อธิบดีกรมอนามัยแนะ 5 ข้อควรรู้ก่อนกิน "ทุเรียน" เสี่ยงภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ

แม้ว่าทุเรียนจะมีรสชาติที่ถูกอกถูกใจใครหลายๆคน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถบริโภคทุเรียนได้ตามใจชอบ สำหรับใครที่ชื่นชอบกินทุเรียนเป็นชีวิตจิตใจ ต้องอ่านก่อนที่จะบริโภคทุเรียน

 

 

ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง วิตามินซี โพแทสเซียม และกรดอะมิโนซีโรโทเนอร์จิก ทริปโตเฟน และยังเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน อย่างดี ทุเรียนถือเป็นแหล่งไขมันสดที่ดีในอาหารไม่ผ่านความร้อนหลาย ๆ ชนิด นอกจากนี้ทุเรียนยังมีค่าดัชนีน้ำตาลที่สูงหรือเป็นอาหารที่มีไขมันมาก จึงมีการแนะนำให้บริโภคทุเรียนแต่น้อย และทุเรียนยังอุดมไปด้วยกำมะถันและไขมัน หากกินเข้าไป นอกจากจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็วแล้ว ยังทำให้ร้อนในและรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวอีกด้วย

 

 

ทราบหรือไม่ว่า ทุเรียน ถึงจะอร่อยดีมีประโยชน์ แต่หากไม่ถูกวิธีก็เป็นอันตรายต่อชีวิตได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นก่อนทานทุเรียน เรามาอ่าน "5 ข้อควรรู้ก่อนทานทุเรียน" กันก่อนดีกว่า
1. ทุเรียน มีปริมาณน้ำตาลสูงมากอีกเช่นกัน ดังนั้นผู้ป่วยโรคเบาหวานเลี่ยงได้ก็ควรจะเลี่ยง

2. ทุเรียน เป็นผลไม้ที่แคลอรี่สูง เพราะทุเรียน 4-6 เม็ด ให้ปริมาณแคลอรี่ถึง 400 กิโลแคลอรี่ เทียบเท่าน้ำอัดลม 2 กระป๋อง หรือข้าว 1 จานเต็มๆ เพราะฉะนั้นทานเพลินระวังน้ำหนักขึ้น

3. นอกจากผู้ป่วยโรคเบาหวานแล้ว ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวข้องกับความดันโลหิตสูง หัวใจ เส้นเลือด และไขมันในเลือด ควรทานทุเรียนให้น้อยที่สุด

 

 

4. ทุเรียน เป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อน ทานเพียวๆ ก็มีฤทธิ์ร้อนอยู่แล้ว หากทานพร้อมกับแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเหล้า เบียร์ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใดๆ ก็ตาม จะยิ่งทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกายมากขึ้น ร่างกายจะเกิดความร้อนสูง จนถึงขั้นเสียชีวิตได้

5. ในเมื่อทุเรียนให้พลังงานสูง ดังนั้นมื้อใด หรือวันไหนที่ทานทุเรียน ควรหลีกเลี่ยงอาหารอื่นๆ ที่ให้พลังงานสูงด้วยเช่นกัน เช่น อาหารประเภททอด อาหารที่ปรุงด้วยกะทิ อาหารหวานมันอื่นๆ หรือลองลดปริมาณอาหารลงส่วนหนึ่งในมื้อถัดไป ถ้าเป็นไปได้ควรออกกำลังกายเพิ่มด้วย เพื่อเผาผลาญพลังงานที่ได้รับเพิ่มเข้าไป

 

 

โดยอธิบดีกรมอนามัย นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ บอกว่า ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไต เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และหลอดเลือดหัวใจตีบ ต้องระมัดระวังการกินทุเรียน ไม่ให้เกิน 1 เม็ดเล็กต่อวัน เนื่องจากในทุเรียนมีแป้งและน้ำตาลสูง หากกินมากเกินอาจส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข , สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข