- 22 ม.ค. 2562
"บอย-เจี๊ยบ" ซึ้งใจอุทาหรณ์ติดหนี้ 48 ล้าน ทำแฟนหลายคู่ที่เลิกกันกลับมาสู้ชีวิต
ใกล้ถึงวันวิวาห์เข้ามาทุกทีแล้ว สำหรับคู่ของ บอย-อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี หรือ บอย พีซเมคเกอร์ กับแฟนสาว เจี๊ยบ-พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์ ที่จะเข้าพิธีสมรสในวันที่ 25 ม.ค.2562 นี้ ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงเส้นทางความรักที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ซ้ำเจอมรสมุใหญ่สุดๆ ในชีวิต ที่ต้องเลื่อนงานวิวาห์ออกไปก่อน จนได้มาจัดในปี 2562 นี้ ผ่านทางรายการ Club Friday Show ช่อง GMM 25 เพราะร้านอาหารไฟไหม้ จึงต้องหาเงินใช้หนี้ 48-50 ล้านบาท แต่ก็สู้มาด้วยกัน ไม่เคยจะทิ้งกัน
ล่าสุดคู่ "บอย-เจี๊ยบ" ได้เปิดใจขอบคุณแฟนคลับ ที่เข้ามาให้กำลังใจ หลังจากเล่าเรื่องราวสู้ชีวิตด้วยกัน กับหนี้ก้อนโต
เหลือเวลาอีกไม่เท่าไหร่ก็จะถึงวันวิวาห์ของเราสองคนแล้ว ?
บอย : "ครับผม แต่จริงๆ ก็คงไม่สามารถพูดได้ว่าพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์หรอกครับ เพราะทุกวันนี้เราก็ยังต้องคุยกับทีมงานอยู่"
เจี๊ยบ: "อย่างที่คุณบอยบอกก็ยังไม่มีอะไรพร้อมเต็มที่หรอก ยกเว้นก็แค่เรื่องชุดกับอาหารที่เราพอจะคาดการณ์เอาไว้บ้าง แต่เรื่องความกังวลมันก็ยังมีอยู่ดี โดยเฉพาะเรื่องอาหารเพราะกลัวว่าจะไม่พอกับจำนวนคนที่มาร่วมงาน รวมถึงกลัวด้วยว่าจะดูแลแขกได้ไม่ดีเท่าที่ควร "
เราสองคนตื่นเต้นมากน้อยแค่ไหนกับงานที่กำลังจะเกิดขึ้น ?
บอย : "ตอนนี้ความตื่นเต้นมันมีน้อยกว่าความกังวลครับ "
เจี๊ยบ :"เอาจริงๆ นะช่วงแรกเจี๊ยบก็ไม่ค่อยตื่นเต้นสักเท่าไหร่หรอก แต่ยิ่งพอใกล้เข้าวันแต่งงาน เราก็เริ่มมีการพูดคุยกันบ้างค่ะ"
เห็นว่า เดวิด เบ็คแฮม อวยพรงานแต่งให้คู่เราด้วย ?
บอย : "เรื่องของเรื่องก็คือว่าผมกับเจี๊ยบได้มีโอกาสไปร่วมงานที่เขาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ผมก็เลยหาโอกาสที่จะนำการ์ดงานแต่งงานของเราไปให้เขาเซ็น แต่ว่าสุดท้ายมันก็ไม่ทัน ผมก็เลยคิดว่าลองนำไปฝากให้กับพี่ๆ ที่บริษัทดูว่าเขาจะสามารถฝากไปให้เซ็นได้หรือเปล่า ซึ่งเขาก็ใจดีฝากไปให้"
เจี๊ยบ : "เจี๊ยบคิดว่าเขาคงรู้นะคะว่าเป็นการ์ดงานแต่งงาน ซึ่งเรื่องใส่ซองเราสองคนไม่ได้คาดหวังอยู่แล้ว เราอยากได้แค่ลายเซ็นของเขาค่ะ และถือว่าที่ได้มาตอนนี้ก็ดีใจมากแล้ว เป็นของขวัญวันแต่งงานของเราสองคน"
เห็นเราสองคนไปออกรายการแล้วพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับหนี้สิน แฟนๆ ก็เข้าไปให้กำลังใจกันเยอะ ?
