- 23 ม.ค. 2562
อุกอาจ...ไร้ซึ่งมนุษยธรรม...ยากยิ่งเกินกว่าจะทำใจยอมรับ กับเหตุการณ์ความไม่สงบบนปลายด้ามขวาน ไม่เว้นแต่ละวันที่ปรากฏข่าวบนหน้าสื่อซ้ำซากและจำเจ กับการการฆาตกรรมผู้บริสุทธิ์ด้วยเงื้อมมือของผู้ก่อการร้ายที่เรียกขานกันว่า "โจรใต้"
อุกอาจ...ไร้ซึ่งมนุษยธรรม...ยากยิ่งเกินกว่าจะทำใจยอมรับ กับเหตุการณ์ความไม่สงบบนปลายด้ามขวาน ไม่เว้นแต่ละวันที่ปรากฏข่าวบนหน้าสื่อซ้ำซากและจำเจ กับการการฆาตกรรมผู้บริสุทธิ์ด้วยเงื้อมมือของผู้ก่อการร้ายที่เรียกขานกันว่า "โจรใต้"
เมื่อสงฆ์ผู้เป็นที่พึ่งทางจิตใจของพุทธศาสนิกชนถูกประหัตประหารอย่างโหดเหี้ยม นำมาซึ่งความโกรธแค้นพร้อมกับโศกเศร้าอาดูร อันเป็นการตอกย้ำถึงเจตนาของผู้ก่อการร้ายที่ประสงค์ให้เกิดความแตกแยกทางศาสนา ระหว่าง "ชาวพุทธ-มุสลิม"
ปมแห่งความขัดแย้งที่กินยาวสืบเนื่องมานานกว่าทศวรรษมิอาจทำให้เลือนหายได้เพียงชั่วข้ามคืน...หากทว่าความพยายามของรัฐและความสมัครสมานกลมเกลียวของประชาชนในพื้นที่ ที่ก้าวข้ามกำแพงแห่งศาสนา ก็เป็นปราการด่านอันสำคัญ ที่ทำให้ผู้ก่อการร้ายไม่สามารถบรรลุเป้าประสงค์โดยง่าย...อย่างไรก็ดีห้วงโมงยามที่ความรับผิดชอบในการขจัดปัดเป่าทุกข์ถูกถ่ายโอนให้กองทัพมีส่วนรับผิดชอบ...ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังคีย์แมนผู้นำทัพที่เป็นเสมือนความหวังที่จะกำหนดทิศทางความเป็นไปของสมรภูมิ...ชายแดนใต้ วาระนี้จึงเป็นของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ หรือ "บิ๊กแดง" ผบ.ทบ. คนที่ 41
บทเรียนในอดีตนั้นทำให้กองทัพตระหนักรู้ว่าบริบทแห่งความขัดแย้งของพื้นที่ภาคใต้นั้นมิอาจกระทำการ "หนามยอกเอาหนามบ่ง" ได้อีกต่อไป...ด้วยเพราะไม่ประสงค์แปรสภาพจาก "สงครามนอกแบบ" ที่กำลังดำเนินอยู่ให้กลายเป็น "สงครามเต็มรูปแบบ" เพราะนั่นหมายถึงว่าจะเป็นการราดน้ำมันเข้ากองเพลิงโหมกระพือไฟใต้ให้ลุกลามบานปลายมากยิ่งขึ้น...ต่อสถานการณ์ปัจจุบันก่อกลายเป็นประเด็นเมื่อยุทธวิธีแบบสันติอหิงสาของกองทัพถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์จากคำกล่าวของ ผบ.ทบ. ตอนหนึ่งว่า "ในส่วนของทหาร นอกจากจะปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องความมั่นคงแล้ว เราจะรับสมัครทหารที่สมัครใจบวช เพื่อส่งมากระจายอยู่ตามวัดต่างๆดังที่เคยปฏิบัติกันมา เพื่อสร้างความอุ่นใจและมั่นใจของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงพระสงฆ์ตามวัดต่างๆ"
หากทว่ามีการ "คัดสรรค์" และ "ตัดตอน" ไปเผยแพร่จนมีการกล่าวปรามาศในตัว "บิ๊กแดง" อย่างรุนแรง โดยนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านการคอร์รัปชัน ระบุความว่า "เอาทหารขนส่ง มาเป็นผบ.ทบ. ก็อย่างนี้แหละ จะให้พระถือปืนยิงโจรได้ พระก็ปาราชิกกันหมดวัด ไม่ได้เรียนรู้พระธรรมวินัยของพระสงฆ์กันเสียเลย แก้กันปลายเหตุ ต้องแก้ที่ต้นเหตุแท้จริงของปัญหา" ในเบื้องต้นนั้น "บิ๊กแดง" ได้ออกมาให้สัมกาษณ์ต่อกรณีดังกล่าวว่าเป็นความเข้าใจผิดจากการสื่อสาร ซึ่งมีการนำเสนอข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เพราะทางกองทัพ "ไม่เคยสั่ง" ให้กำลังพลบวช แต่เป็นความสมัครใจ และเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำทุกปี
น่าสนใจที่ว่า...คำกล่าวของนายวีระนั้น จุดประสงค์หลักคือการพยายามโน้มน้าวให้คล้อยว่าตัวของ "บิ๊กแดง" นั้น ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นผู้นำกองทัพ ด้วยเพราะข้อเท็จจริงก่อนที่ "บิ๊กแดง" จะทำการย้ายเหล่ามาเป็นกำลังรบหลักคือ "เหล่าราบ" นั้น ครั้งหนึ่งเคยสังกัด "เหล่าขนส่ง" มาก่อนจริง...แต่เป็นการชั่วคราวเท่านั้น เพราะจากนั้นเป็นต้นมาทุกย่างก้าวของ "บิ๊กแดง" ก็เจิดจรัสอยู่บนสายเหล็กคุมกำลังรบปรากฏผลงานอันประจักษ์สมศักดิ์ศรีของ "คอมแมนเดอร์" สู่เก้าอี้ ผบ.ทบ. อย่างไม่มีข้อกังขา
จากรั้วจักรดาว เตรียมทหาร รุ่นที่ 20 (ตท.20) สู่รั้วแดงกำแพงเหลือง รุ่นที่ 31 (จปร.31) ... เริ่มต้นชีวิตราชการทหารในเหล่าขนส่ง ด้วยหมายว่าจะเดินตามรอยผู้เป็นบิดา พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ในตำแหน่ง นักบินฝูงบินกองการบิน ก่อนที่จะเบนเข็มสู่ราชานีแห่งสนามรบ กำลังรบหลักใน "เหล่าราบ" สังกัดหน่วยที่รับผิดชอบในเขตพระนครมาโดยตลอด เริ่มแต่กองพลที่1รักษาพระองค์ (พล.1รอ.) ไต่เต้าขึ้นเป็นผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 พัน 2 รอ.) ก่อนติดยศพ.อ. ในตำแหน่ง เสธ.ร.11 รอ. และขยับขึ้นเป็นรอง ผบ.ร.11 รอ.
ในยุคที่กำลังพลที่สังกัด พล.1.รอ โดยเฉพาะผู้นำหน่วยที่ถูกเรียนขานว่าเป็นทหารสาย "วงศ์เทวัญ" ถูกปรามาสอย่างรุนแรงว่า...เก่งแต่ทำปฏิวัติรบไม่เป็น กระทั่งในปี 2547 "บิ๊กแดง" ได้รับคำสั่งตรงจากกองทัพเพื่อลบล้างทุกคำครหา..."บิ๊กแดง" ในตำแหน่ง ผบ.ฉก.14 ได้นำผู้ใต้บังคับบัญชาลงพื้นที่สีแดง สถาปนาหน่วยที่วัดธารโต จ.ยะลา ... และแน่นอนในฐานะผู้บังคับบัญชาได้ปฏิบัติภารกิจภาคสนาม ถือปืนลาดออกลาดตระเวณเคียงบ่าเคียงไหล่ผู้ใต้บังคับบัญชา โชกโชนทั้งงานด้านยุทธวิธีและปฏิบัติการทางจิตวิทยา
ก่อนที่จะหมุนเวียนกำลัง กลับ ร.11 รอ. ตามลำดับสู่ ผบ.พล.1รอ. ขยับขึ้นเส้นทางสายเหล็ก 5 เสือ ทบ. จาก แม่ทัพภาคที่ 1 เป็น ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และ ผบ.ทบ. ในที่สุด เพียงพอที่จะประจักษ์ว่า เก้าอี้ ผบ.ทบ. ของ "บิ๊กแดง" แลกมาด้วยทุกหยาดเหงื่อจากการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เสี่ยงภัย มิได้เหาะเหินหรือมีอำนาจแฝงราวประหนึ่ง "ผีจับยัด"
แม้ว่าวันนี้ปัญหาเรื้อรังของไฟใต้ยังมิอาจถอนรากถอนโคนให้หมดสิ้น...แต่ทุกมาตรการและความช่วยเหลือที่รัฐและกองทัพหยิบยื่นให้แก่ประชาชน...ก็อาจเจือจางบรรยากาศของความกลัวให้ทุเลาลงได้ไม่มากก็น้อย...อย่างไรก็ดี...ทั้งหมดทั้งมวลพิสูจน์แล้วว่าประสบการณ์ที่บ่มเพาะครั้งเมื่อคลุกคลีบนพื้นที่เสี่ยงเป็นเครื่องยืนยันว่าได้ว่า...ผบ.ทบ. คนที่ 41 นามว่า "บิ๊กแดง" มีความเหมาะสม...อยู่ถูกที่ถูกเวลา...อย่างแท้จริง
ขอบคุณภาพบางส่วนจาก : Wassana Nanuam