กูให้จนวาระสุดท้าย! พระอรหันต์​ หลวงพ่อคูณ ต้นแบบพระแท้(คลิป)

  ผ่านพ้นไปแล้วกับพิธีถวายเพลิงจริง สรีรสังขารพระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ณ เมรุลอยนกหัสดีลิงค์ ฌาปนสถานเมรุชั่วคราววัดหนองแวง พระอารามหลวง บริเวณด้านหลังพุทธมณฑลอีสาน

  ผ่านพ้นไปแล้วกับพิธีถวายเพลิงจริง สรีรสังขารพระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ณ เมรุลอยนกหัสดีลิงค์ ฌาปนสถานเมรุชั่วคราววัดหนองแวง พระอารามหลวง บริเวณด้านหลังพุทธมณฑลอีสาน จังหวัดขอนแก่น โดยมีบรรดาศิษยานุศิษย์และประชาชนที่ให้ความเคารพนับถือเดินทางมาร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก เพื่อส่งดวงวิญญาณหลวงพ่อคูณขึ้นสู่สวรรค์ เมื่อเวลา 22.15 น. คืนที่ผ่านมา โดยหลวงพ่อคูณถือเป็นหนึ่งในพระเถระชั้นผู้ใหญ่อีกองค์หนึ่งที่ประชาชนให้ความเคารพ ศรัทธา เพราะตลอดระยะเวลา 71 พรรษา ที่ท่านบวชมานั้นมีแต่การสร้างคุณงามความดีให้ประชาชนได้ประจักษ์แก่สายตามาก
 

กูให้จนวาระสุดท้าย! พระอรหันต์​ หลวงพ่อคูณ ต้นแบบพระแท้(คลิป)

 

   โดยวันที่ 19 พ.ค. 61 ที่ผ่านมา มีการเปิดเผยเรื่องการบริจาคเงินของหลวงพ่อคูณว่า หลวงพ่อคูณได้บริจาคเงินให้กับทุกหน่วยงาน ไม่ว่า จะเป็นการก่อสร้างวัด โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ว่าการอำเภอ สถานีตำรวจ ปัจจัยต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ รวมแล้วมากกว่า 5 พันล้านบาท โดยเฉพาะอำเภอด่านขุนทด ได้รับบริจาคมากที่สุด ทุกภาคส่วนแตกต่างกันไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านดำหริให้ก่อสร้างวิทยาลัยเทคนิคเป็นของอำเภอ เพื่อให้ลูกหลานมีที่เรียนใกล้บ้าน และหางานทำได้ง่าย ซึ่งชื่อว่า วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ตั้งอยู่ที่หมู่ 6 ต.ด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งหมด เกือบ 500 ล้านบาท โดยการก่อสร้างเพิ่มเติมเรื่อยมาตั้งแต่มีการประกาศจัดตั้งเมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2537 เป็นต้นมา นอกจากนี้ หลวงพ่อคูณยังบริจาคเงินอีก 50 ล้านบาท ให้เฉพาะการสร้างธนาคารสมอง หรือห้องสมุด ของวิทยาลัยเป็นการจำเพาะเจาะจง

       จากภาระกิจอันเป็นกุศลทั้งหมดที่หลวงพ่อคูณทำมากตลอดชีพนั้น ทำให้หายคนอดเปรีบยเทียบกับพระไชยบูลย์ ธมฺมชโย หรือ ไชยบูลย์ สุทธิผล อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ในตอนนี้ต้องคดีเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร จากกรณีพัวพันคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2558  ซึ่งในตอนนี้ยังหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบยอดเงินที่หมุนเวียนในวัดพระธรรมกาย ทั้งนี้ นพ.มโน เลาหวณิช อดีตพระวัดพระธรรมกายที่ใกล้ชิดพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัด ค่อยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับยอดเงินที่หมุนเวียนในวัดพระธรรมกายกว่า 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งอาจจะมีมากกว่านั้น

 

กูให้จนวาระสุดท้าย! พระอรหันต์​ หลวงพ่อคูณ ต้นแบบพระแท้(คลิป)

 

