- 01 ม.ค. 2562
กับนักการเมืองวัยกระเกาะที่ตบะบารมียังไม่แก่กล้า...ริอาจเห่อเหิมงัดกับผู้สื่อข่าวเจนจัดมากประสบการณ์...ผลบั้นปลายก็ไม่เกินคาดเดาว่าท้ายสุดแล้วใครจะเป็นฝ่ายถือแต้มต้อ...และใครจะเป็นฝ่ายปราชัย กับกรณีของ "โอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร กับ "แปปซี่" เสริมสุข กษิติประดิษฐ์
กับนักการเมืองวัยกระเตาะที่ตบะบารมียังไม่แก่กล้า...ริอาจเห่อเหิมฉะกับผู้สื่อข่าวเจนจัดมากประสบการณ์...ผลบั้นปลายก็ไม่เกินคาดเดาว่าท้ายสุดแล้วใครจะเป็นฝ่ายถือแต้มต่อ...และใครจะเป็นฝ่ายปราชัย กับกรณีของ "โอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร กับ "แปปซี่" เสริมสุข กษิติประดิษฐ์
ระฆังเริ่มลั่นที่ฝ่าย "แปปซี่" เปิดหมัดแรกด้วยการฟันธงว่ามีสายข่าวยืนยันว่า "โอ๊ค" เผ่นหนี "คดีฟอกเงินกรุงไทย" ออกทางช่องทางธรรมชาติไปเสียแล้ว...จนฝ่าย "โอ๊ค" ต้องออกมาโต้กลับ ผ่านการโพสต์รูปตนพร้อมระบุความว่า "หาทางออก" เรียกเสียงเฮจากฝั่งที่เทิดทูนตนได้มากพอดู ประหนึ่งช่วยกันยืนยันว่า "โอ๊ค" นั้น ไม่ได้เผ่นอ้าวตามผู้เป็นบิดา-อาหญิง ดังที่หลายคนเข้าใจกันไปเอง
แต่แรกก็ดูว่าทาง "โอ๊ค" จะจิตใจรุกรบพร้อมรับแรงปะทะดีอยู่หรอก...ถึงแม้ตอนนี้จะเงียบหายไป อาจด้วยเพราะรวมรวบข้อมูลหรือจะพักผ่อนช่วงหยุดยาวก็สุดแล้วแต่จะคิด หากแต่ประเด็นก่อนหน้าที่ "โอ๊ค" พยายามจะนำมาคัคง้างหวังสวนหมัด "แปปซี่" กลับเป็นการ "ขว้างงูไม่พ้นคอ" เมื่อการหยิกยกข่าวรันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิร้าวมาหวังดิสเครดิต "แปปซี่" ที่เคยตกเป็นจำเลยแต่คดีก็เป็นอันสิ้นสุดผ่านกระบวนการทางกฏหมายที่ "ยุติธรรม" นั้น ได้จุดประกายให้สังคมได้ระลึกถึงการโกงมโหฬาร...ราวกับจะเป็นการขุดคุ้ยแผลเก่าที่ไม่มีวันสมานคืน หากความผิดไม่ได้รับการชำระสะสาง
ก็เป็นอันรู้กันดีว่า สนามบินสุวรรณภูมิ นั้นมีมุมมืดที่ไม่มีใครปรารถนาจะกล่าวถึง เพราะกว่าจะเป็นสนามบินที่เชิดหน้าชูตาคนในประเทศได้แล้วนั้น...ครั้งหนึ่งในรัฐบาลบาลนายทักษิณ ชินวัตร ที่แห่งนี้เคยถูกย่ำยี จากการทุจริตคอรัปชั่น จนทางท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ต้องวางแผนบูรณะขนานใหญ่ทั้งการซ่อมแซมรันเวย์เจ้ากรรม และแท็กซี่เวย์รวมทั้งสิ้น 700,000 ตารางเมตร ด้วยงบประมาณ 2,500 ล้านบาท เพื่อเป็นการ "ตามล้างตามเช็ด" กับความผิดที่บุคคลไม่พึงประสงค์ได้ก่อไว้โดยไร้ซึ่งความรับผิดชอบ
ทั้งหมดทั้งมวล...เป็นผลพวงมาจากปัญหาในหลายโครงการที่ไม่ได้ดำเนินการให้สัมฤทธิ์ผลอย่างเป็นรูปธรรม จากพฤติการณ์ "หักหัวคิว" ของนายทักษิณ และเครือญาติ จนท้ายสุดรัฐบาลนายทักษิณ ถึงกับต้องปรับ ครม. เพื่อหลบเลี่ยงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ก็ยากยิ่งที่จะหนีพ้นบ่วงกรรมที่ก่อ เมื่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ได้สั่งตรวจสอบโครงการที่ส่อพิรุธประกอบไปด้วย
โครงการถมทรายรันเวย์ตะวันออก มูลค่า 1,500 ล้านบาท-โครงการติดตั้งระบบสารสนเทศด่านตรวจคนเข้าเมือง 169 ล้านบาท ,โครงการวางท่อร้อยสายไฟอาคารผู้โดยสาร 2,000 ล้านบาท ,โครงการครัวการบิน (การบินไทย) ผลตอบแทน 116 ล้านบาท ,โครงการคาร์โก 400 ล้านบาท -โครงการบริการอุปกรณ์บริการภาคพื้นและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการซ่อมบำรุง ,ตรวจสอบการให้คิงเพาเวอร์ได้รับการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ในอาคารผู้โดยสาร
เท่านี้ก็ประจักษ์แจ้งเพียงพอแล้วว่า...ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นได้ฝังรากลึกอยู่ในรัฐบาลของนายทักษิณจนเกินแก้ ซ้ำร้ายยังทิ้ง "มรดกบาป" ให้ดูต่างหน้า...ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมองกลับมาที่ "โอ๊ค" ก็ชวนอดสูยิ่งกว่า เพราะคงไม่มีอภิชาตบุตรที่ไหน ขุดคุ้ยความผิดของผู้เป็นบิดาตัวเองมาให้สังคมได้กลับมาลือกันให้สนั่น
หากอย่างน้อยที่สุดแม้นว่ารอยร้าวบนรันเวย์จะได้รับการซ่อมแซมในเร็ววันนี้ แต่ภาพถ่ายของ "แปปซี่" ที่ "โอ๊ค" ทำการโพสต์ไว้นั้น ก็ประหนึ่งเป็นหลักฐานแห่งความอัปยศ แล ตราบาป...ดุจเสียงกู่ก้องร้องแผดให้ชั่วลูกชั่วหลานได้ประฌาม...ถึงใครก็ตามที่ทำ "งามหน้า" ไว้สมัยครั้งเมื่อตนเป็นรัฐบาล แล้วแท้จริงแล้วใครกันที่ต้องเอ่ยปากขอโทษประเทศไทย ดังที่ "โอ๊ค" ได้ปรารภไว้ ?