ไร้ปาฎิหารย์! "น้องใบหม่อน" ถูกมอไซค์ซิ่งชนตรงทางม้าลาย เสียชีวิตแล้ว

ไร้ปาฎิหารย์! "น้องใบหม่อน" ถูกมอไซค์ซิ่งชนตรงทางม้าลาย เสียชีวิตแล้ว

จากกรณี เฟซบุ๊กผู้ประกาศข่าวชื่อดัง Kendo Photjanasuntorn ได้มีโพสต์เรื่องราว โดยระบุว่า อาจจะยาวหน่อย ส่วนในเรื่องของคู่กรณี คนขับ อายุ 21 ปี วันเกิดเหตุเจ็บ เพียงหน้าอก และข้อเท้า แม่คนขับ ได้เข้ามาดูน้อง วันผ่านๆ วันเสาร์ที่ 26 มกรา ทางครอบครัวคนขับได้เข้ามาดู ยื่นกระเช้าวีต้าพรุนให้ แล้วพูดขอโทษ แหะๆ ไม่ได้ตั้งใจแหะๆ คือดูแล้วเหมือนไม่ค่อยจะสำนึกผิดสักเท่าไหร่ ถามอาการน้อง ก็เป็นอย่างที่เห็น คือ นอนอย่างเดียว แล้วก็เริ่มต้นด้วยการถามหาประกันของน้องจากเรา น้องไม่ได้ทำประกันอะไร เค้าจะให้เราใช้ประกันกลุ่มของโรงเรียน ซึ่งมันควรที่จะให้เค้าใช้ไหมเพราะมันเป็นของน้อง

 

แล้วเค้าถามแม่น้องว่า ไปทำเดินเรื่อง 30 บาทยัง คือทางเราคิดว่า พวกคุณจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยใช่ไหม คุณทำลายอนาคตเด็กที่กำลังจะไปได้ดี คุณทำให้ครอบครัวเค้าสิ้นหวัง หมดกำลังใจ คุณไม่เคยคิดที่จะยื่นมือช่วยเหลือค่าใช้จ่ายอะไรเลย แม้แต่ถามไถ่ว่าแม่น้องเป็นยังไงบ้าง ทำงานอะไร หยุดงานแล้วจะเป็นอะไรไหม ได้แต่พูดแต่ของตัวเองว่า ลูกเค้าก็เจ็บ ไปก่อนนะ เดี๋ยวต้องไปทำงาน ทั้งๆที่แม่น้องเค้าเป็น ซิงเกิลมัม ดูแลลูกทุกอย่างอย่างดีมาตลอด 15 ปี ไม่เคยปล่อยให้ลูกเป็นอะไร ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม เป็นอะไรก็เข้าหาแต่โรงพยาบาลเอกชน ไม่ก็โรงพยาบาลรามาเท่านั้น ดูๆแล้ว เหมือนทางคู่กรณีจะขาดสามัญสำนึกและความรับผิดชอบ

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง    
-นักเรียนหญิงข้ามทางม้าลายตามสัญญาณไฟ รถมอเตอร์ไซค์ไม่สนชนกระเด็น พอเข้ารักษายังมีหน้าถามเดินเรื่อง 30 บาทหรือยัง #ตำรวจเงียบบอกคงไม่เป็นไร

เรื่องนี้อยากจะฝากเป็นอุทาหรณ์เตือนลูกหลานท่านเรื่องการ ฝากผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดให้ช่วยกันพิจารณา สร้างสะพานลอยให้เด็กได้ใช้ข้ามถนนเถอะ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีอุบัติเหตุบ่อย แต่ของน้องคือร้ายแรงสุด อยากให้เคสนี้เป็นเคสสุดท้ายที่เกิด ถึงคุณจะติดสัญาณไฟข้าม แต่จิตสำนึกของคน และสันดานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

ไร้ปาฎิหารย์! \"น้องใบหม่อน\" ถูกมอไซค์ซิ่งชนตรงทางม้าลาย เสียชีวิตแล้ว

สำหรับความคืบหน้าในวันนี้นั้น หลังจากที่ 

 “หฤทัย ตันตศิริ” แม่น้องใบหม่อน ได้ไปออกรายการ โหนกระแสวันที่ 8 ก.พ. โดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้า คุณแม่เป็นครู มีลูกกี่คน?
หฤทัย : “มีลูกคนเดียวค่ะ กับคุณพ่อแยกทางกันตั้งแต่น้องยังเด็ก ประมาณขวบกว่าๆ”

