- 14 ม.ค. 2562
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 มกราคม 62 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง"พรรคเพื่อไทย" ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยถูกห้ามให้พื้นที่ปราศรัยที่ จ.พะเยา ว่า ที่ผ่านมาเพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ ทางราชการจะให้ใช้สถานที่ราชการทุกครั้ง
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 มกราคม 62 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง"พรรคเพื่อไทย" ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยถูกห้ามให้พื้นที่ปราศรัยที่ จ.พะเยา ว่า ที่ผ่านมาเพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ ทางราชการจะให้ใช้สถานที่ราชการทุกครั้ง เช่น สนามหลวง หรือสนามกีฬาของจังหวัดต่างๆ และเมื่อไม่นานนี้พรรคของฝ่ายราชการก็ใช้สนามกีฬา 700 ของ จ.เชียงใหม่ และใน จ.พะเยา เอง มีการใช้สถานที่ราชการถึง 2 ครั้ง จึงเรียกร้องความชัดเจนจากผู้มีอำนาจ ว่าสรุปแล้วการไม่ให้ใช้สถานที่ราชการนั้น เป็นการไม่ให้ใช้แค่บางพรรค หรือไม่ให้ใช้ทุกพรรค และหากไม่ให้ใช้ทุกพรรค เหตุใดที่ผ่านมาจึงมีบางพรรคการเมืองใช้ได้ แต่บางพรรคใช้ไม่ได้ เรื่องแบบนี้จะมีมาตรฐานและจัดการอย่างไร เหตุใดจึงแตกต่างจากที่พรรคที่สนับสนุนรัฐบาล คสช..
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยได้รับหนังสืออนุญาตจากทางราชการจนไปตั้งเวทีแล้ว แต่อยู่ๆ ก็มีการแจ้งยกเลิกตอนประมาณ 22.00 น.ซึ่งเรานัดหมายประชาชนได้เวลา 09.00 น.เราไม่สามารถไปยกเลิกคนหลายพันคนได้ทัน ทั้งนี้ เราไม่อยากให้ข้าราชการเดือดร้อน เพราะรู้ว่าเขาถูกบังคับมาจากข้าราชการผู้ใหญ่ ที่โทรมาคุยกับตนว่าได้รับคำสั่งจากผู้ใหญ่ใน กทม.ว่าอย่าให้มีการปราศรัยเกิดขึ้นเด็ดขาด เราจึงไม่เข้าไปในสถานที่ซึ่งเขาห้าม แล้วเปลี่ยนมาใช้รถเครื่องเสียงขนาดเล็กแทน พร้อมขออนุญาตพูดคุยกับประชาชน ดูแลมันเป็นการเลือกตั้งที่ไม่แฟร์
อีกทั้ง "คุณหญิงสุดารัตน์" ยังกล่าวอีกว่า "ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นในส่วนของเวที เครื่องเสียงต่างๆ ตัวผู้สมัครอาจจะดำเนินการฟ้องร้อง เพราะเขาได้รับหนังสืออนุญาตอย่างเป็นทางการ เขาก็ไปลงทุน ลงแรง สร้างเวทีและกางเต็นท์เรียบร้อยแล้ว โดยจะเป็นการฟ้องไปที่หน่วยงานก่อน แล้วหน่วยงานที่ได้รับคำสั่งที่ไม่ชอบมาก็ต้องแก้ต่าง จึงขอความชัดเจน เพื่อต่อไปจะปฎิบัติให้มีมาตรฐาน เราจะได้ทำถูก เพราะเราก็ไม่รู้ว่าจะปรับแผนอย่างไร เพราะเราทำถูกต้องตามกฎหมายแล้ว"
นอกจากนี้ เมื่อถามว่า จะบอกอย่างไรว่าพรรคไม่ต้องการเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในลักษณะที่มาแอบติดตาม "คุณหญิงสุดารัตน์" เผยว่า หากเป็นเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร หรือเจ้าหน้าที่ที่ใส่เครื่องแบบ เขามาช่วยดูแลเรา ตนจะเดินไปขอบคุณเขาทุกครั้งที่มาช่วยดูแลเราและประชาชนจำนวนมาก แต่กรณีที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาพักใหญ่แล้ว ก่อนจะมาเกิดขึ้นอีกที่ จ.เชียงราย ซึ่งมีชายฉกรรจ์ซึ่งไม่ปรากฏสังกัด เดินตามพวกเราจำนวนมากไม่ใช่เพียงคนสองคน พร้อมกับเดินไปถ่ายภาพไปทุกจุด เราก็ต้องถามว่า เขาเป็นใคร เพราะคนที่มาตามเรา ก็ไม่ได้มีมากมาย เลขาฯ ส่วนตัวของตนก็เป็นผู้หญิง การที่หน่วยงานราชการจะส่งคนมาอารักขาเป็นเรื่องที่ต้องขอบคุณ แม้ว่าเราจะไม่ได้ขอ แต่ถ้าจะให้ดี กรุณาขอให้ใส่เครื่องแบบแสดงตัวให้ชัดเจน ไม่ใช่มาแบบที่เราเป็นโจร เป็นผู้ร้าย หรือมาสะกดรอยตามเราแบบนี้"
