- 29 ม.ค. 2562
"ต๋อง ชวนชื่น" เปิดใจชีวิตครอบครัวเกือบพัง เพราะเมียหลอน กินยาลดความอ้วน
บางครั้งชีวิตของคนในวงการตลก ก็ไม่ตลกอย่างที่คิด สำหรับ ต๋อง ชวนชื่น ที่เจ้าตัวออกมายอมรับว่ามีปัญหาครอบครัวมากมาย เกือบเลิกกับภรรยาทั้งที่มีลูกด้วยกัน 2 คน แต่สุดท้ายก็กลับมาคืนดีกันได้เพราะลูก
ล่าสุด ต๋อง ชวนชื่น ได้ควงภรรยามาเปิดใจผ่านรายการคุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และบุ๋ม ปนัดดา เป็นพิธีกร พร้อมทั้งเคลียร์ดราม่า ที่ไม่มีภาพเจ้าตัวปรากฎในงานศพของพ่อดม ชวนชื่นอีกด้วย
ก่อนที่จะเป็น ต๋อง ชวนชื่น เคยเป็น ต๋อง เชิญยิ้ม มาก่อน ?
ต๋อง : ตอนนั้นเล่นตลกอยู่กับ น้ากล้วย เชิญยิ้ม ประมาณ 5 ปี แล้วเวลาเล่นตลกก็จะเจอกับคณะชวนชื่น เขาก็แซวอยากได้ตัวปูเรื่องที่สนุก เราก็สนใจเพราะชวนชื่นเป็นคณะใหญ่ ก็เลยตัดสินใจลาออกจากพี่กล้วยมาหาประสบการณ์ใหม่ ๆ แล้วมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่คณะชวนชื่น พี่จิ้มก็เลยให้ขึ้นไปลองโชว์ แต่เขาก็โทรศัพท์ไปหาพี่กล้วยก่อนว่าน้องออกมาอยู่กับผมพี่ว่ายังไง พี่กล้วยบอกไม่เป็นไร น้องออกไปหาประสบการณ์ใหม่ ๆ สมัยก่อนการแย่งชิงตลกเป็นเรื่องใหญ่
แสดงว่าวันที่ออกจากพี่กล้วย เชิญยิ้ม ไม่ได้ทะเลาะกันอย่างที่เป็นข่าว ?
ต๋อง : ไม่ได้ทะเลาะเลย เราไปลามาไหว้ ไม่ลืมบุญคุณคนอยู่แล้ว ทุกวันนี้ยังแวะเวียนกันอยู่เลย มีงานอะไรก็เรียกใช้ตลอด
บางคนบอกว่าพี่ต๋องดังแล้วลืมบุญคุณ ไม่ไปร่วมงานศพ พ่อดม ?
ต๋อง : ผมเป็นคนที่ลงในเรื่องของข่าวน้อยเกินไป ส่วนใหญ่สมาชิกชวนชื่นจะแชร์ภาพลงในเฟซบุ๊ก ไอจี หรืออะไรก็แล้วแต่ ผมจะลงในวันสุดท้ายวันเผา แล้วบอกพ่อว่า ผมมาแล้ว พ่อไม่ต้องห่วง ขอบคุณที่ดูแล ผมมาส่งพ่อแล้ว ตอนนี้ผมทำใจได้แล้ว ถ้าไม่ได้พ่อดมก็ไม่ได้มาอยู่ชวนชื่น เพราะชวนชื่นเขาเป็นพี่น้องกัน ทีนี้เขาเปิดโหวต พ่อดมบอกว่าใครไม่เอาต๋องกูเอา กูชอบมัน วันที่ทราบข่าวว่าพ่อดมเสียเป็นวันที่ 5 ผมคุยกับภรรยาว่าไปหาพ่อมั้ย แต่ผมเพิ่งเปิดโฮมสเตย์ แล้ววันนั้นตรงกับวันหยุดลูกค้าเยอะ เพิ่งเปิดธุรกิจปัญหาทุกอย่างมันเข้ามา เพราะเราไม่ถนัดเรื่องธุรกิจเลย อยากบอกพ่อว่าทุกคำสอนของพ่อผมจะเก็บแล้วเอามาสอนลูกหลานต่อ ขอให้พ่อไปสู่ภพภูมิที่ดี
คุณต๋องถือเป็นตลกตัวอย่าง รักเดียวใจเดียว ไม่เจ้าชู้ ?