เหตุการณ์เกิดอะไรขึ้น?
หฤทัย : “วันที่ 22 ม.ค. ตอนแรกโทรศัพท์ชาร์จทิ้งไว้ไม่ได้ติดตัว พอไปดูโทรศัพท์ มีติดต่อเข้ามาหลายสายเป็นเบอร์ที่ไม่ได้รู้จัก พอมีโทรศัพท์เข้ามาอีกก็รับ เขาบอกว่าเขาเป็นรุ่นพี่ของน้อง เขาบอกว่าน้องถูกรถชน แม่ก็ตกใจ เป็นอะไรมากมั้ย เขาบอกว่าส่งน้องไปรพ.พุทธมณฑล ให้คุณแม่รีบตามมา ขับรถไปได้สักพัก ก็มีเด็กผู้หญิงที่น่าจะเป็นเพื่อนน้องที่ไปด้วย บอกว่าตอนนี้กำลังอยู่บนรถฉุกเฉิน จะไปที่รพ.นครปฐม ย้ายโรงพยาบาล แม่ก็รีบไป ตอนไปถึงรพ. น้องก็อยู่ในห้องฉุกเฉิน สักพักคุณหมอถึงเรียกเข้าไปพบ หมอบอกว่าน้องมีอาการสมองบวม มีเลือดออกด้านขวาเล็กน้อย”

ตอนนั้นน้องก็ไม่รู้สึกตัว?
หฤทัย : “วันแรกที่ไปไม่รู้สึกตัว ถูกย้ายขึ้นไปชั้น 4 น้องก็เริ่มรู้สึกตัวบ้าง แต่ถูกมัดเอาไว้ เพราะเขามีการสอดท่อช่วยหายใจ มีการขยับตัวบ้าง”

หลังเกิดเหตุ ฝั่งคู่กรณีมาเยี่ยมมั้ย?
หฤทัย : “ก็มีมาเยี่ยมตอนเช้า วันเกิดเหตุคือวันอังคาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ เขาก็มา อาทิตย์มากันทั้งครอบครัว ทุกเช้าที่มาก็ถามว่าน้องเป็นยังไง คือแม่ก็ไม่ได้อยากคุยด้วยสักเท่าไหร่ ถามวาโกรธมั้ยเราก็โกรธ ไม่ค่อยมีบทสนทนา แต่มีคนมาเยี่ยมน้องตอนเช้าเหมือนกัน เขาก็สอบถามทางโน้นว่าแม่ซื้อรถนานหรือยัง เขาเป็นเพื่อนของพี่สาว ถามว่าขับผ่านทางนี้บ่อยมั้ย เขาก็บอกว่าเป็นทางกลับบ้านเขา เขาก็เปิดรูปให้ดูว่าเป็นคันนี้ เพิ่งซื้อได้ 3-4 เดือน คนชนอายุ 21 เขาบอกลูกเขาก็เจ็บ เพื่อนพี่สาวก็เลยถามว่าเจ็บตรงไหน เขาบอกว่าเจ็บหน้าอก เขาเบรกรถแล้วอกไปกระแทกกับตัวถัง”

ในภาพไม่ได้เบรก?
หฤทัย : “ค่ะ เขาบอกว่าเขาเบรกแล้วแต่เบรกไม่ทัน แม่เขาบอกว่าลูกเขาเล่าว่าเขาเห็นน้องเดินก้มหน้ามา เขาเบรกแล้วแต่เบรกไม่ทัน แม่เขาพูดในครั้งแรก”

มาแก้ตัวอะไรอีกมั้ย?
หฤทัย : “ไม่ค่ะ ทุกครั้งที่มาก็จะบอกว่าขอกลับก่อน จะไปทำงาน”

