- 29 ม.ค. 2562
ป.ป.ส. ขับเคลื่อนมาตรการเร่งด่วนแก้ไขปัญหายาเสพติด รอบ 3 เดือน พร้อมแผนลดความต้องการใช้ยาเสพติด
29 ม.ค.62 นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) พร้อมด้วย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และผู้บริหารจากกอง/สำนัก ร่วมแถลงผลการขับเคลื่อนมาตรการเร่งด่วนแก้ไขปัญหายาเสพติด รอบ 3 เดือน ณ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงาน ป.ป.ส.
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. แถลงผลการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในรอบ 3 เดือน(ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2561) ถือเป็นห้วงแห่ง การทำงานเชิงรุกนอกประเทศ เพื่อแสวงหาความร่วมมือในการสกัดกั้น ปราบปรามแหล่งผลิตที่เป็นต้นตอของปัญหายาเสพติดภายในประเทศ สามารถทำลายศักยภาพการผลิตได้จำนวนมาก ส่วนภายในประเทศเป็นห้วงแห่งการทำงานเชิงคุณภาพเพื่อวางรากฐานการป้องกัน จัดกลไกการบำบัดรักษาอย่างครบวงจร ส่งผลให้ประชาชนเกิดความพึงพอใจ เป็นไปตามนโยบายและข้อสั่งการของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ให้ทุกจังหวัดเร่งรัดการปราบปราม สกัดกั้น และลดความต้องการใช้ยาเสพติดในระยะเร่งด่วน โดยกำหนดให้มีแผนปฏิบัติการเฉพาะ เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดได้โดยตรง ส่งผลให้ระดับปฏิบัติการในพื้นที่เป้าหมายมีความเข้มข้น และจริงจังเพิ่มมากขึ้น ส่งผลต่อภาพรวมในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ดังนี้
- เน้นการปิดล้อมยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ (พื้นที่แหล่งผลิตสำคัญ) โดยร่วมมือกับ ไทย เมียนมา ลาว และจีน จัดชุดปฏิบัติการ มากกว่า 1,000 นาย เพื่อสกัดกั้นสารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ไม่ให้เข้าแหล่งผลิตในสามเหลี่ยมทองคำ ส่งผลให้สามารถทำลายศักยภาพแหล่งผลิตยาเสพติดไม่ให้เข้าพื้นที่ทางภาคเหนือได้
- เน้นสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนภาคเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่นำเข้าหลัก โดยสกัดกั้นยาเสพติด ในพื้นที่ไม่ให้เข้าประเทศไทย คิดเป็นร้อยละ 54.26 ของปริมาณยาบ้าที่จับกุมได้ทั่วประเทศ (ปี 2561 สกัดกั้นได้ร้อยละ 40.53)
- เน้นสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน โดยทุกหน่วยงานด้านการปราบปรามยาเสพติด ดำเนินการจับกุมยาเสพติดที่สำคัญ ของกลางยาบ้ามากกว่า 200 ล้านเม็ด ยึดทรัพย์ได้ 243 ล้านบาท ถือเป็นจำนวนสูงสุด เมื่อเปรียบเทียบกับ 3 เดือนเดียวกันในห้วง 3 ปีที่ผ่านมา
- การปฏิบัติการในจังหวัดและพื้นที่ ทุกจังหวัดมีการเพิ่มปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น ทำให้สามารถลดปัญหายาเสพติดในพื้นที่ตำบลเป้าหมายได้ นำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาได้กว่า 30,000 ราย
- การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ เน้นยกระดับนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการคัดกรองกว่าได้มากกว่า 5,000 คน
- นโยบายใหม่ ซึ่งขณะนี้เตรียมออกร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ในเรื่องกัญชา และพืชกระท่อม ซึ่งถือเป็นนโยบายต่อตัวยาเสพติดที่ก้าวหน้าที่สุดในกลุ่มประเทศอาเชียน และจะเป็นก้าวแรกของนโยบายใหม่ในระยะต่อไป รวมทั้งมีแนวทางที่เน้นมาตรการลดความต้องการใช้ยาเสพติด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ให้เป็นรูปธรรมให้มากที่สุด
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “เป้าหมายต่อไป คือ การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่มุ่งเน้นการลดความต้องการใช้ยาเสพติด มีเป้าหมายหลัก คือ ป้องกันผู้เสพรายใหม่ โดยการสร้างระบบนิเวศทางสังคมเพื่อป้องกัน ด้วยการสร้าง “พื้นที่ปลอดภัย” ที่ทุกชุมชนสามารถทำได้ ด้วยการมีส่วนร่วมของ ทุกภาคส่วน และลดการกลับไปเสพ/กระทำความผิดซ้ำ โดยจะมีการบูรณาร่วมกันกับหน่วยงานภาครัฐต่างๆ และกระบวนการชุมชนในการค้นหาผู้เสพให้เข้าสู่การบำบัดในระบบสมัครใจเป็นหลัก เพราะการบำบัดรักษา ถือเป็นมาตรการสำคัญอีกมาตรการหนึ่งในการลดความต้องการใช้ยาเสพติด”
ติดตามข่าวที่น่าสนใจอื่นๆได้ใน www.Tnews.co.th
ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ http://bit.ly/ทีนิวส์
ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ http://bit.ly/คนดีมีน้ำใจ