บอย : "ขอบคุณมากครับ เพราะมีกำลังใจส่งให้เราสองคนอย่างล้นหลาม อีกทั้งเรื่องของเราสองคนก็ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดูแลความรัก หรือการที่เราจับมือกันสู้กับปัญหา เรารู้สึกดีใจมากๆ ที่เรื่องของเราสองคนได้เป็นอุทาหรณ์ให้กับคนอื่นๆ"
บอย : "ซึ่งบางข้อความที่เขาเขียนส่งมาหาเรา เราเองพอได้อ่านก็น้ำตาไหล เพราะหลายๆ คนก็เป็นหนี้เป็นสินคล้ายๆ กับเรา แต่เขาไม่รู้จะทำอย่างไร อย่างบางคนที่เป็นหนี้ถึงแม้จะไม่มากเท่าเราแต่เขาก็ถูกคนรักทิ้ง ซึ่งตอนที่เรารู้ เราก็รู้สึกเสียดายแทนและก็เสียใจกับเขาด้วย ส่วนบางคนเขาก็บอกว่าพอเขาได้รู้เรื่องของเรา จากที่เขากำลังจะเลิกกันเขาก็กลับมาสู้ด้วยกันอีก ตัวเราเองพอได้ทราบแบบนี้ก็รู้สึกอิ่มใจ มีกำลังใจในการที่จะสู้"
จำนวนหนี้ที่เราสองคนรับภาระอยู่ยังเหลืออีกเยอะหรือเปล่า ?
บอย : "ไม่เยอะแล้วครับ อีกแค่ประมาณ 2 ปีก็น่าจะเคลียร์หมดแล้ว"
เจี๊ยบ : "จริงๆ ตามที่เราคาดการณ์ไว้ก็น่าจะประมาณ 2 ปีค่ะ แต่เราก็คุยกันว่าถ้าหากสามารถจัดการได้แล้ว ก็คงจะหมดเร็วกว่าที่คิดไว้"
สภาพจิตใจของเราทั้งคู่ตอนนี้ถือว่าโอเคขึ้นหรือยัง ?
บอย : "ดีครับ จริงๆ ก็ดีขึ้นมากนะ เพียงแต่ว่าตอนที่เราไปออกรายการมันเป็นการเล่าเรื่องย้อนหลัง ซึ่งทุกครั้งที่เราเล่ามันก็เหมือนกับเรานำมีดไปแทงที่แผลเดิม มันก็เลยเจ็บอยู่ที่เดิม แต่ทุกวันนี้เราก็ดีขึ้นมากแล้วครับ เอาจริงๆ ตอนที่เราไปออกรายการ เรายังคิดด้วยว่าตอนนั้นเราแข็งแรงแล้ว ซึ่งพอได้เล่ามันก็กลับมาเจ็บอีก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ไม่ได้อยากจะเก็บมันมาเป็นปม อยากจะเก็บเอาไว้เป็นเรื่องเตือนใจมากกว่า"
บอย : "ผมคิดว่าจำนวนเงินที่เราเสียไปมันคุ้มนะ มันคือบทพิสูจน์ความรักของเราสองคน มันคุ้มมากกับสิ่งที่เราได้มา"
เจี๊ยบ : "จริงๆ เราก็ต่อสู้กันมาตั้งแต่แรกแล้ว ทั้งการเริ่มต้นธุรกิจก็ดีหรือการมีปัญหาก็ดี มันต้องมีคนสองคนช่วยกันแก้ปัญหาอยู่แล้ว ไม่ว่าปัญหาจะเล็กหรือใหญ่ เพราะฉะนั้นในวันที่มันมีปัญหาใหญ่ขนาดนี้เราก็ต้องการกำลังใจเหมือนกัน และเจี๊ยบก็เชื่อว่าเขาก็ต้องการกำลังใจเหมือนกันค่ะ"
บอย : "ผมรู้สึกโชคดีมากที่ไม่ได้สู้เพียงลำพัง เพราะผมยังมีอีกคนที่ช่วยคิดช่วยสู้และคอยเป็นกำลังใจ ซึ่งนั่นคือสิ่งสำคัญของการเป็นคู่รัก"
ขอบคุณ IG : boypeace , jeab_pijittra
ขอบคุณ : sanook.com