การแสดงความรับผิดชอบล่ะ? 
หฤทัย : “ไม่เคยพูดถึงคำนั้น มีเมื่อวันศุกร์ทางรพ.ให้เรายื่นเอกสารเกี่ยวกับพรบ. เราก็บอกว่าให้เขาเอาเอกสารมา เราจะไปยื่นให้ ทางรพ.บอกว่าขาดบัตรประชาชนของคนขับชน เราก็บอกให้เขาเอามาตอน 4 โมงเย็น หลักฐานตร.ก็ยังขาดตราประทับที่เป็นสีน้ำเงินเหมือนสำเนาถูกต้อง ก็วิ่งจากรพ.ไปที่สน.พุทธมณฑลให้ เพื่อประทับตรา แล้วรอเอกสารจากทางเขาเพื่อไปยื่นอีกรอบ ทางรพ.สรุปค่ารักษาเมื่อวันศุกร์ 36,000 ซึ่งพรบ.จะจ่าย 30,000 แรกให้ก่อน โดยไม่ต้องสำรองจ่าย แต่ที่เกินจากนี้ ทางคู่กรณีสำรองจ่าย ให้เตรียมเงินไว้ 5 หมื่นบาท แม่ก็โทรไปบอกเขาว่าคุณแม่คะ ทางรพ.แจ้งมาอย่างนี้ 5 หมื่นหลังนี้คุณแม่สำรองจ่ายนะ”

เขาว่าไง?
หฤทัย : “เขาก็พูดมาว่าแล้วน้องมีสิทธิ์ 30 บาทมั้ย เราก็อึ้งๆ ก็คิดในใจว่าให้ใช้ 30 บาทเหรอ เขาก็บอกว่าสอบถามมาว่าใช้สิทธิ์ 30 บาทได้ จนวันอาทิตย์เขามาที่รพ. มีญาติๆ เขามา ไม้ทราบเป็นใครบ้างยืนล้อมข้างเตียง คนที่เป็นพี่ก็บอกว่าน่าสงสารเนอะ เขาก็มีลูกวัยประมาณนี้เหมือนกัน เขาก็เล่นโทรศัพท์ด้วยเนอะ ตอนนั้นเราเห็นภาพแล้วเราก็เฉยๆ เราก็บอกว่าไม่ทราบเหมือนกัน ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์”

ไม่น่าพูดแบบนั้น เหมือนหาว่าไม่ดูรถ เพราะก้มดูโทรศัพท์?
หฤทัย : “ค่ะ แล้วเขาก็ถามว่าน้องมีประกันอะไรบ้าง ก็บอกว่าไม่มี ไม่ได้ทำประกัน อีกคนนึงไม่ทราบว่าเป็นอะไรกับคนขับ ดูเด็กๆ เขาบอกว่าแล้วประกันโรงเรียนล่ะ อันนั้นมันประกันกลุ่มเงินแค่นิดเดียว ได้ 7-8 พันเป็นค่ารักษา แม่เขาก็เลยพูดว่าแม่ไปยื่น 30 บาทมาหรือยัง”

จะดันให้ใช้ 30 บาทให้ได้ จะไม่ช่วยควักอะไรเลย อีกเรื่องญาติฝั่งที่ชนพูดว่าน้องก็เล่นโทรศัพท์ โทรศัพท์น้องอยู่ในกระโปรงไม่ได้เล่นโทรศัพท์?

หฤทัย : “ใช่ ถามเพื่อนน้องแล้วว่าเอาโทรศัพท์มาจากตรงไหน เขาบอกว่าเอามาจากกระโปรง”

ตอนแรกเหมือนน้องดีขึ้นแล้ว แล้วทำไมถึงทรุดลง?
หฤทัย : “หมอบอกเป็นภาวะสมองบวมเฉียบพลัน อยู่ดีๆ ก็บวมขึ้นมา ตอนดีขึ้นเขาพูดได้ แต่มีอาการปวดหัว มีเลือดออกหูข้างนึง รู้สึกหูอื้อ ทุกอย่างจำได้หมด แต่เขาอยากจะนอนมากกว่าเพราะปวดหัวมาก ก็พูดได้ พยายามปลุกเขาขึ้นมา”

ชน 22 ม.ค. น้องฟื้นวันไหน?
หฤทัย : “คืน 22 ม.ค. เขาก็รู้สึกตัว เขาถูกสอดท่อเขาทรมาน วันที่ 23 เขาตอบโต้ได้ หมอก็ถอดท่อออก ใส่ออกซิเจนอย่างเดียว อาการก็ทรงอย่างนี้ แต่อาการบวมลดลงกว่าวันแรก กระทั่งวันที่หมอบอกว่าถ้าเอกซเรย์ครั้งสุดท้ายถ้าไม่เป็นอะไร สามารถกลับบ้านได้ ทีนี้วันที่ 7 น่าจะเป็นวันที่ 29 ม.ค. ถ้าสแกนครั้งสุดท้ายสามารถกลับได้ถ้าไม่มีอะไร แต่น้องเกิดอาการตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 28 เขาจะนอนอย่างเดียว ไม่ตอบโต้”

น้องลืมตาได้ แต่ 28 ม.ค.เริ่มตอบโต้ไม่ได้?
หฤทัย : “เขาเริ่มซึมๆ ช่วงเย็น ตอนแรกคิดว่าเขาเพลียยาเพราะมียาคลายกล้ามเนื้อร่วมไปด้วย พอเช้า 29 เกิดอาการตั้งแต่ช่วงตี 4 ตี 5 หมอเลยส่งไปเอกซเรย์ ปรากฏว่าสมองบวมมาก บวมกลับขึ้นมาอีก” 

สาเหตุ?
หฤทัย : “ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เขาบอกว่าสามารถเป็นได้ภายใน 7 วันต้องเฝ้าระวัง มันกลับขึ้นมาบวมอีก ทำให้เส้นเลือดหดตัว เลือดไม่ส่งไปเลี้ยงสมอง เขาก็ไม่คุยไม่อะไรเลย ทิ้งตัวนอนอย่างเดียว พยายามดึงมานั่งก็ขืนตัวตลอดเวลา”

เป็นเจ้าหญิงนิทราตั้งแต่ 29 ม.ค. จนถึงวันนี้ 8 กพ.
หฤทัย : “จะเรียกว่าเป็นเจ้าหญิงนิทราเลยก็ไม่ได้ การเป็นเจ้าหญิงนิทราต้องหายใจเองได้ แต่นี่เขาหายใจเองไม่ได้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้าถอดสายเขาก็หายใจเองไม่ได้ ต้องใส่เอาไว้” 

ทางฝั่งโน้นว่ายังไง?
หฤทัย : “พอวันจันทร์แม่เขาก็มาตอนเช้าเห็นพยาบาลวุ่นวายกับน้อง เพราะน้องเขาเกิดอาการแล้ว เขาก็ปลีกตัวออกไป เขามีไลน์มาถามแต่แม่ไม่ได้ตอบว่าน้องเป็นยังไง”

จากวันที่ชน ลูกชายเขามามั้ย?
หฤทัย : “มาวันอาทิตย์ที่มาล้อมเตียงอย่างเดียว เขามายื่นกระเช้า หัวเราะทำหน้าแหยๆ เหมือนพูดไม่ถูก เหมือนทำหน้าไม่ถูก แล้วบอกว่าขอโทษด้วย คือถ้าใจเราก็ต้องทำหน้าสลดนิดนึง ไม่ใช่มาทำหน้าแบบนั้น”

นอกเหนือจากบัตร 30 บาทที่คัฟเวอร์ มีอะไรที่คัฟเวอร์ต้องใช้
หฤทัย : “ของสิ้นเปลือง แผ่นรองซับ กระดาษทิชชู่ ของใช้ที่ทางรพ.เขาต้องใช้ อันนั้นต้องซื้อเอง” 

แม่ทำอะไรบ้าง ที่ต้องช่วยน้อง?
หฤทัย : “ตอนนี้ไปยื่นฎีกาเข้าสำนักพระราชวัง มันสุดทางแล้ว เราอยากทำอะไรที่มันดีที่สดสำหรับลูกเรา อะไรที่คิดว่าเราทำได้เราก็จะทำ เราก็เลยยื่นหนังสือไปทางสำนักพระราชวังเพื่อขอความช่วยเหลือ เขาบอกว่าเราขอความช่วยเหลือด้านไหน เราบอกว่าขอความช่วยเหลือทางด้านการแพทย์ ทำอะไรก็ได้ในนาทีสุดท้ายนี้ให้เขากลับมาดีอีกครั้ง (ร้องไห้)”

