- 28 ธ.ค. 2561
"หมอพรทิพย์" ตั้งข้อสังเกตุ"น้องซูลุยผิว"เสียชีวิต ต้องดูครบนิติวิทยาศาสตร์ เด็กเดินไกล5กม.เองได้หรือไม่
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ได้มีการค้นหา ด.ช.ซูลุยผิว อายุ 2 ขวบ ชาวพม่า หลังหายตัวเข้าไปในไร่อ้อย พื้นที่หมู่ 9 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งล่าสุดเข้าสู่วันที่ 9 ของการค้นหา หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 ได้ระดมกำลังเดินปูพรมลาดตระเวนในไร่อ้อย พื้นที่ 1,400 ไร่ พร้อมกับชาวบ้านอาสาในพื้นที่ ที่ให้ความช่วยเหลือ ตามที่ได้มีการนำเสนอไปแล้วนั้น
โดยนายผิวและนางมอ พ่อแม่ของเด็กชาย 2 ขวบ ได้เปิดใจทั้งน้ำตา บอกผ่านล่ามชาวเมียนมาว่า ตอนนี้ครอบครัวยังสงสัยในปมการเสียชีวิตของลูกชาย เนื่องจากไม่คิดว่าลูกจะเดินไปได้ไกลถึง 5 กิโลเมตร เพราะระยะทางไกลมาก และเขายังเด็ก และไม่ทราบว่ามีใครเป็นคนพาลูกไปหรือไม่ นอกจากนี้ยังไม่เชื่อด้วยว่า ลูกชายจะจมน้ำเสียชีวิต แม้จะเจอศพอยู่ข้างร่องน้ำก็ตาม
(แม่ติดใจสาเหตุเสียชีวิต)
ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่าสภาพศพของน้องซูลุยผิว บริเวณขามีลักษณะผิดรูปนั้น เกิดจากสภาพศพที่เน่าเปื่อย ทำให้ข้อต่อตามจุดต่างๆ บิดผิดรูป ซึ่งสรีระข้อต่อของเด็กกับผู้ใหญ่จะต่างกัน คาดว่าเสียชีวิตตั้งแต่ 5-10 วัน มาแล้ว ขอยืนยันว่าการผ่าชันสูตรรอบ 2 นั้น ผลชันสูตรของทางแพทย์ที่ตรวจสอบนั้นเป็นมืออาชีพ แต่หากทางญาติยังคงติดใจสาเหตุการเสียชีวิตอยู่ ก็จะดำเนินการส่งศพให้กับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบอีกครั้งเพื่อความสบายใจของทางญาติและพ่อแม่ของเด็ก
(แถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้)
และในทางการสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดออก เพียงแต่กรณีที่ไม่พบกระดูกแตก หรือ ร่องรอยการถูกทำร้าย ก็ทำให้ประเด็นอุบัติเหตุจากรถไถมีน้ำหนักน้อยลง แต่เรายังเร่งดำเนินการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ชุดสืบได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยที่เป็นชายสติไม่ดี มีพฤติกรรมที่ขี่รถจักรยานผ่านจุดที่น้องเล่นกับเพื่อนวัย 3 ขวบอยู่ ก่อนที่จะหายตัวไป ขณะนี้ก็อยู่ในระหว่างการสอบสวน
(แถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้)
อ่านข่าว : นิติเวชรพ.ตร. ไม่พบบาดแผล บนร่าง "น้องซูลุยผิว" รอตรวจDNAเสื้อผ้าซ้ำ เร่งหาเหตุเสียชีวิต
ล่าสุด นางมอมอลวน แม่ของ ด.ช.ซูลุยผิว พร้อมด้วยนายสง่า สระศรีสม (ผู้ใหญ่บ้าน) นายไพฑูรย์ แก้วบัวดี (กำนันสระพังลาน) และแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ กรรมการปฎิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เปิดใจผ่านรายการโหนกระแสทางช่อง 28 SD
โดยแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานการเสียชีวิต ด.ช.ซูลุยผิวว่า "การรวบรวมพยานหลักฐาน มีทั้งหลักฐานพยานบุคคล หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และข้อมูลต่างๆมาจากการให้คำของแม่รวมถึงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ส่วนพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาตร์ ต้องดูจุดที่พบศพเด็ก ใน 3 ระยะ ทั้งระยะไกล กลาง ใกล้ เพื่อดูให้แน่ชัดว่าระยะทางจากจุดที่เด็กหายตัวไปและจุดที่พบศพนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร และที่สำคัญคือเด็กสามารถเข้าไปยังจุดที่พบศพได้อย่างไร"
(ติดใจสาเหตุน้องเสียชีวิต) ขอบคุณภาพจาก sanook
"ซึ่งสามารถตรวจหลักฐานต่างๆ ได้จากสภาพศพบนตัวเด็กและจากพื้นที่โดยรอบ รวมถึงวัตถุพยานต่างๆที่สามารถนำมาตั้งประเด็นได้หลายประเด็น โดยที่สำคัญก็คือสภาพศพ ของน้อง ที่ต้องหาสาเหตุการตายให้พบ ส่วนการผ่าศพที่มีการระบุว่าขาดอากาศหายใจนั้น เป็นเพียงกลไกการตายเท่านั้น แต่ยังต้องพิสูจน์ให้ลึกอีกว่า อะไรที่เป็นสาเหตุที่ทำให้น้องขาดอากาศหายใจ"
"อีกทั้งยังต้องตรวจสอบพฤติการณ์การตายของน้อง และจำเป็นที่จะต้องวัดระยะทางจากจุดที่เด็กหายตัวไปถึงจุดที่พบศพเด็ก ว่าเด็กเดินไปเองได้หรือไม่ อีกหนึ่งประเด็นคือสถานที่การตาย ต้องสืบให้ทราบว่าเด็กตายที่ไหน หรือตายจากที่อื่นแล้วมีคนนำศพมาทิ้งต้องตรวจสอบให้แน่ชัด"
(ที่พบศพน้อง)
"อีกอย่าง คือประเด็นที่พ่อและแม่เด็กสงสัยว่าถูกกระทำให้ตาย ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือมีใครทำให้น้องตาย ต้องหาคำตอบให้ได้ ซึ่งการส่งศพพิสูจน์ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย เพราะการไม่พบร่องรอยมันไม่สามารถสรุปได้เช่นกันว่า เด็กเสียชีวิตเอง ซึ่งต้องดูลักษณะโดยรอบภายใต้ข้อจำกัดการตรวจพิสูจน์ศพสภาพที่เน่าเปือย และต้องมีการประเมินสภาพบาดแผลด้วยว่าเป็นบาดแผลก่อนเสียชีวิตหรือหลังเสียชีวิต"
แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ได้พูดอีกว่า "ว่าทำไมเจ้าหน้าที่ไม่มีการนำข้อมูลเรื่องระยะมาตรวจสอบในภาพใหญ่ ประเด็นนี้ต้องวัดระยะทางให้ชัดเจน รวมถึงจุดที่พบศพเด็กอยู่ใกล้คูน้ำ จึงจำเป็นต้องประเมินว่าเด็กสามารถเดินไปได้เองหรือไม่ และในเรื่องของสิทธิขั้นพื้นฐานในการรับรู้ข้อมูล พนักงานสอบสวนควรเปิดเผยรายละเอียดต่อญาติ แม้พ่อและแม่ของเด็กจะเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายก็ตาม"
(บริเวณที่เกิดเหตุ)
(น้องที่เสียชีวิต)