"หญิงหน่อย" ยัน เบอร์ 1 เก้าอี้นายกฯ ไม่เปลี่ยน "ชัชชาติ" เบอร์ 3? "ดีลไม่ลงตัว" หรือ "ละครลิง" ฉากใหญ่

 

ต่อให้ชักแม่น้ำทั้งห้าสายมาสาธยาย...หรือจะควานหาโพลล์ทั้งหลายแหล่มากางแผ่ตรงหน้า ก็ชวนให้คล้อยตามไม่น้อยว่า หนึ่งอิสตรีที่ถูกอุปโลกน์ยกเมฆให้เป็นแคนดิเดตนายกฯหญิงคนต่อไป ในโมงยามนี้จะเป็นใครเสียมิได้นอกจาก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย

หากอนาคต...ก็ยังเป็นอนาคตอยู่วันยังค่ำ เพราะหนทางที่จะชักนำพาคุณหญิงสุดารัตน์ไปสู่เก้าอี้นายกฯนั้น มิอาจเป็นไปได้โดยสะดวกดายนัก ด้วยคู่ขับเคี่ยวที่รายล้อมรอบกายทั้ง "บิ๊กตู่" และนายอภิสิทธิ์...ยังไม่รวมอีกหลากหลายพรรค ที่ขยันขันแข็งเร่งมือเข็นนโนบายชวนฝัน ซึ่งก็คงต้องไปว่ากันอีกทีถึง "ความเป็นไปได้" แต่อีกใจประชาชนตาดำๆต่างก็กลัวว่าจะเป็น "ผักชีโรยหน้า" อย่างที่เคยมีมาแล้วในอดีต

 

เกมการเมืองที่สลับซับซ้อนและซ่อนเงื่อน...หากคุณหญิงสุดารัตน์และพลพรรคเพื่อไทยปรารถนาจะไปให้ถึงฝั่งฝัน ก็ต้องงัดแงะกลยุทธ์มาฟาดฟันกันให้รู้ดำรู้แดงกันไปข้างเป็นธรรมดา แต่กลับชวนฉงนตรงที่ว่า จนจะเข้าสู่โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งอยู่ชั่วอึดใจนี้แล้ว เหตุไฉนแทนที่จะผ่อนปรนความเร็วอย่างค่อยเป็นค่อยไป...กลับทะลึ่งพรวดเลี้ยวหักศอกจนคอการเมืองและกองอวยตลอดจนแม่ยกพรรคฯ ตั้งตัวแทบไม่ติด กับเสียงลือให้แซ่ดว่าจะมีการเปลี่ยนตัวผู้นำทัพ จาก คุณหญิงสุดารัตน์ มาเป็น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์?

 

(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "เสริมสุข" ตั้งข้อสังเกต...ปมพาสปอร์ตปลอม "ยิ่งลักษณ์" งานนี้อาจมี "มือที่มองไม่เห็น" อยู่เบื้องหลัง!)

"ทุบหม้อข้าวตัวเอง" คือความคิดแว่บแรกของใครหลายคนต่อข่าวลือดังกล่าว...เป็นไปได้หรือที่คุณหญิงสุดารัตน์จะสละโอกาสครองเก้าอี้นายกฯให้ นายชัชชาติ หากคำตอบอยู่ที่โพลล์เมื่อไม่นานมานี้ ที่ระบุชี้ชัดว่า พรรคเพื่อไทยอาจจะได้ที่นั่ง ส.ส. ราว 190-200 ที่นั่ง แต่หากจัดกระบวนทัพวางตำแหน่งใหม่ สลับเป็นนายชัชชาติ จะสามารถครองเก้าอี้ได้ถึง 220 ที่นั่ง

 

    

จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ...มองในแง่กลยุทธ์ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ในอีกมุมหนึ่งจะเห็นได้ว่าพฤติกรรมของนายชัชชาติแต่หนหลังมานี้ แทบจะเรียกได้ว่า "เทหมดหน้าตัก" เตรียมพร้อมลุยดาดสู่สนามการเมืองเต็มตัว ตั้งแต่การออกจากตำแหน่งงานประจำ ปรากฏตัวในหน้าม่านมากขึ้นกอปรกับคาแรคเตอร์ที่ได้รับความนิยมพอควรเป็นทุนอยู่ก่อนแล้ว...จึงเป็นไปได้ว่ากุนซือของพรรคเพื่อไทยหยิบยกประเด็นเหล่านี้มาสร้างโอกาส ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าทำอย่างไรก็ได้ให้พรรคเพื่อไทยชนะ...อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง?

ในแง่ความสัมพันธ์ของคุณหญิงสุดารัตน์กับนายชัชชาติ ก็ดูจะแน่นแฟ้นกลมเลียวกันในระดับที่พอจะเจรจาให้ผลลัพธ์ออกมาแบบ "บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น" หากเป้าประสงค์ของทั้งคู่คือชัยชนะของพรรคเพื่อไทย ตรงข้ามกับ คุณหญิงสุดารัตน์และร.ต.อ.เฉลิม ที่ต้องต้องละไว้ในฐานที่เข้าใจ ซึ่งประชาชนที่สนับสนุนเทใจให้พรรคต่างก็เฝ้ารอวันที่จะได้เข้าคูหากากบาทเลือกนายชัชชาติ ให้เป็นนายกฯ...

 

(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "วีระกานต์"อยู่ที่ไหนตอน "เสี่ยเปี๋ยง"โกงข้าว(จำนำ) ถึงกล้าประกาศจะทวงความเป็นธรรม อ้าง "ยิ่งลักษณ์"ถูกผู้มีอำนาจตบโต๊ะสั่งเอาผิด!)

 

แต่ยังไม่ทันกระไร...เพียงชั่วข้ามคืนลืมตาตื่นฝันก็สลาย เพราะล่าสุดทางพรรคเพื่อไทยออกมาแถลงสยบทุกข่าวลือ ว่า จะส่งชื่อคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีลำดับแรก ส่วนลำดับที่ 2 และ 3 จะเป็น พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม ตามลำดับ โดยพรรคจะเสนอชื่อผู้ที่จะเป็นนายกฯทันที หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดวันให้เสนอชื่อได้...พร้อมให้เหตุผลว่าเรื่องทั้งหมดเป็นการปล่อยข่าวเพื่อให้เกิดความขัดแย้ง?
    

สับสนงุนงง...กันไปอีก เพราะพินิจตามเหตุผลที่ทางพรรคให้มานั้น การสลับตำแหน่งก็ไม่ได้สลักสำคัญถึงขนาดว่าจะก่อให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคอย่างไรได้ หากในพรรคมีความสมัครสมานสามัคคีและมีอุดมการณ์ร่วมกันจริง...หรือจะเป็นไปได้ว่ามีสาเหตุมาจากการ "ดีลไม่ลงตัว" ด้านผลประโยชน์ทับซ้อน

ก็ขอให้เป็นเช่นนั้นยังดีกว่า เพราะคงไม่มีนักการเมืองที่ไหนกล้าทำประหนึ่งประชาชนเขลาเบาปัญญาด้วยการจัดฉาก "ละครลิง" หลอกให้เก้อละค่อยมาดีบัฟข่าวลือกันทีหลัง...จริงไหม?