำผมสีดำให้ถูกระเบียบ ถ้าไม่ทำก็ให้คุณแม่พาออกไปเรียนโรงเรียนอินเตอร์ดีกว่าค่ะ ถ้ายังเรียนที่นี่มันเป็นตัวอย่างไม่ดีให้เด็กคนอื่น "

เรานี่โมโหมากเลยค่ะตอนฟังครูคนนี้พูด นางเป็นครูวัยกลางคนที่ความคิดแย่มาก ลบมาก ไม่ฟังเหตุผลและความเป็นจริงใดๆ เอากฎระเบียบและความคิดตัวเองมาอ้างอย่างเดียว อีกอย่างเราคิดว่าคุณครูคนนี้น่าจะตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอกของเราด้วย เราเป็นแม่อายุ 20 ต้นๆแต่งตัวจัด ไม่ได้โป๊นะคะ แต่ชอบแต่งตัวเยอะ และจะมีบางวันที่เราให้น้องที่เป็นสาวประเภทสองไปรับลูก พอลูกกลับบ้านมาบอกว่าอย่าให้น้า (สาวประเภทสอง) ไปรับอีกได้มั้ย โดนครูล้อว่าน้าเป็นตุ๊ด

เราควรให้ลูกออกจากโรงเรียนนี้แล้วย้ายไปเรียนเอกชนแทนดีกว่ามั้ย สังคมและความคิดของครูโรงเรียนเอกชนไม่น่าเลวร้ายเท่าครูโรงเรียนนี้ หรือเราควรเอาเรื่องครูคนนี้ และให้ลูกเรียนที่นี่ต่อดีคะ? คือเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาที่จะออกไปเรียนเอกชน แต่เราคิดว่าเรียนรัฐบาลวิชาการจะแน่นกว่าเอกชน แต่ถ้าสังคมจะเป็นอย่างงี้ เราก็คิดหนักเหมือนกันค่ะตอนนี้

 

หลังจากนั้นไม่นานคุณแม่ก็มาแจ้งความคืบหน้าหลังได้เข้าพบผอ.โรงเรียนและมีการเรียกคุณครูคนนี้มาพบด้วยว่า

UPDATE** เมื่อวานตอนเย็นเราขอพบ ผอ. (ตอนแรกขออัดคลิปไว้เป็นหลักฐานแต่ไม่ได้รับอนุญาต) และได้ให้ครูคนนั้นเข้ามาเคลียร์เรื่องนี้ด้วย ท่าน ผอ. โอเคเข้าใจและคุยดีมาก แต่ครูก็ยังแถต่อไปเพราะความอีโก้เยอะหรืออะไรของนางไม่ทราบ นางบอกว่าก็เคยถามลูกเราว่าทำไมผมถึงเป็นสีนี้ ลูกสาวตอบไปว่าแม่ทำให้ นี่เลยเป็นสาเหตุทำให้นางคิดว่าเราย้อมผมให้ลูก เพราะเด็กวัยนี้ "คงไม่โกหก" 

เราคิดว่านางว่าลูกเราว่าโกหกแล้วตอนพูดคือทำหน้าน่าตบมาก ภาพในหัวเราตอนนั้นคือนางเละคามือเราไปและ แต่ลูกนั่งอยู่ด้วยแม่ต้องใจเย็นและมีสติค่ะ เราบอกว่าคงเป็นการเข้าใจผิดของเด็ก ลูกน่าจะคิดว่าอะไรเกี่ยวกับตัวเค้าคือแม่ทำให้หมด แต่ครูใจแย่มากที่ให้เด็กตัวเท่านี้ไปย้อมผม ไม่คิดว่าน้องจะแสบหรือเป็นอันตรายบ้างหรอคะ หรือเห็นแก่ตัวมากอยากเอาชนะจัดค่ะ 

