"ทนายเดชา"เฉ่งทนายดังมั่วกม. ใส่ร้าย"หมอปลา"หมิ่นศาสนาโทษแรง

จากกรณีที่จ๊ะ อาร์สยาม หรือ นงผณี มหาดไทย นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ได้ชมรายการหนึ่งที่เกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติ ที่หมอคนดังอย่างหมอปลาทำพิธีเผาเศียรพ่อแก่ ซึ่งเป็นที่ศรัทธาของประชาชน รวมถึงเป็นบรมครูของชาวนาฏศิลป์ และศิลปะ ทำให้ จ๊ะ ถึงกับโพสต์เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมส่วนตัว โดยระบุว่า
 

“คนเราจะดีไม่ดี จะป่วยไม่ป่วย มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปปั้น รึผีหรอก มันขึ้นอยู่กับกรรมที่เคยทำมา และสุขภาพของเรา…นี่อยู่ๆคุณมาเผาเศียรพ่อแก่ ที่คนอื่นเค้าเคารพรัก คุณบ้าไปแล้ว เราคนนึ่งที่รัก ศรัทธาในคำว่าพ่อแก่มากกกกก (เพราะที่บ้านเราเป็นลิเก) คุณช่วยคนอื่นมันเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องช่วยในพื้นฐานของความถูกต้องและไม่ล้ำเส้น ไม่ลบหลู่ความเชื่อของคนอื่น #ป่วยก็ไปรักษาเนอะ #อย่าอาละวาดแบบนี้ #เป็นคนเชื่อเรื่องดวง #เป็นคนเชื่อหมอดู #แต่เราไม่เคยเชื่อคุณเลย #หมอ”

ต่อมาหมอปลา ได้ไลฟ์สดชี้แจงทุกคำครหาในประเด็นดราม่าดังกล่าว ผ่านทางเฟซบุ๊ก น้ำฟ้า ธิดาดอย  โดยมีคำพูดบางช่วงบางตอนบอกว่า "จะขอพูดถึงคนที่ดูรายการผม และดูไม่จบ บางคนเอาภาพจากรายการไปโพสต์ แล้วอยากจะออกมาต่อว่า ตามกระแส เรื่องเศียรพ่อแก่ แม้กระทั่งมีดารานักร้องบางตัว อยากออกกระแสมั่ง ผมบอกทุกคนนะ ว่าเคสที่ผมไปช่วยเหลือเนี่ย เขาไปหาหมอที่รพ.มาแล้ว รักษาไม่หาย เลยมาหาผมเป็นที่พึ่งสุดท้าย แล้วอย่างนักร้องที่เต้นแล้งเต้นกาเนี่ย

 

ที่ออกมาบอกว่า คนเราป่วยก็ต้องไปหาหมอ งั้นมันจะมีผีหลอกหรอ ถามพี่สาวมึงสิ พี่สาวเคยติดต่อมา แล้วที่เผาเศียรพ่อแก่น่ะ คุณดูรายการจบหรือเปล่า อยากเกาะ หรือมีผลประโยชน์ ถ้าคิดว่าตนเองช่วยได้ ทำไมไม่ไปช่วยเค้า พี่เขาป่วยเพราะไปเชื่อคนหลอกลวง หลอกให้รับโน้นนี่มา แล้วพอฉันไปช่วยให้เขาหาย พวกมึงก็มาอิจฉา สิ่งที่พวกมึงทำกันไม่ได้ ไม่ได้ไปเอาเศียรพ่อแก่ที่บ้านมึงมาเผา ช่วยเข้าใจด้วย แล้วมาบอกเศียรนาฏศิลป์ มันคนละเศียรกัน ไม่ได้ไปล้ำเส้นอะไรคุณ"

สุดท้ายอยากฝากคนดูรายการทั้งหลาย ก่อนจะดราม่า ขอให้ดูให้เข้าใจ ดูให้จบ มันเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ พวกคุณไม่เคยป่วย คงไม่เข้าใจ แต่ถ้าพวกคุณ คิดว่าช่วยเหลือได้ คุณก็ไปช่วย ถ้าทำได้ ทำไปเลย เรื่องเศียรเนี่ยมีหลายเคสแล้ว ถ้าช่วยเหลือคนเหล่านี้ไม่ได้ ช่วยหุบปากด้วย 

