- 03 ก.พ. 2562
ส่องโผ 10อันดับ ปาร์ตี้ลิสต์ พลังประชารัฐ - สุริยะมาเป็นอันดับ 1!
รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่า การพิจารณารายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในลำดับต้นๆ ของพรรค โดยเฉพาะลำดับ 1 - 10 ของพรรค นำโดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อยู่ในลำดับที่ 1 , นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ลำดับ 2 , นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ลำดับที่ 3 , นายวิรัช รัตนเศรษฐ ลำดับที่ 4 , นายสันติ พร้อมพัฒน์ ลำดับที่ 5 , นายสุพล ฟองงาม ลำดับที่ 6 , น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ลำดับที่ 7 , นายณัฐฏพล ทีปสุวรรณ ลำดับ 8 , นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ลำดับ 9 และนายเอกราช ช่างเหลา ลำดับที่ 10
อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวระบุด้วยว่า ในส่วนของปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 11 - 20 ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนายทุนที่สนับสนุนพรรค และในลำดับที่ 20 เป็นต้นไปนั้น มีรายงานว่ารายชื่อยังไม่นิ่ง ทั้งนี้ แกนนำในพรรคบางคนมีการประเมินกันว่า พรรคจะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 30 คน เป็นอย่างน้อย
ทั้งนี้ มีการคาดกันว่าทางพรรคจะนำบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ยื่นสมัครต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมกับยื่นรายชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีพรรค ในวันที่ 8 ก.พ.นี้
ทั้งนี้ ในการปราศรัยบนเวทีเปิดตัวผู้สมัครทั่วประเทศทั้ง 350 เขต ที่ บางกอก อารีน่า หนองจอก เมื่อวันที่2ก.พ. ที่ผ่านมา นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า ว่า วันนี้เราประกาศเกียรติภูมิในการอาสารับใช้บ้านเมือง ถือเป็นการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีพี่น้องมารับฟังจำนวนมาก เชื่อว่า เลือกตั้ง 24 มีนาคม เราจะได้คะแนนถล่มถลายแน่นอน เราตั้งพรรค พปชร.เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า ไม่ถอยหลังสู้วังวนความขัดแย้ง พรรค พปชร.มาตามระบอบประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญ 2560 เราพร้อมรับใช้ประชาชน และเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย และจะเป็นตัวประสานความร้าวลึกให้สังคมไทยก้าวไปข้างหน้าให้ได้
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า แม้กระนั้นก็ยังมีบางกลุ่มที่ห่วงแหนความเป็นประชาธิปไตย ไว้เพียงพวกตน โดยชี้นิ้วไปที่พรรคอื่นว่า สนับสนุนเผด็จการ ทั้งนี้ ประชาธิปไตยที่แท้จริงคือ ประชาธิปไตยเพื่อประชาชน ยอมรับความเห็นที่แตกต่าง ไม่ใช่ประชาธิปไตยเพื่อใครบางคน หรือทำอะไรก็ได้เพื่อพวกพ้องของตน ไม่ใช่ประชาธิปไตยของคนที่เมื่อพ่ายแพ้แล้ว พาพวกลงท้องถนน ไม่ใช่ ที่หาพวกเตะฟุตบอล ก็ยังไม่ได้ ทั้งนี้ เราพร้อมเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย และอยากเห็นทุกกลุ่มเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยเช่นกัน ด้วยแนวคิด ด้วยผลงาน ไม่ใช่คนอื่นผิด แล้วตัวเองถูก ประเทศต้องการความสงบ ไม่ต้องการความขัดแย้ง เราจะไม่ยอมให้ใครนำพาประเทศไปสู่ความขัดแย้งและตกต่ำอีกแล้ว
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า มีคนบอกว่าพรรค พปชร.ได้เปรียบพรรคอื่น แต่เขาลืมไปว่า เราเกิดขึ้นจากรัฐธรรมนูญ เช่นกัน โดยรัฐธรรมนูญปี 2560 ออกแบบมาให้สอดรับกับบริบททางการเมืองที่มีความแตกแยกที่ร้าวลึกในสังคม และรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านประชามติประชาชนกว่า 15 ล้านเสียง ดังนั้นอย่ามาอ้างและผูกขาดความคิดของตนและมาโจมตีรัฐธรรมนูญ
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ปลายปี 2556 รัฐบาลหนึ่งก่อปัญหาด้วยการออกกฎหมายที่ประชาชนไม่ยอมรับ ก่อให้เกิดการชุมชน จนกระทั่งมีการเลือกตั้งแล้วเป็นโมฆะ แต่เหตุการณ์ไม่จบ เหตุการณ์กลับดำเนินต่อเนื่องไป โดยที่ประเทศไทยไม่มีนายกฯ ประเทศไม่รู้จะเดินไปทางไหน เป็นสูญญากาศของบ้านเมือง มีความรุนแรงขยายตัว เป็นผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องเข้ามาหยุดความสูญเสียของประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะตอนนั้นเป็นรัฐบาลรักษาการ ไม่มีนายกฯ ประเทศเดินหน้าไม่ได้ หากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตัดสินใจเข้ามา เราคงไม่มีวันนี้ อย่าใช้วาทกรรมว่า เป็นรัฐบาลเผด็จการ ต้องเคารพและยอมรับความจริง ไม่เช่นนั้นเราคงไม่มีวันนี้
“วันนี้ถ้าประเทศมีผู้นำที่ไม่เหมาะกับสถานการณ์ ไม่สามารถทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ทุกอย่างที่ทำอยู่จะเดินหน้าต่อไม่ได้ หวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะใช้เวลาตัดสินใจเพื่อบ้านเมืองมาเป็นผู้นำให้กับพรรคเรา นายกฯประยุทธ์ หากเป็นผู้นำของบ้านเมืองก้าวสู่เส้นทางประชาธิปไตย ต้องน้อมรับการตัดสินใจของประชาชน บ้านเมืองต้องการคนดี คนเก่ง ต้องการคนเด็ดขาดกล้าตัดสินใจ ต้องการผู้นำมีประชาชนยอมรับ ไม่ใช่เป็นผู้นำบางคนที่ในพรรคยังไม่ยอมรับ พลังประชารัฐเสนอนายกฯที่ดีที่สุด เป็นพรรคที่มีความพร้อมที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้งด้านนโยบายนำพาประเทศก้าวหน้า มีผู้นำระดับนายกฯ และนักบริหารมืออาชีพมากกว่าพรรคอื่นๆ พร้อมรับใช้ประชาชน โดยมีผู้สมัครพร้อมอาสาตัวรับใช้ประชาชน 350 เขต บวก 150 แบบปาร์ตี้ลิสต์ ถือเป็นกองทัพที่พร้อมแล้ว ขอมอบความไว้วางใจพวกเขา และเราจะร่วมตัวกันเป็นตัวแทนประชาชนเดินเข้าสภา และตั้งรัฐบาลก้าวข้ามความขัดแย้ง” เลขาธิการพรรค พปชร. กล่าว