ได้รับการตอบรับ?
หฤทัย : “ได้ค่ะ ก็เร็วนะคะที่ได้รับการตอบรับ (เสียงสั่นเครือ) ท่านก็ให้หมอหลวงโทรมาคุยกับคุณหมอที่รักษาน้องอยู่ว่าย้ายได้มั้ย อาการเป็นยังไง แต่สุดท้ายมันทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้วเพราะเคลื่อนย้ายอะไรก็ไม่ปลอดภัยสำหรับเขาแล้ว ณ ปัจจุบัน ความดันต่ำลงมากกว่าช่วงแรก เครื่องช่วยหายใจต้องใช้ 100 เปอร์เซ็นต์ การเคลื่อนย้ายลำบาก เป็นไปได้ยาก”

การดูแลแม่ก็มีค่าเดินทาง ค่าใช้จ่าย คุณแม่ไม่เคยคิดจะรับเงินบริจาคจากส่วนไหนๆ เลยเพราะอะไร?
หฤทัย : “มีตร.ทางสน. เขาก็ร่วมกันรับบริจาคเป็นส่วนตัว ทางนั้นก็รวบรวมในหมู่เพื่อนตำรวจมามอบให้คุณแม่ ทางผู้ปกครองที่คุณแม่สอนที่โรงเรียนเขาก็ช่วยเหลือมาในส่วนหนึ่ง แต่จะให้มาตั้งโต๊ะรับบริจาคคุณแม่ไม่ขอรับค่ะ”

แม่สอนสมุทรปราการ?
หฤทัย : “สอนอยู่ที่กรุงเทพฯ พระรามสอง ตอนนี้ต้องอาศัยบ้านเพื่อนนอน แถวนครชัยศรี ยังไม่ได้กลับมาสอน เพราะพอกลับอาการน้องก็ทรุดลงอีก ผอ.เลยกรุณาให้ย้ายแม่ไปอยู่คาบเช้าเพราะน้องเยี่ยมได้ช่วงบ่าย”

 

ไร้ปาฎิหารย์! \"น้องใบหม่อน\" ถูกมอไซค์ซิ่งชนตรงทางม้าลาย เสียชีวิตแล้ว

น้องเขียนความฝันเอาไว้?
หฤทัย : “เขาเรียนวิชาแนะแนว ในนั้นมีเป้าหมายชีวิตสิ่งที่เขาอยากทำ”

น้องเขียนไว้ว่าเป้าหมายคือการศึกษา อยากเข้านิเทศจุฬาฯ อาชีพอยากเป็นนัแสดง นักร้อง อยากมีครอบครัวที่อบอุ่น คุณค่าสังคมชุมชน จะทำตัวเป็นคนดีต่อสังคม แล้วที่สำคัญความสุขความคิดของคุณคืออะไร เธอบอกว่าการได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข เวลาเห็นเราประสบความสำเร็จ ได้อยู่กับครอบครัวแบบครบทุกคน เป้าหมายอยากเก็บเงินซื้อบ้านให้แม่ อยากให้แม่อยู่บ้านดี สบายๆ ห้องใหญ่ๆ ปัจจุบันได้ทำความฝันตัวเองแลอยู่กับครอบครัว ได้อยู่กับคนที่เรารักและดีใจที่ทำความฝันได้สำเร็จแล้วบ้าง? 

หฤทัย : “(แม่น้ำตาไหล)”

คดีความจะทำยังไง?
ทนายเจมส์ : “แบ่งเป็นสองส่วน คดีแพ่งที่เจรจาจะช่วยบรรเทาโทษให้เขา อาจรออาญา สำนึกผิด บรรเทาความเสียหาย แต่กรณีที่เกิดขึ้นเหมือนผลักภาระให้สวัสดิการของรัฐทั้งนั้น ไม่แสดงความรับผิดชอบส่วนที่ตัวเองได้กระทำลง ไม่มีเลย กรณีแบบนี้โอกาสที่ศาลจะรอลงอาญาแทบไม่มี ในส่วนคดีแพ่งถ้าเกิดมีการฟ้องคดีอาญาไปแล้ว แนะนำให้ไปยื่นคำร้องเข้าไปในคดีอาญา อาจไม่ต้องจ้างทนาย ยื่นคำร้องเข้าไป นำบรรยายความเสียหายที่เกิดขึ้น ค่ารถ ค่ารักษา ค่าที่เราต้องวิ่งเข้าวิ่งออก ใบเสร็จนอกเหนือจากที่เราซื้อของ สุดท้ายคือค่าขาดประโยชน์จากการที่เด็กคนนี้เติบโต เป็นค่าขาดประโยชน์”