เราเริ่มอารมณ์ขึ้น ผอ.เลยเบรคและบอกว่าประเด็นนี้ลูกสาวไม่ต้องทำอะไรกับผมแล้ว ผอ.เชื่อว่าเป็นสีธรรมชาติ จบค่ะ! และประเด็นเหยียดเพศ ครูบอกว่าไม่เคยล้อ อาจจะแค่มองเฉยๆเพราะคิดว่าแปลก และเวลาไปรับน้องเราชอบเล่นกับเด็กเสียงดัง ครูก็เลยขำเพราะตลกดี เราเลยบอกว่าถ้าขำที่เล่นกับเด็กน่ะโอเค แต่ถ้าขำเพราะสิ่งที่เค้าเป็นน่ะมันไม่ควร ทุกวันนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้วอย่าใจแคบ และคำพูดที่ครูพูดกลับมาคือ "แล้วถ้าลูกสาวคุณเป็นทอมคุณจะโอเคหรอคะ" เราเลยสวนกลับไปว่าเป็นอะไรก็เป็นไปเรารับได้และสนับสนุนหมด แต่ถ้าลูกเรากลายเป็นคนแบบคุณเราคงรับไม่ได้อ่ะค่ะ //ยิ้มสวยให้หนึ่งที// ผอ.ก็พูดแทรกให้ประนีประนอมกันค่ะ แล้วก็เคลียร์กันสักพัก ไม่มีปัญหาอะไรแล้วค่ะ จบ หมายถึงเรานะคะที่จบกับโรงเรียนนี้ อนุบาล 3 เตรียมย้ายลูกไปเรียนเอกชนดีกว่าค่ะ บัยย

 

 

 

ขอบคุณทุกคอมเม้นที่มาให้กำลังใจและคำแนะนำนะคะ เมื่อกี้คุณครูคนนั้นโทรมาขอโทษเราเรื่องนี้แล้วค่ะ กระทู้นี้ไม่ได้ตั้งขึ้นเพื่อประจารครูหรือโรงเรียนนะคะ แต่คืออยากแชร์ว่ายุคนี้มันก็ยังมีแบบนี้ด้วย สำหรับคนที่แนะนำว่าเราไม่ผิดไม่ควรย้ายลูกไปเรียนที่อื่น อันนี้เราเห็นด้วยนะคะ แต่ลูกเรายังเล็กมากค่ะ เราไม่อยากให้เค้าเจอกับสิ่งที่เรา "คาดว่า" เค้าน่าจะเจอถ้าเราไม่ย้ายเค้าไปเรียนที่ๆคิดว่าน่าจะดีกว่า เพราะการไปโรงเรียนมันคือการที่เด็กออกไปอยู่ข้างนอกด้วยตัวของเค้าเอง ไม่มีพ่อแม่อยู่ข้างๆตลอดเวลาที่เค้าอยู่โรงเรียน ฉะนั้นเราจะไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นในระหว่างวันของลูกเราบ้าง (เช่น โดนว่า, โดนล้อ, หรือโดนเหน็บแนม) นอกจากเค้ามาเล่าให้ฟังหลังเลิกเรียน อีกอย่างการย้ายโรงเรียนตอนยังอยู่อนุบาลน่าจะง่ายสำหรับเด็กในหลายๆอย่าง เรื่องเพื่อน การปรับตัวในโรงเรียนใหม่ เราค่อนข้างคิดเยอะค่ะ คิดในฐานะแม่ แล้วคิดแทนลูกไปอีก 5555 ก็คนเป็นแม่อ่ะเนาะ แล้วเมื่อเช้ากินข้าวกันอยู่ลูกสาวพูดว่าอยากให้แม่ทำผมสีดำให้ ลูกสาวรู้สึกไม่พอใจตัวเองที่มีผมสีน้ำตาล เราสงสารลูกเลยค่ะ เลยต้องให้กำลังใจกันยกใหญ่ สรุป

เย็นนี้คุณพ่อเค้าจะย้อมผมสีน้ำตาลเซอร์ไพร้สลูกสาวว่าขนาดพ่อยังอยากมีผมสีแบบหนูเลย

สำหรับคุณครูค่กรณี เราน้อมรับคำขอโทษและให้อภัยนะคะ คำที่คุณอ้างว่าช่วงนี้มีเรื่องเครียดมากจากครอบครัวเลยทำให้ขาดสติไปในหลายเรื่องๆ เราว่าคุณทำงานมาก็นาน น่าจะมีความ professional มากกว่านี้นะคะ ไม่งั้นก็ควรลาไปสงบจิตสงบใจบ้างก็ดีค่ะ เด็กๆไม่ควรมาเป็นที่รองรับอารมณ์ด้านลบของคุณ เรารู้สึกเห็นใจในสิ่งที่คุณบอกมานะคะ เราไม่ได้กล่าวพาดพิงอะไรถึงตัวคุณใน social ขออนุญาตไม่ลบกระทู้ตามที่ขอนะคะคุณครู

 

อ่านกระทู้เต็มของคุณแม่ สมาชิกหมายเลข 5016739 

 

ขอบคุณ สมาชิกหมายเลข 5016739