 

อ่านข่าว : "หมอปลา"ฉุนขาดโดนด่าดราม่าเผา "เศียรพ่อแก่" ซัดแรงพวกปญอ.ดูไม่จบช่วยหุบปาก

และจากเรื่องราวดังกล่าวที่เป็นประเด็นดราม่า ทำให้ทนายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม เจ้าของเพจสายตรงกฎหมาย ยึดมั่นความยุติธรรม ได้ออกมาพูดถึงเรื่องราวดังกล่าว ในแง่มุมของกฎหมาย ระบุว่า "การไปทำลายเหยียดหยามวัตถุที่มีคนนับถือเยอะๆ อาจเป็นการเข้าข่ายเหยียดหยามศาสนาได้ ซึ่งมีโทษสูงสุดจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสน

 

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 206 ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ แก่วัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนานั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

คำว่า ศาสนา ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตฯ หมายความว่า ลัทธิความเชื่อถือของมนุษย์อันมีหลัก คือ แสดงกําเนิดและความสิ้นสุดของโลก เป็นต้น อันเป็นไปในฝ่ายปรมัตถ์ประการหนึ่ง แสดงหลักธรรมเกี่ยวกับบุญบาปอันเป็นไปในฝ่ายศีลธรรมประการหนึ่ง พร้อมทั้งลัทธิพิธีที่กระทําตามความเห็นหรือตามคําสั่งสอนในความเชื่อถือนั้น ๆ

ดังนั้นคำว่าศาสนา จึงไม่จำกัดแค่ศาสนาพุทธ คริส ฯลฯ แต่จะหมายความรวมถึงลัทธิความเชื่ออื่นๆ ด้วย เศียรพ่อแก่ ถือว่าเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิที่หลายคนในวงการแสดงมีความเชื่อ ศรัทธา ถือเป็นลัทธิพิธีที่กระทำตามความเห็นหรือตามคำสั่งสอนในความเชื่อถือนั้นๆ จึงเข้าข่ายเป็นวัตถุทางศาสนา

 

จากกฎหมายดังกล่าว หากผู้ใดเอาวัตถุอันเป็นที่เคารพตามลัทธิความเชื่อของคนอื่นๆ ไปเผา แสดงอาการเหยียดหยาม ก็เข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 206 ได้ ซึ่งมีโทษดังที่กล่าวมา อย่างไรก็ตาม การเอาสิ่งศักดิ์สิทธิที่มีผู้คนเคารพนับถือมาเหยียดหยาม ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง"

 

ล่าสุดทนายเดชา กิตติวิทยานันท์" ได้ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว ในข้อกฎหมายผ่านไลฟ์สด ทางเพจเฟซบุ๊กทนายคลายทุกข์ ระบุว่า "การเป็นทนายต้องศึกษากฎหมายให้รอบคอบเสียก่อน หนังสือต้องหมั่นอ่านทุกวัน เพราะข้อกฎหมายมันเปลี่ยนไปเรื่อย การที่ทนายรุ่นใหญ่อ้างว่าหมอปลาผิดแบบนั้น แบบนี้ จะแจ้งข้อหาหมิ่นศาสนา อยากถามว่า เขาทำผิดตรงไหนของกฎหมายข้อนี้ เมื่อสิ่งที่เผาไม่ใช่พระพุทธรูป ถ้าคุณไปฟ้องด้วยข้อกฎหมายนี้ ก็มีหวังโดนหมอปลาฟ้องกลับ จะทำอะไรต้องศึกษาให้ดีก่อน ก่อนจะกล่าวหาใคร"

 

นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่า "หมอปลาไม่ได้ทำผิดฐานหมิ่นศาสนานะครับอย่ามั่ว ผมชี้แจงมาในฐานะที่ปรึกษากฎหมายของหมอปลาการพูดให้คนอื่นเสียหาย ต้องระมัดระวังหน่อยนะครับ"

 

 

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : ทนายคลายทุกข์