- 07 ก.พ. 2562
"ทนายอนันต์ชัย" เดินหน้าชนตร.สุพรรณฯ ฟ้องรวด 12 ชุดสอบสวน พิสูจน์ชัด "นายฝน" ถูกยัดข้อหาคดีสังหาร "ซูลุยผิว" (คลิป)
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ได้มีการค้นหา ด.ช.ซูลุยผิว อายุ 2 ขวบ ชาวพม่า หลังหายตัวเข้าไปในไร่อ้อย พื้นที่หมู่ 9 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 ได้ระดมกำลังเดินปูพรมลาดตระเวนในไร่อ้อย พื้นที่ 1,400 ไร่ พร้อมกับชาวบ้านอาสาในพื้นที่ ที่ให้ความช่วยเหลือ ตามที่ได้มีการนำเสนอไปแล้วนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ไทม์ไลน์ น้อง ซูลุยผิว หายตัว 9วัน ก่อนพบร่างไร้วิญญาณกลางป่าอ้อย!
ต่อมามีรายงานว่าทางด้านพลตำรวจตรีคมศักดิ์ สุมังเกษตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมทีมพนักงานสอบสวนร่วมกันแถลงข่าว กรณีการเสียชีวิตของด.ช.ซูลุยพิว หรือ น้องต้าแง ชาวเมียนมา หลังจากความคืบหน้าผลพิสูจน์ สถาบันนิติวิทยานิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ และนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรมออกมาตรงกัน ว่าเด็กเสียชีวิตเองจากการจมน้ำ
ขณะที่ทางด้านพ.ต.อ.สมเดช เกษมสุข ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน.ภ.จว.สุพรรณบุรี ได้ชี้แจงถึงประเด็นที่มีการตั้งข้อสงสัยเพิ่มเติม ในจุดที่พบร่างเด็กชาย 2 ขวบ เสียชีวิต ว่าทำไมถึงหาไม่เจอตั้งแต่วันแรกที่มีการระดมเจ้าหน้าที่ค้นหา ทั้งที่จุดดังกล่าวมีการค้นหาจนทั่วแล้วในวันแรก แต่กลับไปพบเด็กนั้น ว่าจากผลการชันสูตรเราได้นำมาเทียบเคียงกับสมมติฐานตอนต้น ว่า อาจจะเกิดการอุบัติเหตุ หรือมีการพาน้องไป ซึ่งพบว่าสภาพศพภายนอก ไม่น่าจะมีการทำให้เสียชีวิต
ทั้งนี้พบว่าสมมติฐานที่ 2 ที่มีคนพาไปเป็นเรื่องถูกต้อง ว่า มีคนพาไป โดยการสอบสวนนายฝน ชายสติไม่ดี อายุ 32 ปี ทางทีมสอบสวนโดยใช้นักจิตวิทยาเข้ามาสอบสวน นายฝนเล่าว่า มีการพาเด็กไป ไม่สามารถช่วยน้องได้ เพราะน้องตัวหนัก โดยร่องน้ำที่พบเป็นร่องน้ำลึก 150 ซ.ม. ซึ่งน้ำจะปล่อยมาเป็นระยะ วันที่เกิดเหตุน้ำถูกปล่อยมาเต็มร่องน้ำ ซึ่งคำพูดแรกของนายฝน คือ น้องจมน้ำ โดยการสอบสวนทำได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากสมองของนายฝน เท่าเด็ก 5 ขวบ แต่มีการพูดว่าน้องกลัววิ่งหนี
การสอบสวนผู้ที่พัฒนาการทางสมองต่ำกว่าปกติ ได้สอบสวนพร้อมพ่อแม่ นักจิตวิทยา วันที่สอบสวน มีการให้นายฝน นำทางไป โดยเราถ่ายวิดีโอ พบว่า นายฝนนำทางไปถูกทั้งสองครั้ง ส่วนของเล่นที่เป็นรถไถ อยู่ติดกับบ้านนายฝน เพราะเด็กข้างบ้านมีหลายคัน เชื่อว่านายฝน ไปหยิบมาเพื่อให้น้องด้วย ซึ่งชายคนนี้มีความเกี่ยวข้องกับเด็ก แต่ไม่มีข้อบ่งชี้ว่าทำร้ายเด็ก และการที่ไม่พบศพในวันแรกๆ
ทั้งที่บริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่มีการตัดอ้อยออก น่าจะเพราะศพยังไม่ขึ้นมาจากน้ำจึงไม่ได้กลิ่น ซึ่งมีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นตลอดเวลา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาพรากผู้เยาว์ แต่ยังไม่โดนคดีฆ่าคนตาย ต้องรอการพิสูจน์หลักฐานอีกครั้งหนึ่ง หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง
นอกจากนี้ทางด้านพ.ต.อ.รณกร ประคองศรี ผู้กำกับการ สภ.สระยายโสม เปิดเผยเพิ่มเติมในการเอาผิดชายสติไม่ดี ระบุว่า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 "ผู้ใดโดยปราศจากเหตุอันสมควร พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกพันบาทถึงสามหมื่นบาท” นอกเหนือจากนี้ต้องรอการสืบสวน และผลชันสูตรต่อไป
ก่อนหน้านี้ทราบว่าแม่ของนายฝน ได้เปิดใจ หลังลูกชายตนเองตกเป็นจำเลยในคดีว่า ไม่เชื่อว่านายฝนจะเป็นคนที่ทำให้เด็ก 2 ขวบ เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวลูกชายไปสอบปากคำตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมา
ส่วนใหญ่นายฝนจะให้การกับเจ้าหน้าที่วนไปวนมา เดี๋ยวนายฝนก็บอกว่าไปตีกลองมั้ง ไปปั่นจักรยานบ้าง จนตำรวจถามว่าเห็นน้องมั้ย ก่อนที่นายฝนจะตอบว่า น้องตกน้ำแล้ว ช่วยไม่ได้ แต่เหมือนนายฝนจะตอบตามที่ตำรวจถาม จึงไม่เชื่อเลยว่าลูกชายจะอยู่กับเด็ก 2 ขวบ เป็นคนสุดท้าย ปกติลูกชายมักจะไม่ไปทางไร่อ้อย แต่ลูกชายจะปั่นจักรยานไปในทางดิน
ในเวลาต่อมาบรรยากาศที่สภ.สระยายโสม จ.สุพรรณบุรี ชาวบ้านกว่า 200 ชีวิต บุกประท้วงชูป้ายข้อความ เรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับ “นายฝน” หลังตกเป็นผู้ต้องหาพรากผู้เยาว์ และถูกระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องทำให้ด.ช.ซูลุยผิว เสียชีวิต หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงปิดคดีไปเมื่อวาน (29 ธ.ค.61) โดยมีพ.ต.อ.รณกร ประคองศรี ผกก.สภ.สระยายโสม และ นายธนพล สังขพันธุ์ ปลัดอำเภออู่ทอง เป็นตัวกลางเจรจาไกล่เกลี่ย
โดยชาวบ้านไม่เชื่อว่านายฝนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ ด.ช.ซูลุยผิว งัย 2 ขวบ ประกอบกับมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่า ในช่วงเวลาที่เด็กหายตัวไปนั้น นายฝนได้ช่วยงานอยู่ที่วัดนันทวัน ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง เพราะเป็นวันพระ และถึงแม้ว่านายฝนจะสติไม่ดี แต่ก็ไม่เคยทำร้ายใคร และยังเป็นที่รักของชาวบ้าน จึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับนายฝน
ต่อมา ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "ฟ้าผ่า...วันตรุษจีน สภ.สระยายโสม...!
เรียน ประชาชนและพี่น้องสื่อมวลชนทุกท่าน ด้วยความเคารพ
คดีที่นายฝน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สระยายโสม แจ้งความดำเนินคดี ข้อหาพรากผู้เยาว์ เด็กชายซูลุยผิว ชาวเมียนมาร์
ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เมตตาปล่อยตัวนายฝนให้ได้รับอิสระภาพแล้วครับ ถือเป็นของขวัญวันตรุษจีน อันล้ำค่า สำหรับนายฝน...!
ผลการตรวจนายฝน จากสถาบันกัลยาณ์ราชนครนิทร์ ออกมาแล้วเช่นกัน !
ผม....อ่านผลตรวจแล้ว ตกใจมาก...!
อยากให้ทุกท่านได้อ่าน แล้วท่านจะสงสารนายฝนมาก ตำรวจยังไม่รู้สำนึกในการกระทำของตนเอง ถือเป็นเรื่องที่น่าละอาย และเป็นความอัปยศของทีมตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.สระยายโสม อย่างไม่น่าให้อภัย !
หากทุกท่านอยากทราบความจริง และจะได้พบกับนายฝน นักข่าวจะได้สัมภาษณ์นายฝน ตัวเป็น ๆ แล้วท่านจะรักและสงสารนายฝน ท่านจะรู้ว่านายฝน คือ “แพะ” หรือ “แกะ” กันแน่ ?
และผลงานที่ผู้การสุพรรณบุรี แถลงข่าวไว้เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2561 สมควรได้รับการยกย่อง หรือประนาม และควรได้รับถ้วยรางวัลแบบไหน...?
ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 10.00 น. ณ กองปราบฯ
ผมจะพานายฝน พ่อแม่นายฝน ไปแจ้งความดำเนินคดีกล่าวโทษกับทีมชุดสืบสวนสอบสวน สภ.สระยายโสม กว่า 12 นาย และผู้เกี่ยวข้องทุกคนไม่มีละเว้น และจะเปิดเผยรายชื่อทีมตำรวจชั้นสัญญาบัตร จำนวน 12 นาย ที่จะได้รับ...อั่งเปา...! ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562
ก่อนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 อยากให้นักข่าวไปถามผู้การสุพรรณบุรี หรือ ผกก.สระยายโสม ว่า คดีนายฝน ถึงไหนแล้ว รับรองไม่มีคำตอบ ?
แต่ผมมีคำตอบให้ประชาชนและสื่อมวลชนทุกท่านแน่นอน!
ทุกท่านจะได้ทราบผลของคดี ทำไมตำรวจเงียบกริบ?
ผมจะลากไส้! ทีมตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.สระยายโสม มาให้ประชาชน และพี่น้องสื่อมวลชน ได้ทราบ
บอกได้คำเดียวว่า “ มัน... สุด ๆ ! ”
เตรียมผ้าห่มและเสื้อกันหนาว ไว้ด้วยน่ะ !
แล้วเจอกัน....!
ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช"
ล่าสุด ทนายอนันต์ชัยพานายฝันและครอบครัว เข้าแจ้งความร้องทุกข์กองปราบ เพื่อเอาผิด จนท.ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.สระยายโสม กว่า 12 นาย และแพทย์ผู้เกี่ยวข้องในคดี น้องต้าแง รวม 4 ข้อหา พร้อมเตรียมฟ้อง ปปช. เรียกค่าเสียหาย 10 ล้าน
โดยที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ได้พา นายฝน ผู้ต้องหาคดีพรากผู้เยาว์ เด็กชายซูลุยผิว หรือ น้องต้าแง ชาวเมียนมา อายุ 2 ขวบ ที่เสียชีวิตในไร่อ้อย จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมครอบครัว เข้าพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.สระยายโสม กว่า 12 นาย
และแพทย์ที่ลงความเห็นว่าคำให้การของนายฝนเขื่อถือได้ ในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่ปลอมแปลงเอกสาร กลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา และหน่วงเหนี่ยวกักขัง ฐานที่บกพร่องต่อหน้าที่ ไม่รวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ก่อนแถลงข่าวและออกหมายจับนายฝน ข้อหาพรากผู้เยาว์ เนื่องจาก คดีมีการสอบสวนโดยชี้นำพยานให้เป็นไปตามความต้องการของพนักงานสอบสวน และละเว้นสอบสวนพยานบางปาก
อีกทั้งยังมีการไปควบคุมตัวนายฝนที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์อย่างไม่ถูกต้อง มีการให้นายฝนพิมพ์ลายนิ้วมือรับทราบหมายจับ ทั้งที่นายฝนไม่อยู่ในสภาพเหมือนเช่นคนปกติ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยไปร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อสอบสวนทางวินัยกับตำรวจชุดดังกล่าวด้วยแล้ว ขณะที่ นายฝน เล่าว่า ระหว่างที่ถูกควบคุมตัว ตำรวจได้ใช้เชือกมัดมือ ตบหน้า และใช้บุหรี่จี้ที่ข้อมือด้วย
นายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า จากที่นายฝนได้พูดจาและเล่าเรื่องราวกับสื่อมวลชน ซึ่งการพูดจาวกไปวนมา เรียบเรียงเหตุการณ์ไม่ได้ เป็นการพิสูจน์ได้ว่า นายฝนไม่ได้อยู่ในสภาพเหมือนบุคคลทั่วไป ซึ่งผลการตรวจสติปัญญาของสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ระบุว่า นายฝนเป็นคนปัญญาอ่อน อายุเทียบเท่าเด็กอายุ 7 ขวบ แต่ตำรวจชุดที่ทำคดีนึ้กลับไม่มีการสอบสวนพยานให้ครบถ้วนกระบวนความ ซึ่งขณะนี้คดีเป็นที่สิ้นสุดแล้ว เนื่องจากตำรวจยื่นคำร้องขอปล่อยตัวต่อศาล เนื่องจากนายฝนไม่อยู่ในสภาพของคนปกติ คดีนี้ถือเป็นความบกพร่องของตำรวจชุดทำคดี จึงจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ชาวบ้านบุกสภ.สระยายโสม ไม่เชื่อ"หนุ่มสติไม่ดี"เป็นต้นเหตุ"น้องซูลุยผิว"เสียชีวิต
- "ทนายอนันต์ชัย" ใช้เงินส่วนตัว ประกัน "นายฝน" หลังถูกล่าวหา พรากผู้เยาว์ "เด็กชายซูลุยผิว"