ต๋อง : จริง ๆ ตลกขึ้นชื่อว่าเจ้าชู้ทุกคน จริง ๆ มันก็เจ้าชู้ธรรมชาติของผู้ชาย ด้วยความที่ผมผ่านอะไรมาเยอะ พอวันนึงเราอยากมีครอบครัวก็เลิกนิสัยตรงนั้น ก็เลยเป็นที่มาว่าครอบครัวอบอุ่น ตอนนี้แต่งงานมา 12 ปีแล้ว
ผู้ชายคนนี้เป็นยังไง ?
ฝน : ช่วงนั้นเป็นช่วงปีใหม่ ทางบริษัทอยากได้นักแสดงมาเล่นก็เลยได้พี่ต๋องมาเล่น แล้วช่วงที่เซ็นรับเงินเขาแนบเบอร์โทรศัพท์มาด้วย ซึ่งเราก็โทรไป
ต๋อง : คือเขาเป็นฝ่ายบัญชี เวลาเล่นเสร็จเขาก็เอาค่าตัวมาให้ เราก็ปิ๊งเลย ซึ่งเราอายุห่างกัน 17 ปี ช่วงนั้นก็จีบเด็ก เราก็พาเขาไปดินเนอร์
ฝน : วันนั้นเราแต่งตัวสวยไปเลย แต่พอไปถึงเป็นร้านจิ้มจุ่ม เพิงหมาแหงน เวลารถบรรทุกผ่านมาหลังคาเปิดเบาๆ
รักกันมากทำไมถึงทะเลาะกันบ่อย ?
ต๋อง : มันมีช่วงนึงที่ลูกชายคนโตอายุ 7-8 เดือน เขาก็เปลี่ยนไป แต่เราไม่ทันสังเกต เขาก็บอกว่าข้างบ้านมาแอบดูเขา แล้ววันนึงครบรอบแต่งงานไปฉลองที่พัทยา เขาก็บอกว่ามาทำไม เคยมาแล้ว คือมันพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ แล้วมีวันนึงออกมาข้างนอก แล้วเขาหลับมาในรถ พอถึงเราก็ปลุกเขา เขาก็บอกปลุกทำไมคนกำลังนอน แล้ววันนั้นเราก็อุ้มลูกไปให้แฟนโปรดิวเซอร์ช่วยเลี้ยง สักพักเขามาบอกว่าเมียพี่หนีไปแล้ว เราก็เลยโทรศัพท์หาเหลือเฟือให้มาหา สักพักเขาโทรศัพท์เข้ามา เราก็บอกให้มาเคลียร์กัน คือตอนนั้นเขาหลอน
แล้วอาหารหลอนที่เกิดขึ้นมันเกิดจากอะไร ?
ฝน : ยาลดน้ำหนัก เพราะว่าหลังจากคลอดน้องน้ำหนักอยู่ที่ 70 กว่า เราก็เครียด แล้วพี่ต๋องกลับไปทำบุญที่บ้านนานมาก เราก็คิดไปว่าเขาไปมีใครมั้ย แล้วเพื่อนที่สนิทบอกว่าเขาก็บอกว่าพี่ต๋องอาจจะมีใครจริง ๆ ก็ได้ ลองกินอันนี้ดูหุ่นจะกลับมาเฟิร์มเหมือนเดิม เราคิดว่าถ้าเราสวย สามีก็จะกลับมาอยู่กับเรา แล้วพอกินยาเข้าไปเรารู้สึกขยันมาก ไม่นอนเลย
แล้วคุณต๋องรู้ไหมว่าภรรยากินยาลดน้ำหนัก ?
ต๋อง : ยังเลย แต่พอทะเลาะกันหนักสุดเราก็ไม่ไหว ระเบิดเลย เราก็บอกว่าถ้าเป็นแบบนี้เราเลิกกัน เรื่องลูกมีอะไรไปฟ้องศาลเอา แต่ฉันขอแกกับแม่ ตอนเลิกฉันก็จะไปเลิกกับแม่ ก็ไปหาแม่ แม่ก็คุยกับฝน แล้วมาบอกผมว่าฝนกินยาลดความอ้วนที่ผสมยาบ้า มันหลอน แล้วเขาให้ฝนกราบเท้าผม
คุณต๋องก็ระแวงภรรยาใช้เงินเยอะ ?