กูให้จนวาระสุดท้าย! พระอรหันต์​ หลวงพ่อคูณ ต้นแบบพระแท้(คลิป)

 

    โดยส่วนใหญ่จะใช้เงินจากการบริจาคต่างๆไปในทางโฆษณาวัดมากกว่าโดยพระไชยบูลย์ได้ก่อตั้งมูลนิธิธรรมกาย และเชิญชวนให้ประชาชนเข้ามาเป็นสมาชิกขององค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลกและสหประชาชาติ จนประชาชนหลงเชื่อเข้ามาบริจาคเงินเป็นจำนวนมาก หลังงานกฐินใน พ.ศ. 2552  วัดธรรมกายได้เริ่มก่อสร้างศาสนสถานขึ้นอีกหลังหนึ่ง โดยให้ชื่อว่า "อาคารร้อยปีคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง" ตามชื่อของอุบาสิกาที่ได้สอนธรรมะปฏิบัติให้แก่พระไชยบูลย์ ใช้งบกว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อประกาศความยิ่งใหญ่ของวัดธรรมกายเอง ทั้งนี้ส่วนมากเราจะเห็นว่าเงินที่ประชาชนบริจาคให้วัดธรรมกายส่วนใหญ่จะนำไปสร้างอาคาร หรือไม่ก็ซื้อที่ดิน นอกจากนี้เงินจำนวน3, 000 ล้านบาท ยังถูกโยงไป กับเงิน 714 ล้านบาท ในการก่อสร้าง อาคารร้อยปีคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง มาจากเช็คเงินสดของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดสมุดบริจาค "หลวงพ่อคูณ" ช่วยเหลือผู้คนมาตลอด 50 ปี เงินเกือบหมื่นล้าน

ทำไมหลวงพ่อคูณ จึงเป็นเทพเจ้าแห่งด่านขุนทด วิสัชนาโดย ว.วชิรเมธี และหิ้งพระที่ญี่ปุ่น

 หากเราย้อนดูหลักการของการเป็นพระอรหันต์จะเห็นว่าหลวงพ่อคูณนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ที่คนไปกราบไหว้มากมายนั้นมาจากอัปปมัญญาของท่านคือท่านมีเมตตาไม่มีสิ้นสุดแบบเดียวกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ทั้งยังมีความเป็นพระอรหันต์ในขั้นสูงมีการปฎิบัติจนถึงขั้นได้อภิญญา 6 และวิชชา 8 ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

อภิญญา คือความรู้อันยิ่งยวด มี 6 ประการคือ
1. อิทธิวิชา หรืออิทธิวิธี ได้แก่ความรู้ที่ทำให้แสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้
2. ทิพพโสต ได้แก่ญาณที่ทำให้มีหูทิพย์
3. เจโตปริยญาณ ได้แก่ญาณที่กำหนดใจคนอื่นได้
4. ปุพเพนิวาสานุสสติ ได้แก่ญาณที่ทำให้ระลึกชาติได้
5. ทิพพจักษุ ได้แก่ญาณที่ทำให้มีตาทิพย์
6. อาสวักขยญาณ ได้แก่ญาณที่ทำให้อาสวะสิ้นไป
จากข้อที่ 1-5 เป็นโลกียะคือแม้จะเป็นปุถุชนคนมีกิเลสก็เข้าถึงได้ ส่วนข้อที่ 6 จะต้องเป็นพระอรหันต์เท่านั้นจึงจะเข้าถึงธรรมข้อนี้ได้

วิชชาคือความรู้แจ้งมี 8 ประการดังนี้
1. วิปัสสนาญาณ ได้แก่ปัญญาที่พิจารณาเห็นสังขาร โดยความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา
2. มโนมยิทธิ ได้แก่ฤทธิ์สำเร็จด้วยใจ เช่น นิรมิตกายอื่นจากกายนี้ ตัวอย่างเช่น ขับไส้ออกจากหญ้าปล้อง เป็นต้น
3. อิทธิวิธิ ได้แก่แสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้
4. ทิพพโสต ได้แก่หูทิพย์
5. เจโตปริยญาณ ได้แก่ความรู้ที่กำหนดใจผู้อื่นได้
6. ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ได้แก่การระลึกชาติได้
7. ทิพพจักษุ ได้แก่ตาทิพย์
8. อาสวักขยญาณ ได้แก่ความรู้ที่ทำให้อาสวะหมดไป


