คนไข้นิ้วเท้าขาดโมโห ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษา ปรี๊ดแตกต่อยกระจกห้องฉุกเฉินแตกกระจาย(คลิป)

คนไข้นิ้วเท้าขาดโมโห ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษา ปรี๊ดแตกต่อยกระจกห้องฉุกเฉินแตกกระจาย(คลิป)

จากกรณีที่มีผู้ป่วยคนหนึ่ง ได้รับอุบัติเหตุจนทำให้นิ้วเท้าขวาขาดและได้เข้ามาทำการรักษาที่โรงพยาบาลแต่กลับไม่พบจ้าหน้าที่ด้วยความโมโห จึงได้ร้องตะโกนว่าไม่มีใครรักษาให้ ต่อมาได้มีเจ้าหน้าทีเดินออกมาจากด้านหลังห้องฉุกเฉิน 3 คน ทำให้ผู้ป่วยไม่พอใจ ลุกจากวีลแชร์ มาชกประตูกระจกห้องฉุกเฉินจนแตก และหลบหนีไปในที่สุด
 

คนไข้นิ้วเท้าขาดโมโห ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษา ปรี๊ดแตกต่อยกระจกห้องฉุกเฉินแตกกระจาย(คลิป)

(เข็นวิลแชร์เอง)

 

ล่าสุด จากการตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายพีรภัทร อายุ 22 ปี ซึ่งผู้ก่อเหตุได้รับอุบัติเหตุทำให้นิ้วเท้าขวาขาด จึงได้เข้ามาทำการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยเข้าไปด้านในห้องฉุกเฉิน แล้วไม่พบเจ้าหน้าที่ภายในห้องฉุกเฉิน 

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้  จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้ก่อเหตุเดินลงจากรถไปนั่งรถวีลแชร์ของโรงพยาบาล ก่อนที่จะพยายามเข็นรถขึ้นทางลาดขึ้นไปยังหน้าห้องฉุกเฉินเอง ซึ่งอาจทำให้เจ้าตัวไม่พอใจ และเมื่อเข้าไปภายในห้องฉุกเฉิน ผู้ก่อเหตุได้ร้องตะโกนว่า "ไม่มีคนเข็นเลยเหรอ ปัดโธ่คนเจ็บ ไม่มีคนเข็นเลย นิ้วผมขาดมีใครจะทำแผลให้ผมไหมครับ" พอสิ้นเสียงก็มีเจ้าหน้าที่หญิงรายหนึ่งตะโกนตอบกลับด้วยน้ำเสียงดุว่า "มี ทำไมล่ะ" ทำให้ นายพีรภัทรพูดต่อว่า "เดี๋ยวเจอร้องเรียน"

 

คนไข้นิ้วเท้าขาดโมโห ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษา ปรี๊ดแตกต่อยกระจกห้องฉุกเฉินแตกกระจาย(คลิป)

(ภาพกล้องวงจรปิดในห้องฉุกเฉิน)

 

หลังจากนั้นก็ได้มีเจ้าหน้าที่ได้เดินออกมาจากด้านหลังห้องฉุกเฉินจำนวน 3 คน ทำให้ผู้ก่อเหตุโมโหและลุกจากรถวีลแชร์แล้วเดินออกมาชกประตูกระจกห้องฉุกเฉินจนแตก โดยในขณะนั้นเจ้าหน้าที่และแพทย์และพยาบาล เจ้าหน้าที่เวรเปลได้ทำความสะอาดอยู่หลังห้องฉุกเฉิน เพราะเพิ่งรักษาอาการผู้ป่วยก่อนหน้านี้เสร็จ 

คนไข้นิ้วเท้าขาดโมโห ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษา ปรี๊ดแตกต่อยกระจกห้องฉุกเฉินแตกกระจาย(คลิป)

(ภาพกล้องวงจรปิดในห้องฉุกเฉิน เสื้อดำต่อยกระจก)


อย่างไรก็ตาม การที่ผู้ก่อเหตุเข้ามาแล้วไม่พบเจ้าหน้าที่ อาจจะเป็นเหตุทำให้ผู้ป่วยไม่พอใจ และลุกจากรถวีลแชร์แล้วเดินออกมาชกประตูกระจกห้องฉุกเฉินจนแตกดังกล่าว จากนั้นผู้ก่อเกตุได้นั่งรถยนต์ออกจากโรงพยาบาลไป จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องติดตามตัวกลับมาพบพนักงานสอบสวน สภ.ประจันตคาม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ผู้ก่อเหตุไปทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลอื่นก่อน แล้วค่อยนำตัวมาทำการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป