- 22 ม.ค. 2562
"แม่ครูไอซ์" เปิดใจกว่าจะมีวันนี้ เคยคิดสั้นจบชีวิตพร้อมลูกชาย เพราะโดนสังคมเหยียดหยัน
ยังคงเป็นประเด็นที่ยังคงมีการพูดถึงเป็นวงกว้างในโลกออนไลน์ สำหรับ ครูไอซ์ ดำเกิง มุ่งธัญญา หนุ่มวัย 25 ปี ที่ตาบอดทั้ง 2 ข้าง ที่มุ่งมั่นตั้งใจเรียนจนได้เกียรตินิยมอันดับ 1 จุฬาฯ เพื่อตามความฝันที่อยากเป็นครูสอนหนังสือ กันได้ ซึ่งครูไอซ์เกิดมามีความพิการทางสายตา เนื่องจากคลอดก่อนกำหนด คลอดออกมาน้ำหนัก 1 โล 2 ขีด เลยต้องเข้าตู้อบ ตอนเกิดใหม่ๆ จอประสาทตา เซลล์ยังไม่แข็งแรง พอเข้าตู้อบ แสงในตู้อบทำลายตัวนั้น ทำให้มองไม่เห็นทั้งสองข้าง แต่เขาก็ได้ทำตามความฝันตั้งใจเรียนจนจบจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและได้บรรจุเป็นครูในที่สุด
เนื่องด้วยวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมาเป็นวันครูแห่งชาติ ทาง 7-11 จึงคิดแคมเปญ 7-Eleven เชิดชูพระคุณครู ครูคือดวงประทีปส่องทาง โดยนำเรื่องราวและประสบการณ์โดยตรงของครูไอซ์ มาทำเป็นภาพยนตร์ จนคลิปวิดีโอดังกล่าวได้ถูกแชร์ไปเป็นจำนวนมาก จนผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สุปริญญาภรณ์ มณีโชติ เข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมพร้อมบอกว่าตนยินดีมอบดวงตาทั้งสองข้างให้กับครูไอซ์
โดยเธอได้คอมเม้นต์ว่า "คุณครูไอซ์สามารถรับแก้วตาแล้วจะสามารถมองเห็นได้มั้ยคะ (อยากรู้ค่ะ) เพราะครุไอซ์เป็นมาตั้งแต่กำเนิด ถ้ารับแก้วตาได้ก็ดีเลยค่ะ เราเป็นมะเร็งระยะที่ 4 ถ้าถึงเวลา เราจะได้ให้แก้วตาครูไอซ์ค่ะ" และมีชาวเน็ตเข้ามากดถูกใจกันเป็นจำนวนมาก พร้อมเข้ามาชื่นชมที่เธอจะบริจาคให้กับคุณครูคนเก่ง ในขณะที่บางคอมเม้นต์กล่าวว่เธอกำลังสร้างภาพเพราะอยากดัง
ต่อมาเพจเฟซบุ๊กชื่อ บิ๊กเกรียน ได้โพสต์ภาพของสาวใหญ่รายนี้ พร้อมกับบรรยายข้อความว่า " #สังคมโซเชียล #แห่ชื่นชมพี่กบ #บางคนว่าอยากดัง
เพจบิ๊กเกรียนได้คุยกับพี่กบ สุปริญญา มณีโชติ อายุ 55 ปี แล้วรู้สึกได้เลยว่า โลกโซเชียล ช่างโหดร้ายกับเธอจริงๆ การจะทำความดี มันยากมาก คนคิดต่าง คิดลบ เยอะแยะ และคนคิดบวกคิดดีกับพี่กบก็มาก
พี่กบ แทบทรุด เมื่อคิดว่าการทำความดีได้ช่วยให้กับคนที่ทำประโยชน์ อย่างครูไอซ์ พี่กบอยากจะทำ อยากจะบริจาคดวงตาให้ แต่พี่กบ เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะสุดท้าย
พี่กบ ยังบอกอีกว่า หลังจากไปลงคอมเม้นท์บริจาค และคุยกับคนรู้จัก จึงทราบว่า ครูไอซ์ ไม่สามารถเปลี่ยนดวงตาได้ ด้วยเหตุผลแก้วตาเซลล์ถูกทำลาย
***แต่เรื่องดีๆแบบนี้ แค่ความรู้สึก แค่นึกถึง แค่อยากจะทำความดี คนทั้งประเทศแห่ชื่นชม แม้ความหวังของครูไอซ์จะริบหรี่ ส่วนพี่กบ อยู่ในขั้นระยะสุดท้าย แต่พี่กบคุยกับเพจบิ๊กเกรียนด้วยอารมณ์แจ่มใส่ และเริ่มทรุด นอนซม เพราะปมถูกด่าดราม่าหาว่าอยากดัง แต่พี่กบมีกำลังใจจากสามี และคนที่ชื่นชม เพจบิ๊กเกรียนฟังน้ำเสียงพี่กบแล้ว เชื่อว่าต้องหายวันหายคืน สู้ สู้ครับพี่กบ"
อย่างไรก็ตามเมื่อเพจดังกล่าวได้เผยแผ่บทสัมภาษณ์ของสาวใหญ่รายนี้ออกไป ก็ทำให้มีชาวโซเชียลเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก บ้างก็ว่าทั้งน่าสงสารและน่าเสียดายในเวลาเดียวกัน บ้างก็บอกว่าอยากให้เธอสู้ต่อไป และอยากไปใส่ใจกับคอมเม้นต์ของคนที่มีจิตใจไม่ดีเลย นอกจากนี้เธอยังได้รับกำลังใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมากอีกด้วย
ล่าสุด ครูไอซ์ ได้เปิดเผยว่า จริงๆ ผมต้องเรียนให้ทราบว่ากรณีของผมเป็นกรณีพิการตั้งแต่กำเนิด มันเป็นปัญหาที่จอประสาทตา ไม่สามารถรักษาได้ด้วยการเปลี่ยนดวงตา แต่พอเรารู้เรื่องนี้เราก็รู้สึกขอบคุณที่พี่เค้ายังคิดถึงเรา จนอยากจะบริจาคดวงตาให้ ถ้าถามว่าการอยู่แบบนี้มันลำบากมั้ย สำหรับผมรู้สุกว่ามันเฉยๆ นะครับ ก็ชิน อาจจะเป็นเพราะว่าเราเป็นมาตั้งแต่เกิดแล้ว ก็เลยไม่ได้รู้สึกลำบาก ก็รู้สึกดีนะครับว่าสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันมันได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คน ผมไม่ได้รู้สึกเสียดายนะครับ กลับมองว่าเป็นโอกาสมากกว่า เพราะว่าคิดว่าตอนนี้คนที่คิดอยากจะบริจาคดวงตามีมากขึ้นแน่นอน ซึ่งก็มีคนที่รอรับดวงตาคนอื่นๆ อีกมากเลยครับ ถ้าคนบริจาคเยอะ และคนรอรับเยอะ โอกาสที่ดวงตาจะมีเซลล์ที่เข้ากันได้ก็มีมากขึ้นด้วย
ในขณะที่ นางบุญเรือน สร้อยทอง คุณแม่ของครูไอซ์ ก็ได้เปิดเผยว่า "ดีใจและขอขอบคุณผู้ใจบุญท่านนี้ด้วย แต่ว่าดวงตาของลูกชายคงรักษาไม่ได้แล้ว แต่อย่างน้อยๆ ก็ถือว่าเป็นแรงบันดาลใจในการทำความดีด้วย ก็ขอให้คนที่บริจาคสุขภาพแข็งแรงก็แล้วกัน"
นอกจากนี้แม่ของครูไอซ์ยังได้เปิดใจเรื่องลูกชายในอดีตอีกว่า "ตอนคลอดไอซ์ แม่คลอดเขาตอน 7 เดือน และลูกต้องเข้าตู้อบอยู่ 2 เดือน พอออกจากตู้อบ หมอก็บอกว่า ตาของไอซ์มีปัญหา คือตอนนั้นเราก็ไม่ค่อยเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ซึ่งหมอได้บอกว่า เหมือนเส้นเลือดมันหยุดเดิน คือรักษาให้แล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะได้ผลแค่ไหน"
"ตอนเด็กๆ คือรักมาก เพราะเราทำให้เขาหมดทุกอย่าง เมื่อก่อนแม่จะทำงานด้วย พอทำงานกลับมาก็ต้องรีบไปทำกับข้าวให้เค้า ช่วงหลังที่รับ-ส่งไอซ์คือแม่ก็ทำงานไม่ได้เต็มที่ ก็เคยคิดเหมือนกันว่าถ้าไม่มีลูกคนนี้ ชีวิตเราน่าจะมั่นคงหรือเจริญก้าวหน้ามากกว่านี้ เพราะตั้งแต่ไอซ์คลอด แม่เปลี่ยนงานมาแล้วทั้งหมด 4 งาน เพราะต้องดูแลเค้า ตอนที่เค้ายังเล็กมากๆ แม่เคยคิดฆ่าตัวตาย และได้พาเค้าไปด้วย เหมือนมันเครียดและมันไม่มีทางออกว่า เราจะเลี้ยงเค้าได้ยังไง คือเราเคยถูกคำครหาว่าเหมือนเค้าเป็นเด็กไม่มีอนาคต แต่ใครจะไปรู้ว่าวันหนึ่งเค้าจะสามารถเลี้ยงดูแม่ได้" แม่ครูหนุ่มเล่าด้วยเสียงสั่นเครือ
ถ้าคุณแม่ของครูไอซ์คิดทำแบบนั้นลงไปจริงๆ วันนี้เราจะไม่มีโอกาสได้รู้จักครูหนุ่มที่สู้และฝ่าฝันทุกอุปสรรคมาจนถึงวันนี้ แต่เพราะความรักที่มีต่อลูก แม่ของครูไอซ์จึงตัดสินใจไม่ทำ จึงทำให้วันนี้ชื่อของ ครูไอซ์ ดำเกิง มุ่งธัญญา กลายเป็นแรงบัลดาลใจในการทำความดีให้กับใครหลายๆ คน
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : บิ๊กเกรียน, สุปริญญาภรณ์ มณีโชติ