- 17 ม.ค. 2562
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง" รองนายกรัฐมนตรี เผย เตียมเพิ่มเงินนำจับคนร้าย ก่อเหตุฆาตกรรมสาวญี่ปุ่น ที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เป็น 2 ล้านบาท ลั่น รัฐบาลไทยไม่ทิ้งคดี ฝากถึงประชาชนพบเบาะแสคนร้ายแจ้งตำรวจด่วน!!
วันที่ 17 มกราคม 61 ที่ทำเนียบรัฐบาล "นายชิโร ซะโดะชิมะ" เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย นำพ่อแม่ของ "น.ส.โทโมโกะ คาวาชิตะ" สาวชาวญี่ปุ่น ที่ถูกฆาตกรรมภายในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จ.สุโขทัย เข้าพบ "พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง" รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม เพื่อติดตามความคืบหน้าการจับกุมคนร้ายที่ฆาตกรรม "น.ส.โทโมโกะ" โดยภายหลังการพูดคุย "พล.อ.อ.ประจิน" เปิดเผยว่า "พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ตนมาต้อนรับและพูดคุยเพื่อแสดงความมั่นใจว่ารัฐบาลไทยจะไม่ทิ้งและติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด โดยทางการไทยรับปากที่จะดำเนินการเพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์ให้มีการแจ้งเบาะแสตามที่บิดาของผู้เสียชีวิตต้องการเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ "รองนายกฯ" ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนั้น ทางไทยจะเพิ่มเงินรางวัลแจ้งเบาะแสเพื่อนำไปสู่การจับกุมจากจำนวน 1.6 ล้านบาท ที่จะมาจากตำรวจท้องที่ 1 แสนบาท สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) 5 แสนบาท กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) 1 ล้านบาท รวม 1.6 ล้านบาท และทางดีเอสไอจะหารือกันที่จะเพิ่มวงเงินอีก 4 แสนบาท รวมทั้งหมดเป็นเงิน 2 ล้านบาท เพื่อให้มีการแจ้งเบาะแส มากขึ้น
"ยืนยันว่าเรามีมาตการในการดูแลนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้เกิดความสะดวกสบายและปลอดภัย เพราะนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญมาก ซึ่งรัฐบาลจะดูแลให้ดีที่สุด พร้อมกับนำข้อห่วงใยมาปรับปรุงแก้ไข ซึ่งจากบทเรียนที่ผ่านมาไทยมีมาตรการอย่างเป็นระบบ ส่วนเรื่องความคืบหน้าของคดีจะแจ้งผ่านทางเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยต่อไป โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเป็นผู้ประสานงานหลักในการแจ้งข้อมูล ขณะที่ดีเอสไอจะเป็นผู้ประสานด้านเทคนิค"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคดีดังกล่าวเกิดขึ้นมานานแล้ว การติดตามตัวคนร้าย จะยากขึ้นหรือไม่? "พล.อ.อ.ประจิน" ตอบว่า "ที่ผ่านมาเราตรวจสอบดีเอ็นเอที่พบจากขอบกางเกงของผู้ที่เสียชีวิตและได้ตรวจดีเอ็นเอผู้เกี่ยวข้องไปประมาณ 300 ราย แต่ยังไม่พบและหวังว่ามาตรการเพิ่มรางวัลจากการแจ้งเบาะแส จะทำให้มีคนแจ้งเบาะแสเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ด้าน "นายยาสุอากิ" บิดาของ "น.ส.โทโมโกะ" นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เสียชีวิต ระบุว่า ขอฝากเรื่องกำหนดอายุความของคดีดังกล่าวด้วย เนื่องจากในญี่ปุ่นไม่มีเรื่องกำหนดอายุความ แต่ในประเทศไทยมี ซึ่งผ่านมา 12 ปีแล้ว เหลืออีก 8 ปีเท่านั้น พร้อมฝากสื่อให้ช่วยประชาสัมพันธ์เพื่อให้ทราบว่ามีการเพิ่มเงินรางวัลในการแจ้งเบาะแสเป็น 2 ล้านบาทแล้ว เพื่อเพิ่มแรงจูงใจในการแจ้งเบาะแส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เจอตัวแล้ว !! โชเฟอร์แท็กซี่ โดนด่าหนักทิ้งผู้โดยสาร สาวญี่ปุ่นข้างทาง แต่เรื่องกลับพลิก