จากข้อ 3-8 ตรงกับอภิญญา 6 ดังนั้นผู้ที่ได้วิชชา 8 ก็เท่ากับได้อภิญญา 6 แต่ผู้ที่ได้อภิญญา 6 ไม่เท่ากับได้วิชชา 8ถ้ามองในแง่พระวินัย หลวงพ่อคูณก็เหมือนกับภิกษุทั่วไปคือถือศีล 227 ข้อ ดำรงชีพด้วยการขอปัจจัย 4 จากผู้ที่มีศรัทธา และถวายสิ่งของแก่ปฏิคาหกผู้มีศีลในฐานะทายกผู้มีศรัทธา ซึ่งเป็นไปตามนัยแห่งความหมายของคำว่า ภิกษุคือผู้ขอ อันได้แก่ผู้ที่เลี้ยงชีพด้วยภิกขาจาร คือเดินไปพร้อมกับการขอ นั่นคือการเดินบิณฑบาตนั่นเอง

แต่ถ้ามองในแง่ของธรรม หลวงพ่อคูณเป็นพระภิกษุสายอรัญวาสีหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า พระป่า ปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้นจากกิเลส จะเห็นได้จากการปล่อยวาง ไม่ยึดติด เสียสละ ข้าวของเงินทองที่มีผู้มาถวายแก่สาธารณกุศล และล่าสุดแม้กระทั่งร่างกายของหลวงพ่อเอง ก็มอบให้เพื่อการศึกษาซึ่งเท่ากับให้ความรู้หรือที่เรียกว่า วิทยาทาน จากแนวทางการปฏิบัติที่หลวงพ่อคูณ แสดงให้เห็นและนำมาเปรียบเทียบกับธรรมะทั้ง 2 ประการดังกล่าวข้างต้นทำให้เชื่อได้ว่าหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ แห่งวัดบ้านไร่ บรรลุธรรม 2 ประการนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อมโนมยิทธิและอิทธิวิธิคือแสดงฤทธิ์ได้ จะเห็นได้จากการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่มากราบไหว้เพื่อขอพรให้ได้รับความสำเร็จในรูปแบบต่างๆได้ตามที่ขอ

 

  ซึ่งหลวงพ่อคูณนั้นมีครบหมดทุกอย่าง เนื่องจากหลวงพ่อคูณบวชเรียนตั้งแต่เยาว์วัย ทั้งนี้มีเรื่องเล่าถึงตอนมารดาของหลวงพ่อคูณตั้งครรภ์ ได้ปรากฎเรื่องอัศจรรย์ ฝันกลางดึกเวลาประมาณตี 3 นางได้ฝันเห็นเทพองค์หนึ่งมีกายเรืองแสงงดงาม ลอยลงมาจากสวรรค์ มาที่บ้านของนางและกล่าวว่า "เจ้าและสามีเป็นผู้มีศีลธรรม เมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งปวง ประกอบการงานอาชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทั้งยังสร้างคุณงาม ความดีมาตลอดหลายชาติเราขออำนวยพรให้เจ้า และครอบครัวมีแต่ความสุขสวัสดิ์ตลอดไป" นอกจากนั้นเทพองค์นั้นยังได้มอบดวงแก้วใสสะอาดสุกว่างให้แก่นางด้วย "ดวงมณีนี้ เจ้าจงรับไปและรักษาให้ดีต่อไปภายหน้า จะได้เป็นพระพุทธสาวกหน่อเนื้อพระชินวร เพื่อสืบพระพุทธศาสนา เป็นเนื้อนาบุญ ที่พึ่งของสัตว์โลกทั้งปวง" จนกำเนิดเป็น "คูณ ฉัตร์พลกรัง" หรือที่รู้จักในนาม หลวงพ่อคูณ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2466 สมัยที่หลวงพ่อคูณอยู่ในวัยเยาว์ 6 -7 ขวบ ได้เข้าเรียนหนังสือ กับพระอาจารย์เชื่อม วิรโธ พระอาจารย์ฉาย และพระอาจารย์หลีทั้งภาษาไทย และภาษาขอม ที่วัดบ้านไร่ สถานการศึกษาแห่งเดียวในหมู่บ้าน มิได้มีโรงเรียนทำการสอนเช่นในสมัยปัจจุบัน นอกจากเรียนภาษาไทยและขอมแล้ว 
พระอาจารย์ทั้ง 3 ยังมีเมตตาอบรมสั่งสอนวิชา คาถาอาคม เพื่อป้องกันอันตรายต่าง ๆ ให้แก่หลวงพ่อคูณด้วย นับว่าหลวงพ่อคูณรู้วิชาไสยศาสตร์มาแต่เยาว์วัย

 

กูให้จนวาระสุดท้าย! พระอรหันต์​ หลวงพ่อคูณ ต้นแบบพระแท้(คลิป)

 

         หลวงพ่อคูณอุปสมบท เมื่ออายุได้ 21 ปี ณ พัทธสีมาวัดถนนหักใหญ่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2487 (หนังสือบางแห่งว่า ปี 2487) ตรงกับวันศุกร์ เดือน 6 ปีวอก โดยพระครูวิจารย์ดีกิจ อดีตเจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด เป็นพระอุปัชฌาย์ พระกรรมวาจาจารย์ คือพระอาจารย์สุข วัดโคกรักษ์ หลวงพ่อคูณได้รับฉายาว่า ปริสุทโธ  หลังจากที่หลวงพ่อคูณอุปสมบทเป็นพระภิกษุเรียบร้อยแล้ว ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อแดง วัดบ้านหนองโพธิ์ ต.สำนักตะคร้อ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา (บางตำรากล่าวว่าเมื่อบรรพชาแล้วได้เล่าเรียนกับหลวงพ่อคง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดถนนหักใหญ่ก่อน แล้ว หลวงพ่อคงจึงนำไปฝากกับหลวงพ่อแดง) หลวงพ่อแดง เป็นพระนักปฏิบัติทางด้านคันถธุระ และวิปัสสนาธุระ อย่างเคร่งครัด และทั้งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เรืองวิทยาคมเป็นอย่างยิ่ง จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้คนและลูกศิษย์เป็นอย่างมาก ในหนังสือ ๔๐ พระอรหันต์บรรลุธรรมพุทธสมัย พ.1
ที่เขียนโดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก ได้กล่าวว่าท่านนั้นมีวาสนาเป็นอย่างมากเพราะท่านใช้คำว่ามึงกู ตลอดกับคนทุกชั้นชั้น บอกให้ท่านเลิกก็ไม่ได้เพราะถือเป็นวาสนาของท่าน

   นอกจากนี้หากนำการถวายพระเพลิงของหลวงพ่อคูณนั้นไปเปรียบเทียบกับการถวายพระเพลิงของท่านพุทธทาสภิกขุ นั้นมีความคล้ายคลึ่งกันเป็นอย่างมากในเงื่อนของความเรียบง่ายเผาร่างจนกลายเป็นเถาธุลีและดับไปโดยหลวงพ่อคูณเคยสั่งแก่ศิษย์ทั้งหลายไว้ว่างานถวายพระเพลิงของท่านของให้มีความเรียบง่ายที่สุดเผาร่างบนเชิงตะกอนตามแบบท่านพุทธทาสภิกขุ นอกจากนี้หลวงพ่อคูณยังไม่ยึดติดในสังขาร มอบร่างเป็นสื่อการศึกษาแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นเพื่อเป็น "ครูใหญ่" ให้นักศึกษาได้เล่าเรียนเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยท่านอื่น ตามเจตจำนงของหลวงพ่อคูณ ทั้งนี้เหตุผลที่หลวงพ่อคูณเลือกที่ มข. แทนที่จะเลือกโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ อาจารย์ประจำหอจดหมายเหตุ มข. เชื่อว่า ท่านมีความเมตตาต่อคนอีสาน การที่ท่านเลือกที่ มข. ส่วนหนึ่งมาจาก มข. เองเป็นมหาวิทยาลัยทางการแพทย์แห่งเดียวในภาคอีสาน ซึ่งการจะเป็นมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ได้ต้องมีมาตรฐาน ซึ่งที่นี่มีหลักสูตรการเรียนการสอนเรื่องการผ่าศพ  "กูมานึกได้ว่าอยากจะสร้างบารมี… เรื่องบริจาคศพ ดีกว่าเอาไปเผาทิ้ง ให้เขาเอาไปเป็นทาน ได้เป็นครูเขา …พวกลูกหลาน เมื่อถึงเวลาที่กูหมด ลมหายใจแล้ว พวกมึงก็อย่าได้หน่วงเหนี่ยวเลย ให้เขาไปเถอะ เพราะมันจะเสียเจตนาของกู ขอให้อนุโมทนากับกู"