ต่อกรณีดังกล่าว บนเฟสบุ๊ก "Sermsuk Kasitipradit" ซึ่งเป็นของ ผู้สื่อข่าวอาวุธโสสายทหาร กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า "เจ๊หน่อยตีปี๊ปโดนกลั่นแกล้งเรียกคะแนนสงสาร ดูข่าวเจ๊หน่อย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์โดนการเมืองระดับชาติกลั่นแกล้งไม่ให้ใช้พื้นที่สนามกีฬาของ อบจ.จังหวัดพะเยา พบปะประชาชนพะเยา ในวันที่ 10 ม.ค. ฟังคำให้สัมภาษณ์ของเจ๊หน่อยแล้วงง เพราะนายกอบจ.พะเยา นาย วรวิทย์ บุรณศิริ คือคนของไทยรักไทยโดยตรง ไม่ใช่คนของพรรคพลังประชารัฐ นายวรวิทย์ เป็นน้องชายแท้ๆของนายวิทยา บุรณศิริ อดีตรมว.สาธารณสุข พรรคเพื่อไทย นายกอบจ.พะเยา อนุญาตให้พรรคเพื่อไทยใช้สถานที่ของอบจ.พบปะประชาชนได้ก่อนหน้่านี้
ต่อมายกเลิกคำสั่งในวันที่ 9 ม.ค. ก่อนวันงานหนึ่งวัน สนามเลือกตั้งพะเยา จะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดเข้มข้น ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพลังประชารัฐ หลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้กองนัส กรรมการยุทธศาสตร์เลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเคยเป็นกำลังสำคัญของพรรคเพื่อไทย ลงสนามเลือกตั้งในเขต 1 ด้วยตัวเอง มั่นใจงานการเมืองที่ทำในพท.ตลอดช่วงที่ผ่านมาจะสามารถปักธงพรรคพลังประชารัฐในจังหวัดพะเยา ที่พรรคไทยรักไทยกวาดยกส.ส.ในสามเขตมาตั้งแต่ปี 2544 2548 2550 และ 2554 นายทหารในกองทัพภาคที่สาม ซึ่งทำงานในจังหวัดพะเยายอมรับถึงงานมวลชนของผู้กองนัส ลงถึงระดับรากหญ้า มีฐานคะแนนเสียงค่อนข้างมาก “เขต1 มนัส ได้รับเลือกตั้งแน่นอน ส่วนอีกสองเขตยังก้ำกึ่ง การเลือกตั้งครั้งใหม่โอกาสที่เพื่อไทยจะชนะยกจังหวัดเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย"
ดูเหมือนว่าทางโอ๊ค พานทองแท้ จะออกมาขานรับต่อความเคลื่อนไหวดังกล่าว ด้วยเพราะทั้งสอง "เสริมสุข" และ "โอ๊ค" ได้โต้ตอบ ด้วยเพราะเป็นเสมือน "ไม้เบื่อไม้เมา" กันและกันนับแต่ข่าวคราวการหลบหนีออกทางช่องทางธรรมชาติของโอ๊ค ด้วยโพสต์ระบุความว่า วันก่อนห้าม "พรรคเพื่อไทย" ใช้พื้นที่หาเสียง วันนี้เวลคัมอีกพรรค เชิญได้เต็มที่เลย..!! 2วัน2มาตรฐาน จาก "หลังตีน" กลายเป็น "หน้ามือ" เลือกตั้งครั้งนี้จึงไม่เหมือนทุกครั้งทั่วไป มันคือการแข่งขันระหว่าง "พลังประชาชน" กับ "พลังอำนาจรัฐ" ใครอยู่-ใครไป วันหย่อนบัตรรู้กัน..!!
ร้อนไปถึง "เสริมสุข" ที่ออกมาโต้กลับชนิดถึงลูกถึงคน ความว่า จะประจานตัวเองไปถึงไหนกัน...
โอ๊ค พานมองแท้ทวีตตามข้อความที่แปะให้อ่าน อ่านแล้วงกับข้อความที่เขียน...
เจ๊หน่อย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ออกข่าวถูกห้ามปราศรัยพบปชช.ในสนามกีฬาของอบจ.พะเยาในเขตเมือง หลังอบจ.พะเยาออกหนังสือยกเลิกการใช้สถานที่เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ก่อนวันงานหนึ่งวัน
ข้อเท็จจริงที่สังคมภายนอกไม่รับรู้เลย นายกอบจ.นายวรวิทย์ บุรณศิริ คือคนของพรรคเพื่อไทย น้องชายนายวิทยา อดีตรม.สาธารณสุข คือแกนนำคนสำคัญของเพื่อไทยในจว.อยุธยา การอนุมัติและการยกเลิกการใช้สถานที่ เป็นเรื่องของนายกอบจ.พะเยา โดยตรง เป็นคนของพรรคการเมือง..
ในวันเดียวกันที่เจ๊หน่อยเดินสายพบปชช.ที่พะเยา พรรคพลังประชารัฐ โดยผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งเคยเป็นกำลังสำคัญของเพื่อไทยในพท.ภาคเหนือตอนบน ซึ่งในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้น ได้มาร่วมงานการเมืองกับพลังประชารัฐ และลงสมัครสส.พะเยาในเขตเมือง จัดพบปชช.เช่นกันที่วิทยาลัยเทคโนโลยี่วงศ์กาญจนา อ.ดอกคำใต้ เป็นสถานที่ของเอกชนไม่เกี่ยวกับหน่วยงานรัฐ
ทวีตข้อความอย่างที่เห็น ควรต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หรือถนัดบิดเบือนข่าวสารสร้างความสับสน หากนายกอบจ.เป็นคนของรัฐบาลก็อีกเรื่อง นีาพวกเดียวกันทั้งน้านนน