- 11 ก.พ. 2562
เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ลงพื้นที่ตรวจสอบแมงกะพรุนหัวขวดที่เริ่มกลับมาอีกครั้งบริเวณชายหาดแหลมสมิหลา ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บไปเมื่อวานนี้2คนเป็นสองพ่อลูก พบถูกคลื่นซัดขึ้นมาบริเวณชายหาดหลายตัว เตือนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะเด็กระวังเนื่องจากเป็นลักษณะคล้ายลูกโป่งสีฟ้าและลอยน้ำ แต่พิษไม่อันตรายถึงชีวิต
ความคืบหน้ากรณีพบแมงกะพรุนหัวขวด ซึ่งเป็นแมงกะพรุนพิษบริเวณชายหาดแหลมสมิหลา และทำให้นักท่องเที่ยวซึ่งเป็นพ่อและลูกสาวอายุ7 ขวบถูกพิษแมงกะพรุนตามร่างกายจนต้องส่งโรงพยาบาลเมื่อวานนี้และช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นฤดูกาลที่พบแมงกะพรุนชนิดนี้ระบาดมาตั้งแต่ปี2558
ล่าสุดในวันนี้(11ก.พ.)ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง จ.สงขลา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณชายหาดชลาทัศน์แหลมสมิหลา เพื่อสำรวจปริมาณว่ามีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งพบแมงกะพรุนหัวขวดถูกคลื่นซัดขึ้นมาบริเวณชายหาดหลายตัวเจ้าหน้าที่จึงเก็บตัวอย่างไปตรวจสอบ แต่ในช่วงเช้าถึงเที่ยงยังมีปริมาณค่อนข้างน้อย เนื่องจากอยู่ในภาวะน้ำขึ้นน้ำลงและคลื่นลมที่พัด
ด้านนายสันติ นิลวัฒน์ นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษ เปิดเผยว่า เริ่มพบแมงกะพรุนหัวขวดเป็นจำนวนมาก ในเดือนกุมภาพันธ์ย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 2558 แมงกะพรุนหัวขวดชนิดนี้มีลักษณะคล้ายลูกโป่งสีฟ้าและลอยน้ำ ส่วนใหญ่ที่โดนจะเป็นเด็ก เพราะว่านึกว่าลูกโป่งแล้วจับเล่น ส่วนพิษของแมงกะพรุนหัวขวดไม่ได้อันตรายถึงชีวิตแต่ก็ทำให้เจ็บปวด
ขณะนี้ทางศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่างจะนำป้ายเตือนและวิธีการรักษาหากโดนแมงกะพรุนพิษติดตั้งไว้บริเวณชายหาดพร้อมกับเตือนให้นักท่องเที่ยวระวังขณะลงเล่นน้ำทะเลหรือที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาบนชายหาด
สำหรับชนิดของแมงกะพรุนพิษดังกล่าว มีลักษณะคล้ายกับแมงกะพรุนหัวขวด ( Blue Bottle Jellyfish ) ส่วนวิธีช่วยเหลือผู้ที่โดนพิษแมงกะพรุนให้ราดด้วยน้ำส้มสายชูบริเวณที่สัมผัสแมงกะพรุนให้ทั่วอย่างน้อย 30 วินาที ห้ามใช้น้ำจืดล้างโดยเด็ดขาด เนื่องจากจะกระตุ้นกระเปาะพิษให้เพิ่มมากขึ้นละห้ามถู หรือ ขยี้ เพราะจะยิ่งทำให้พิษกระจายเลี่ยงการใช้เทคนิคพันรัดแน่นด้วยผ้ายืดหากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที
นภาลัย ชูศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.สงขลา