 

กูให้จนวาระสุดท้าย! พระอรหันต์​ หลวงพ่อคูณ ต้นแบบพระแท้(คลิป)

 

  ทั้งนี้เตาถวายพระเพลิงของหลวงพ่อคูณนั้นถูกใส่ไว้ภายในเมรุลอยนกหัสดีลิงค์ ซึ่ง "เตาเผาดังกล่าวนี้มีขนาดเตา หากวัดจากภายนอกได้ ไม่รวมฐานเหล็ก กว้าง 1.52 เมตร ยาว 2.78 เมตร สูง 1.61 เมตรใช้อิฐประสาน 860 ก้อน ภายในเตาจะวางเรียงด้วยไม้จิก 129 ท่อน และไม้มงคลชนิดต่างอีก 6 ท่อน แบ่งเป็นไม้รองฟืน 2 ท่อน ไม้รองโลง 2 ท่อน และไม้ล็อคหัวโลง 2 ท่อน เมื่อเกิดการเผาไหม้ เถ้าอัฐิ จะหล่นลงถาดแสตนเลส ไม่ฟุ้งกระจาย และจะนำไปลอยอังคารแม่น้ำโขงตามพินัยกรรม"

 

กูให้จนวาระสุดท้าย! พระอรหันต์​ หลวงพ่อคูณ ต้นแบบพระแท้(คลิป)

 โดยการออกแบบเป็น "นกหัสดีลิงค์" ซึ่งเป็นตำนานตามความเชื่อของชาติพันธุ์ไทอีสานโบราณ ด้วยการจำลองเขาพระสุเมรุ มีสระอโนดาต และสัตว์ในตำนาน 30 ตัว ความสูง 22 เมตร โดยการก่อสร้างทั้งหมดเป็นสีขาว สื่อถึงความบริสุทธิ์ เรียบง่าย ตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณ ที่ระบุไว้ในพินัยกรรม หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ คือตัวอย่างที่ดีของความเป็นผู้ไม่ประมาทจนหลงตัวลืมตาย ดังจะเห็นได้จากคำสอนของท่านในหลายๆอย่าง ที่เน้นความไม่เที่ยงของสังขาร และทำความดีเพื่อชาติบ้านเมือง ทำนุบำรุงการศึกษาและเป็นผู้เรียบง่ายไม่หวังทรัพย์สินเงินทองตามแบบพระอรหันต์อย่างแท้จริง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

สาวโรงงาน รอดจากเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ ด้วยแรงอธิฐานกำเหรียญ "หลวงพ่อคูณ" โดดลงจากชั้น 3 ปลอดภัยดั่งปาฏิหาริย์

รวมทุกเลขเด็ด-เลขมงคล "หลวงพ่อคูณ" คอหวยแห่ซื้อเกลี้ยงแผง

"มนต์สิทธิ์ คำสร้อย"ได้เลขเด็ด หลวงพ่อคูณมา คนแห่ซื้อตามเพียบ(ภาพ)

ชาวเน็ตแห่ส่อง "เลขเรือนำอัฐิหลวงพ่อคูณ"ใกล้เคียง"เลขเหรียญวางกระดูก" ทำนักเสี่ยงโชคหลายคนแอบลุ้น