ต๋อง : ใช่ครับ แต่ไม่ได้คิดระแวงเขา มันมีช่วงนึงที่ทำโฮมสเตย์แล้วเงินมันบานมาก เราก็ถามกองละครว่าเงินออกหรือยัง ตอนนั้นเราให้ฝนจัดการเช็ค เขาจะโอนเข้าบัญชี เขาก็บอกว่างวดแรกออกแล้ว เราก็มาถามเขา เขาก็บอกว่าไม่มี เราก็ไปถามที่กองละคร แล้วส่งไลน์หลักฐานการโอนเงินมาให้ดู เราก็มาโฟกัสที่เขาว่ามีอะไรจะอธิบายมั้ย คือเราโมโหที่เขาโกหก เราต้องเป็นตัวตลกของคนรอบข้าง ร่วมๆ เกือบห้าแสน
เรารับเงินก้อนนั้นมาจริงไหม ?
ฝน : จริงค่ะ ช่วงนั้นเราทำธุรกิจออนไลน์ เปิดร้านด้วย เราก็คิดว่าเอาเงินก้อนนี้มาลงทุนก่อน แต่ไม่กล้าบอกเขา เพราะถ้าบอกไปคือเขาไม่โอเคแน่ ๆ ซึ่งเรามั่นใจว่าธุรกิจตัวนี้มันไปต่อได้ พอเราเอาเงินไปลงทุนมันมีถอยตลอด เงินก็จมไปกับธุรกิจตัวนี้เกือบไม่เหลือ แล้วเขาก็มาจับได้
ต๋อง : มันยังมีสร้อยเกือบ 5 บาท ที่ผมซื้อเก็บไว้ให้ลูก ผมก็ถามสร้อยอยู่ไหน เขาก็บอกว่าหนูเอาไปจำนำขายหมดแล้ว มันถล่มอะ ทำไมไม่สงสารผัวเลย ผมก็ไล่เขาไป ลูกสองคนอยู่ข้าง ๆ ลูกก็บอกว่า อย่าทำแม่ จนลูกร้องเสียงดังมาก ผมก็มาปลอบลูก
พอเขาไล่เรา เราทำยังไง ปรับความเข้าใจยังไง ?
ฝน : คือจังหวะที่ทะเลาะกันเสร็จ กลางคืนก็นอนกับลูกสองคนก็พูดกับลูกว่า ถ้าวันนึงไม่มีแม่แล้ว ลูกต้องอยู่ให้ได้นะลูก แล้วเราก็ถามลูกว่า แม่ผิดขนาดนั้นเลยเหรอ แม่รู้ว่าแม่ผิดเพราะเงินก้อนนั้นเป็นก้อนที่จะเอาไปทำโฮมสเตย์
ต๋อง : แล้วหลังจากนั้นก็มีผู้จัดให้เบิกเงินล่วงหน้ามาก่อน แล้วเอาเงินมาหมุนก่อน
สุดท้ายอยากบอกอะไรกับสามีบ้าง ?
ฝน : เราขอโทษที่โกหก คิดว่าทุกอย่างมันหมุนทัน แต่มันไปจมกับสิ่งที่เราทำ แล้วเราไม่ได้ปรึกษาเขา แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำ คือทำเพื่อครอบครัว ไม่ได้คิดจะเลิกกับเขา ถ้ามันถึงจุดจุดนึงก็คงไปบวชโกนหัว พอแล้ว เรารักผู้ชายคนนี้มากที่สุด ถ้าวันนึงเราไม่อยู่ด้วยกันเราขอไปบวชดีกว่า
พอฟังเรื่องราวทั้งหมดคิดว่าให้อภัยได้ไหม ?
ต๋อง : ผมให้อภัยตั้งแต่ลูกร้องออกมาแล้ว พอเรามีลูกทุกอย่างมาวางไว้ที่ลูกหมดแล้ว ซึ่งผมก็รักเขาไม่น้อยกว่าที่เขารักผม ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ผมอยากให้เป็นอุทาหรณ์กับทุกครอบครัว เพราะทุกครอบครัวมีปัญหา ไม่มากก็น้อย แต่อยากให้เคลียร์กันให้จบอย่าให้ค้างคา เขาก็มาสารภาพ และบอกว่าต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว
ขอบคุณรายการ : คุยแซ่บโชว์ ช่อง ONE 31