ในมุมอาญา?
ทนายเจมส์ : “คดีนี้เขาเรียกว่าประมาท ทำให้คนอื่นได้รับความสาหัส ถ้าไม่มีการบรรเทาความเสียหาย ไม่สำนึกผิด ศาลรอลงอาญา การเอากระเช้าไปให้ต้องดูว่าเป็นการสำนึกผิดหรือแค่ไปเยี่ยมเบื้องต้น การสำนึกผิดต้องมีมากกว่านี้ อย่างที่เคยเจอ เขาทำผิด เขาซื้อผลไม้ไปเยี่ยม ซื้อผ้าผลัดเปลี่ยนไปให้ ที่นอนไปให้”

มีมั้ยแม่?
หฤทัย : “แม่เขาซื้อนมยูเอชทีมาให้แต่น้องทานไม่ได้ หมอไม่ให้ทาน”

แม่อยู่กับน้องตลอด?
หฤทัย : “ค่ะ ก็บอกน้องว่าตื่นมาได้แล้ว อาม่า อี๊ อาม่าอากงเขารออยู่ เราคุยกันเรื่อยๆ ว่าพี่สาวแม่ก็ไม่มีลูก น้องสาวแม่ก็ไม่ได้แต่งงาน มีครอบครัว มีเขาเป็นหลานที่ใกล้ชิดที่สุดคนเดียว ก็บอกว่าเดี๋ยวหม่าม๊า อี๊แก่ไป หนูหม่อนดูแลเราด้วยนะ เราจะทำรถเข็นแฝดสาม นั่งไปให้หนูเข็น ก็คุยกับเขาแบบนี้ ให้เขารีบตื่นมา เขากินเก่ง จะพาไปกินของอร่อยๆ”

มีบันทึกค่าเสียหาย?
ทนายเจมส์ : “ต้องแยกส่วนกันก่อน ส่วนรับสารภาพว่าทำผิดหรือไม่ผิด ในส่วนมนุษยธรรม ที่แยกต่างหากเรื่องของกรมธรรม์ พรบ. ประกันชีวิตอะไรก็แล้วแต่มันต้องมี ถ้าไม่มีก็ไม่รู้จะพูดยังไง เป็นการแสดงความรับผิดชอบในการกระทำ นี่ไม่มีอะไรเลย มีแต่ตัวเลขแล้วมีการมาตัดพ้อ คนเราเสียหายด้านจิตใจ หาอะไรมาเยียวยาไมได้อยู่แล้ว มาพูดแบบนี้บั่นทอนจิตใจกันมากกว่า”

มีทนายหรือยัง?
หฤทัย : “ตอนนี้ไม่มี เพราะโฟกัสที่น้อง กาตกลงครั้งที่สอง ตร.ให้แม่เป็นฝ่ายนัด แต่แม่ไม่พร้อมเพราะไม่รู้น้องจะว่ายังไง”

อยากให้มีปาฏิหาริย์อะไรเกิดขึ้น?
หฤทัย : “แค่น้องสามารถหายใจเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งเครื่อง หัวใจเต้นเองได้โดยไม่ต้องพึ่งยา แม่ก็ดีใจแล้ว ไม่ว่าเขาจะกลับมาเป็นยังไงก็ตาม ที่บ้าน แม่และครอบครัวรับได้หมด” 

อย่างไรก็ตาม หลังจากอัดรายการโหนกระแส แม่ก็รู้ข่าวร้ายว่าลูกเสียชีวิตแล้ว ในเวลา15.00 น. น้องใบหม่อน ได้เสียชีวิตลงแล้ว ที่โรงพยาบาลนครปฐม  

 

โดยทางด้าน นางสาวหทัยภัทร ตันตสิรินทร์ อายุ 15 ปี หรือน้องใบหม่อน นักศึกษาศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลป์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ซึ่งถูกรถจักนยานยนต์บิ๊กไบค์ ฝ่าสัญญาณไฟแดงสำหรับคนข้ามถนนและพุ่งชนออย่างจังหลังเลิกเรียน ซึ่งยังไม่ได้สติ อาการสาหัส ที่ห้อง ICU รพ.ศูนย์นครปฐม เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ได้เสียชีวิตลงแล้ว เมื่อเวลา 14.00 น.เศษ หลังนอนรักษาตัวได้ 17 วัน